Tag Archives: โบราณ

ถ้ำเขาคูหา สงขลา ถ้ำขุดพันปีเก่าแก่ที่สุดในไทย อารยธรรมฮินดูโบราณ

ผมได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ วัดพะโคะ จ.สงขลา และด้วยความบังเอิญระหว่างการเดินทาง ผมได้ดูแผนที่บน Google Map เห็นลักษณะภูมิศาสตร์ คล้ายสระน้ำอยู่ใกล้เคียงกับวัดพะโคะ และทราบว่าคือแหล่งชุมชนโบราณ ที่เรียกกันว่า “โบราณสถานถ้ำเขาคูหา” ที่ปรากฏร่องรอยโบราณสถาน การอยู่อาศัย และพิธีกรรมในศาสนาพราหมณ์ของมนุษย์เมื่อกว่าพันปีที่แล้ว หลังจากเที่ยววัดพะโคะ ผมจึงได้เดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าว ซึ่งอยู่ห่างกันเพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น เราจะมองเห็นภูเขาลูกเตี้ยๆอยู่เบื้องหน้า แล้วมีถนนเส้นเล็กๆเชื่อมต่อไปยังโบราณสถานถ้ำเขาคูหาแห่งนี้ เขาคูหา ปรากฏถ้ำขุด 2 ถ้ำหันหน้าไปทางทิศตะวันออก วางตัวในแนวทิศเหนือและใต้ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี ซึ่งเป็นหนึ่งในชุมชนโบราณ ในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ งานวิจัยเรื่อง เขาคูหาถ้ำศาสนสถาน สมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์บนคาบสมุทรสทิงพระ โดยธัชวิทย์ ทวีสุข มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้กล่าวสรุปว่า เป็นคูหาถ้ำในศาสนาพราหมณ์ที่ขุดขึ้นโดยฝีมือมนุษย์ในสมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ ราวพุทธศตวรรษที่ 12- 14 ตั้งอยู่บนคาบสมุทรสทิงพระ โดยมีชาวอินเดีย โดยเฉพาะอินเดียใต้ได้เดินทางเข้ามาเพื่อทำการค้า และมีการตั้งชุมชนและศาสนสถานเพื่อประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อของตนในพื้นที่แถบนี้ ผมได้เดินเข้าไปชมถ้ำที่ 1 ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือ พบว่าเป็นถ้ำที่ถูกเจาะเป็นรูปโค้งมน กว้างประมาณ 5 เมตร ลึกเข้าไปราว 8 เมตร มีแท่นฐานด้านใน น่าจะเป็นที่ตั้งรูปเคารพ ทางด้านซ้ายมือของถ้ำจะมีร่องน้ำที่เซาะให้น้ำไหลออกไปทางปากถ้ำ และมีอ่างกลมอยู่ด้านนอก ซึ่งน่าจะเป็นการรับน้ำศักดิ์สิทธิ์จากภายในถ้ำเพื่อประกอบพิธีกรรมด้านนอกอีกด้วย โดยพบหลักฐานว่า ด้านหน้าถ้ำจะมีแท่นบูชาศิวลึงค์ และร่องรอยของโบราณสถานที่พังทลายไปแล้ว จากนั้นผมได้เดินไปยังถ้ำที่ 2 ทางทิศใต้ พบว่ามีลักษณะการเจาะเป็นถ้ำคล้ายกัน แต่ด้านในผนังถ้ำ ปรากฏรอยรูปวงกลมเขียนด้วยสีแดง ซึ่งนักโบราณคดีสันนิษฐานว่า… Read More »

เมืองโบราณพันปีไพศาลี และเมืองเก่าเวสาลี นครสวรรค์

วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยังเมืองเก่าเวสาลี ตั้งอยู่ที่ตำบลสำโรงชัย อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ การเดินทางถือว่ามีความสะดวก รถยนต์สามารถเข้าถึงได้ กลุ่มโบราณสถานแห่งนี้ได้รับการสำรวจตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 โดยกรมศิลปากร กำหนดอายุอยู่ในสมัยอยุธยาตอนกลางเป็นต้นไป ความพิเศษของกลุ่มโบราณสถานแห่งนี้คือ เคยเป็นส่วนหนึ่งของเมืองโบราณไพศาลี ซึ่งเป็นเมืองโบราณอายุกว่าพันปี ในสมัยทวารวดีอีกด้วย แผนผังการสำรวจเมืองโบราณไพศาลี เมื่อปี พ.ศ.2511 ได้ระบุตำแหน่งของกลุ่มโบราณสถานเมืองเก่าเวสาลี จะตั้งอยู่ทางทิศะวันออกเฉียงใต้ของเมืองโบราณไพศาลี งานวิจัยการพัฒนาการทางวัฒนธรรมของชุมชนแรกเริ่ม ในเขตอำเภอไพศาลี โดย นฤพล หวังธงชัยเจริญ มหาวิทยาลัยศิลปากร พบว่ามีการพัฒนาการของชุมชนมนุษย์มาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ จนถึงสมัยทวารวดี เช่นเดียวกับเมืองโบราณอื่นๆ ที่ค้นพบในลพบุรีและนครสวรรค์ จากนั้นได้พัฒนาการใช้งานในสมัยอยุธยา จากหลักฐานโบราณสถานในกลุ่มเมืองเก่าเวสาลี เมืองโบราณไพศาลี ในสมัยทวารวดี เดิมมีแผนผังคล้ายสี่เหลี่ยมมุมมน มีคูน้ำคันดินล้อมรอบ ปัจจุบันถ้าดูแผนที่จาก Google Earth จะยังคงมองเห็นคูคันดิน และคูน้ำล้อมรอบในบางส่วน มีขนาดเมืองยาวประมาณ 700 เมตร กว้าง 500 เมตร เป็นรูปแบบเมืองโบราณทวารวดีที่ปรากฏให้เห็นโดยทั่วไป และคงมีความสัมพันธ์เชื่อมต่อกับเมืองโบราณแถบภาคกลางของไทย ได้แก่ นครสวรรค์ ลพบุรี เพชรบูรณ์ สำหรับเมืองเก่าเวสาลีเป็นพัฒนาการต่อเนื่อง มาถึงสมัยอยุธยา โบราณสถานประกอบไปด้วย โบสถ์ วิหาร มณฑป ปรางค์ ซึ่งเป็นโบราณสถานที่ก่อด้วยอิฐและได้รับการบูรณะแล้ว เมืองเก่าเวสาลีแห่งนี้คงถูกทิ้งร้างในช่วงเวลาหนึ่ง จนกระทั่งถึงสมัยอยุธยา จึงมีการบูรณะและสร้างกลุ่มโบราณสถานแห่งนี้ขึ้น ปัจจุบันตัวเมืองโบราณถูกปรับสภาพและผ่านกาลเวลามานานนับพันปี จึงไม่พบซากโบราณสถานใดๆ เราจึงได้ท่องเที่ยวเพียงกลุ่มโบราณสถานเมืองเก่าเวสาลี ที่มีอายุอยู่ในสมัยอยุธยา ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองโบราณเท่านั้น  สุดท้ายนี้ขอขอบคุณการติดตาม แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไปครับ… Read More »

เมืองโบราณบ้านคูเมือง สิงห์บุรี จากเมืองโบราณพันปีสู่สวนรุกขชาติ

วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยังเมืองโบราณทวารวดีอีกแห่งหนึ่งในภาคกลาง นั่นก็คือ “เมืองโบราณบ้านคูเมือง” สิงห์บุรี ปัจจุบันพื้นที่ได้ถูกจัดสรรเป็นสวนรุกขชาติคูเมือง เพื่อการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช เมืองโบราณแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ ต.ห้วยชัน อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี มีสัณฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมมุมมน และยังปรากฏคูน้ำคันดินล้อมรอบอย่างชัดเจน ภายในเมืองโบราณมีขนาดกว้าง 650 เมตร ยาว 750 เมตร สูงจากพื้นที่โดยรอบประมาณ 1 เมตร ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำสำคัญคือ แม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศตะวันออก และแม่น้ำน้อยทางทิศตะวันตก และมีลำน้ำเครือข่ายอยู่โดยรอบ การขุดสำรวจภายในคูเมืองไม่หลงเหลือซากของโบราณสถาน  แต่พบหลักฐานทางโบราณวัตถุและร่องรอยการอยู่อาศัยของมนุษย์โบราณ หลังการสำรวจ จึงได้จัดสรรพื้นที่ให้เป็นสวนรุกขชาติ เพื่อการอนุรักษ์พันธุ์พืชและเป็นแหล่งโบราณคดี การขุดสำรวจทางโบราณคดี ตั้งแต่ปี 2511-2526 พบโบราณวัตถุทางพระพุทธศาสนา อาทิ ธรรมจักร พระพุทธรูป เศียรพระพุทธรูป และโบราณวัตถุอื่นๆ เช่น เครื่องปั้นดินเผา แวดินเผา ลูกปัด เป็นต้น คุณภัทราวดี ดีสมโชค นักโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา ได้ดำเนินการสำรวจครั้งล่าสุดเมื่อปี 2560 พบหลักฐานทางโบราณคดี เป็นโครงกระดูกเด็ก โครงกระดูกสัตว์ เครื่องประดับลูกปัดต่างๆ เครื่องปั้นดินเผาและ เศษภาชนะดินเผาที่มีอักษรปัลลวะ การหาค่าอายุทางวิทยาศาสตร์ จากโครงกระดูกมนุษย์และสัตว์ ด้วยวิธีคาร์บอน 14 พบว่ามีอายุในช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 10 – 12 ในส่วนโบราณวัตถุที่พบ จะอยู่ในช่วงสมัยทวารวดี พุทธศตวรรษที่… Read More »

เทือกเขางู ราชบุรี อารยธรรมวิหารถ้ำโบราณพันปี

ก่อนหน้านี้ผมเคยเดินทางไปชมถ้ำฤาษี เทือกเขางู เมืองราชบุรีมาแล้ว ซึ่งเทือกเขาแห่งนี้ ประกอบด้วยถ้ำหลายแห่ง ที่เคยเป็นสถานที่ทางศาสนา มาตั้งแต่สมัยทวารวดี และน่าจะมีความเชื่อมโยงกับเมืองโบราณคูบัว ที่ห่างออกไปไม่ถึง 20 กิโลเมตรเท่านั้น ผมได้มีโอกาสเดินทางไปยังจังหวัดราชบุรีอีกครั้ง เพื่อไปชมถ้ำต่างๆบนเทือกเขางู ที่ประกอบไปด้วยถ้ำหลักๆ 4 ถ้ำได้แก่ ถ้ำฤาษี ถ้ำจีน ถ้ำจาม และถ้ำฝาโถ ซึ่งแต่ละถ้ำล้วนพบร่องรอยการใช้พื้นที่ในทางศาสนา ได้แก่ภาพสลักและลวดลายปูนปั้นในศาสนาพุทธ อีกทั้งยังพบว่ามีภาพสลักพระพุทธรูปปางปรินิพพาน ที่ถือว่าเป็นภาพสลักผนังถ้ำที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย จุดแรกที่เราจะเดินทางขึ้นไปสักการะคือที่ถ้ำฤาษี จะเป็นถ้ำที่อยู่ไม่สูง นับได้คงไม่เกิน 40 ขั้นบันไดเท่านั้น จึงเป็นจุดที่หลายท่านคุ้นเคย และได้เข้าชมและสักการะมากที่สุด ถ้ำฤาษี ภายในเป็นถ้ำตื้นๆมีหลืบช่องเป็นถ้ำย่อยอีก 2 ถ้ำ มีพระพุทธรูปหลายองค์ พระพุทธรูปสำคัญของถ้ำฤาษีคือ สลักพระพุทธรูปประทับนั่งห้อยพระบาทปางแสดงธรรม มีความสูงราว 2.5 เมตร จากฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ได้ระบุว่าปรากฏจารึกโบราณที่ฐานพระบาทลักษณะรูปอักษรเหมือนรูปอักษรที่ใช้อยู่ในสมัยราชวงศ์ปัลลวะ ประเทศอินเดีย ประมาณพุทธศตวรรษที่ 11-12 ยอร์ช เซเดส์ ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชาวฝรั่งเศส เคยขึ้นมาสำรวจเมื่อปีพ.ศ.2472 และทำการอ่านชำระเพิ่มเติมคำแปลและคำอธิบายเมื่อปี พ.ศ.2504 จนกระทั่งในปี พ.ศ.2529 อาจารย์ชะเอม แก้วคล้าย ผู้เชี่ยวชาญด้านจารึกโบราณ ได้ทำการอ่านและแปลจารึกนี้ใหม่อีกครั้ง ความแปลพอสังเขป อธิบายว่าอาจเป็นการบอกชื่อของผู้สร้างพระพุทธรูป ในที่นี้คือ ฤาษีสมาธิคุปตะ หรือ พระศรีสมาธิคุปตะ ว่าเป็น ผู้บริสุทธิ์ ด้วยการทำบุญ จากจารึกนี้ จึงมีการสร้างรูปฤาษีในหลืบถ้ำเพื่อเป็นการแสดงถึงสถานที่บำเพ็ญพรตของฤาษีผู้สร้างพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้นมา… Read More »

โบสถ์ร้างในหมู่บ้าน เก่าแก่โบราณกว่าร้อยปี วัดหนองเค็ด ฉะเชิงเทรา

หลังจากที่ผมได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่จังหวัดสระแก้ว ระหว่างทางกลับผมตั้งใจที่จะแวะพักดื่มกาแฟที่ ไลฟ์เฮ้าส์ คิทเช่น อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดหนองเค็ด จึงนึกขึ้นได้ว่า “วัดหนองเค็ด” มีโบราณสถานที่น่าสนใจหลบซ่อนอยู่  นั่นก็คือโบสถ์หลังเก่าที่มีอายุกว่าร้อยปี ผมจึงได้ถือโอกาสนี้ แวะเข้าไปเก็บภาพ วัดหนองเค็ด ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เดิมพื้นที่วัดหนองเค็ด จะอยู่ลึกเข้าไปในหมู่บ้านลึกเข้าไปจากถนนหลายเลข 304 เข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร ไม่ได้ตั้งอยู่ริมถนนเช่นปัจจุบันนี้ โบสถ์หลังใหม่สร้างเมื่อปี 2516 แต่โบสถ์หลังเก่าที่อยู่ลึกเข้าไป ยังคงหลงเหลือให้เห็นถึงปัจจุบันนี้ และผมจะพาทุกท่านเข้าไปชมครับ ในหนังสือประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เขียนไว้ว่า วัดหนองเค็ด ตั้งมาตั้งแต่ปี 2375 ซึ่งมีข้อมูลไม่มากนัก ผมจึงไปพบข้อมูลในกลุ่มเฟสบุ๊คหอจดหมายเหตุบางคล้า ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า “วัดหนองเค็ด” ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ตั้งแต่ปี 2426 และได้รับพระราชทานตั้งชื่อใหม่ว่า “วัดพนมพนาวาศ”  แต่ชาวบ้านยังคงใช้ชื่อวัดหนองเค็ดตามชื่อของหมู่บ้าน ในจดหมายเหตุพระราชกิจรายวันฯ ระบุ จ.ศ.1245 ตรงกับปี พ.ศ.2426 เป็นปีที่วัดหนองเค็ด ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา และได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดพนมพนาวาศ”  โบสถ์หลังเก่าวัดหนองเค็ด มีขนาดเล็ก ลักษณะเป็นโบสถ์โล่ง มีเสาไม้ หลังคาสังกะสี ภายในมีฐานชุกชีและประดิษฐานพระพุทธรูป 1 องค์ที่เคยเป็นพระประธาน แต่มีสภาพที่ทรุดโทรมอย่างหนักด้วยกาลเวลาที่ผ่านมานานกว่าร้อยปี โครงสร้างภายในมีความชำรุดพอสมควรจากปลวกที่ขึ้นกินเนื้อไม้ เกรงว่าจะพังทลายลงมา แต่ชาวบ้านในพื้นที่มีความหวงแหน จึงได้ร่วมกันอนุรักษ์โครงสร้างเดิม โดยการสร้างหลังคาถาวรขึ้นปกคลุมไว้ เพื่อย้ำเตือนความทรงจำในความศรัทธาของบรรพบุรุษ ที่ร่วมสร้างโบสถ์หลังนี้ขึ้น… Read More »

“เขาคลังหน้า” หรือจะเป็นสถูปพันปีอีกแห่งของเมืองโบราณศรีเทพ

พื้นที่การเกษตร ห่างจากเมืองโบราณศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ไปทางทิศใต้ ราว 10 กิโลเมตร ปรากฏร่องรอยเนินดินขนาดใหญ่ ที่สันนิษฐานว่าจะเป็นโบราณสถานขนาดใหญ่ใกล้เคียงกับเขาคลังใน ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า “เขาคลังหน้า” ผมได้เดินทางไปท่องเที่ยวเมืองโบราณศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ เมืองโบราณพันปี สมัยทวารวดี ที่สืบทอดการอยู่อาศัยของมนุษย์มายาวนาน ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย จากหลักฐานโครงกระดูกมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ โบราณสถานสำคัญของเมืองศรีเทพ ที่หลายท่านรู้จักกันดี อาทิ ปรางค์ศรีเทพ ปรางค์สองพี่น้อง เขาคลังใน ปรางค์ฤาษี เขาคลังนอก เป็นต้น ด้วยอาณาเขตของเมืองศรีเทพมีขนาดใหญ่ จากการสำรวจจึงพบร่องรอยโบราณสถานและกิจกรรมของมนุษย์ยุคโบราณ กระจายตัวนอกเขตคูเมืองโบราณอย่างกว้างขวาง ทำให้ทราบว่า ยังมีปริศนาที่ยังไม่ผ่านการสำรวจอีกจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นชุมชนโบราณ และโบราณสถานที่ยังไม่ขุดค้น เมื่อเร็วๆนี้ สภาวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์และสภาวัฒนธรรมอำเภอศรีเทพ ได้ร่วมกันสำรวจพื้นที่เมืองโบราณศรีเทพด้วยเทคโนโลยีไลดาร์ ซึ่งย่อมาจาก Light Detection and Ranging ด้วยการยิงเลเซอร์ทางอากาศ กระทบกับวัตถุต่างๆบนพื้นโลก เพื่อวัดช่วงระยะทางที่แปรผันกับผิวโลก แล้วคำนวณสร้างภาพสามมิติ  หนึ่งในจุดสำรวจคือ พื้นที่เนินดินขนาด 13 ไร่ ท่ามกลางพื้นที่เกษตรกรรม ต.คลองกระจัง อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ เป็นสถานที่ที่หลายท่านอาจไม่เคยรู้จัก ยกเว้นคนในพื้นที่ ที่เรียกกันว่า “เขาคลังหน้า” ซึ่งสถานีข่าว Thai PBS ได้เผยแพร่ออกอากาศการสำรวจครั้งนี้ และได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ผมได้เดินทางไปชมสถานที่จริง เส้นทางห่างจากเมืองโบราณศรีเทพราว 10 กิโลเมตร พบว่าปัจจุบันมีการสร้างที่พักสงฆ์ และก่อสร้างรูปเคารพ โดยรอบเป็นพื้นที่เกษตรกรรม… Read More »