ตามรอยกรุมหาสมบัติ วัดราชบูรณะ พระนครศรีอยุธยา

จากบทความเดิมที่ผมเขียนไว้สั้นๆ  กรุสมบัติ วัดราชบูรณะ อุทยานประวัติศาสตร์มรดกโลก อยุธยา ที่กล่าวไว้เกี่ยวกับโจรที่ลงไปขโมยทองคำในกรุสมบัติ เมื่อปี พ.ศ. 2500 พร้อมคลิปวีดีโอจาก YouTube >>> อ่านบทความ วัดราชบูรณะ และวัดเจ้าชาย (วัดกระซ้าย) วัดเฮี้ยนติดอัน 8 เอเชีย <<< !! ที่นี่ และในวันนี้ผมได้มีโอกาสเดินทางไปสถานที่จริง ที่วัดราชบูรณะ โดยทางกรมศิลปากรได้อนุญาติให้นักท่องเที่ยวสามารถที่ลงไปยังกรุสมบัติได้ ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวกันเยอะขึ้น วัดราชบูรณะอยู่ตรงข้ามกับวัดมหาธาตุ คนละฝั่งถนน อยู่บริเวณของเกาะเมือง เป็นวัดร้างที่นักท่องเที่ยวนิยมมากันค่อนข้างมาก เท่าที่ผมเห็นจะมีนักท่องเที่ยวจากประเทศตะวันตกมากพอสมควร โดยจะนิยมปั่นจักรยานเที่ยวทั่วบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ https://youtu.be/mHumxj7dObs ตามบันทึกในพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐได้บันทึกไว้ว่า เมื่อปี พ.ศ. 1967 สมเด็จพระนครินทราธิราชได้เสด็จสวรรคต พระราชโอรสองค์โตคือ เจ้าอ้ายพระยา ซึ่งครองเมืองสุพรรณ และเจ้ายี่พระยา พระราชโอรสองค์รอง ซึ่งครองเมืองสรรค์บุรี ได้ทำยุทธหัตถีเพื่อแย่งชิงราชสมบัติ จนสิ้นพระชนม์ ทั้งสองพระองค์ ณ เชิงสะพานป่าถ่าน ทำให้เจ้าสามพระยา พระราชโอรสองค์เล็ก ซึ่งครองเมืองชัยนาท ได้เสวยราชสมบัติแทน โดยมีพระนามว่า “สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2” พระองค์จึงได้โปรดเกล้าให้สร้างเจดีย์ 2 องค์ เพื่อระลึกแด่พระเชษฐาทั้งสองไว้ที่เชิงสะพานป่าถ่าน ซึ่งเป็นบริเวณที่พระเชษฐาทั้งสองทำยุทธหัตถีกัน และได้ทรงสถาปนาวัดราชบูรณะขึ้นมาในปี พ.ศ. 1967 รูปแบบแผนผังของวัดราชบูรณะจะเป็นแบบที่นิยมสร้างกันในสมัยอยุธยาตอนต้น โดยจะมีพระวิหารอยู่ด้านหน้า และถัดเข้าไปจะเป็นพระปรางค์ประธาน และมีพระอุโบสถอยู่ด้านหลัง ซึ่งรูปแบบนี้จะเป็นการวางผังที่ให้ความสำคัญกับพระปรางค์ประธานมากที่สุด พระวิหารหลวง… Read More »

วัดกุฎีทอง อยุธยา ที่ตั้งทัพเข้าโจมตีกรุงศรีอยุธยาของพระยาละแวก

วัดกุฎีทอง ที่ตั้งทัพเข้าโจมตีกรุงศรีอยุธยาของพระยาละแวก ผมได้มีโอกาสเดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกครั้ง โดยครั้งนี้วางแผนจะเดินทางไปชมวัดที่ไม่ค่อยจะคุ้นเคยกันนัก สำหรับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ นั่นก็คือวัดกุฎีทอง ถ้าจะดูตามแผนที่ท่องเที่ยวพระนครศรีอยุธยาของ ททท. จะไม่เห็นวัดนี้ในแผนที่ จึงทำให้ไม่ค่อยจะมีผู้คนรู้จักกันนัก ทั้งๆที่วัดนี้อยู่ที่ถนนอู่ทอง ตรงข้ามกับวัดธรรมิกราช ติดริมแม่น้ำลพบุรี ไม่ห่างจากวัดหน้าพระเมรุมากนัก แม้จะไม่ค่อยมีใครรู้จัก แต่ก็สามารถเดินทางไปกันได้ไม่ยาก โดยให้ไปตามเส้นทางถนนอู่ทอง จะเห็นป้ายวัดกุฎีทองตรงข้ามวัดธรรมิกราชครับ แนะนำว่าถ้าเอารถมาเองให้ไปจอดรถในวัดธรรมิกราช แล้วเดินข้ามฝั่งมาจะดีกว่า เพราะซอยจะเล็กและแคบ ไม่มีที่จอดรถและเราต้องเดินข้ามสะพานไม้ไปยังวัดกุฎีทองด้วย ความน่าสนใจของวัดนี้ที่ทำให้ผมเดินทางมาท่องเที่ยว เนื่องมาจากตามพงศาวดาร ได้กล่าวไว้ว่า วัดกุฎีทองเป็นวัดที่สร้างก่อนสมัยสร้างกรุงศรีอยุธยา ซึ่งผมคิดว่าเป็นวัดที่น่าสนใจ เพราะมีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก ทางเข้าวัดจะอยู่ตรงข้ามวัดธรรมิกราช เป็นซอยแคบๆ จึงไม่ควรนำรถส่วนตัวเข้าไป เมื่อเข้ามาในซอย จะต้องเดินข้ามสะพานไม้ข้ามแม่น้ำลพบุรี เพื่อจะข้ามฝั่งไปยังวัดกุฎีทอง บริเวณเชิงสะพานจะมีศาลเจ้าพ่อหลักเมืองอยู่ด้วยครับ เมื่อเดินข้ามฝั่งแม่น้ำมา จะต้องเดินเข้าไปอีกประมาณ 100 เมตรก็จะเข้าถึงบริเวณพระอุโบสถ ซึ่งเป็นพื้นที่ของโบราณสถานที่ผมตั้งใจจะไปเที่ยวชมครับ ซุ้มประตูและกำแพงแก้ว ความโดดเด่นที่เห็นได้ชัดเจนคือซุ้มประตู หน้าพระอุโบสถและกำแพงแก้ว ที่ทางวัดยังคงอนุรักษ์ไว้แม้จะทรุดโทรมอย่างมาก เมื่อดูแล้วรู้สึกถึงความเข้มขลังมากครับ ประตูซุ้ม เหลือเพียงประตูทางด้านหน้า เป็นประตูซุ้มมีแนวกำแพงก่ออิฐสอปูน สันกำแพงคล้ายหลังคาโค้งแหลม เป็นแบบศิลปะที่รับอิทธิพลมาจากประเทศตะวันตกในสมัยอยุธยาตอนปลาย มีลักษณะคล้ายกำแพงแก้วของวัดพุทไธสวรรย์  ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจจะมีการบูรณะซ่อมแซมในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นด้วย พระอุโบสถ ตั้งอยู่บนโคกหรือเนินดินค่อนข้างสูง สันนิษฐานว่าเป็นโคกโบราณที่ตั้งวัดเดิม ตัวอุโบสถที่เห็นอยู่ปัจจุบัน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย และได้รับการบูรณะแต่ยังคงรูปทรงแบบเดิมเอาไว้ คือ มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่อมผืนผ้า ยกฐานสูงประมาณ 2 เมตรเศษ ผนังตรงกลางหรือผนังหุ้มกลองด้านหน้าและด้านหลังก่อเป็นชาลายื่นออกมา มีบันไดขนาบด้านละสองข้าง ผนังด้านข้างมีซุ้มหน้าต่างข้างละเจ็ดช่อง ฐานอุโบสถอ่อนโค้งท้องสำเภาประดับแข้งสิงห์ ลานประทักษิณกว้างใหญ่มีเสมาคู่ตั้งอยู่ทั้งแปดทิศ ภายในพระอุโบสถ พระประธานเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทองปางมารวิชัย… Read More »

ชมโบสถ์ในต้นไม้ UNSEEN THAILAND เที่ยวชมตลาดยามเย็นริมคลองอัมพวา

โปรโมชั่นท่องเที่ยวชมตลาดยามเย็นริมคลองอัมพวา ตลาดร่มหุบที่แม่กลอง ท่องเที่ยวชายทะเลดอนหอยหลอด แวะชมโบสถ์ในต้นไม้ ณ วัดบางกุ้ง 1 ใน UNSEEN THAILAND พร้อมทานอาหารทะเลสดๆ สำหรับ 2 ท่าน เพียง 990 บาท (ปกติ 1,980 บาท ) ซื้อโปรโมชั่นได้ถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2557 เท่านั้น !!! คูปองโปรโมชั่นสามารถเริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2557 จนถึงวันที่ 28 กันยายน 2557 จุดเด่นของทัวร์นี้จะพาไปชมโบสถ์ในต้นไม้ซึ่งเป็น 1 ใน Unseen in Thailand ซึ่งอยู่ในพื้นที่วัดบางกุ้ง ภายในวัดมีโบสถ์เก่าประดิษฐาน “หลวงพ่อพุทธมณี” นิลพระประธานเป็นพระพุทธรูปปั้น ขนาดใหญ่ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “หลวงพ่อดำ” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ สมัยอยุธยาตอนปลาย สภาพโบสถ์จะถูกปกคลุมด้วยรากไม้มากมาย แม้ว่าจะเป็นโบสถ์ที่สร้างในสมัยอยุธยา แต่ก็ยังคงอยู่ได้จนถึงปัจจุบันก็เพราะรากไม้ที่ปกคลุมอยู่ ทำให้ดูแล้วเข้มขลัง ผู้มาเที่ยวชมจึงเปี่ยมไปด้วยพลังความศรัทธา การที่มีรากไม้ปกคลุมมากมาย จึงเรียกกันว่า “โบสถ์ปปรกโพธิ์” ภายในโบสถ์จะมีภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณอยู่ด้วย ตามประวัติ วัดบางกุ้ง พระเจ้าเอกทัศน์ ได้ตั้งกองทัพมาตั้งค่ายที่นี่ โดยสร้างกำแพงล้อมวัดไว้ เพื่อเป็นศูนย์รวมทางจิตใจให้แก่เหล่าทหาร จนกระทั่งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ก็ได้ถูกปล่อยทิ้งร้าง จนมาถึงสมัยพระเจ้าตากสินได้ทรงฟื้นฟูค่ายบางกุ้งมาอีกครั้งเพื่อไว้รับศึกจากพม่า นอกจากจะได้อิ่มบุญชื่นชมกับประวัติศาสตร์แล้ว… Read More »

ล่องเรือสุดหรู เจ้าพระยาครุยส์ บรรยากาศแสนโรแมนติก อิ่มอร่อยกับดินเนอร์นานาชาติ ราคาสุดพิเศษ

ล่องเรือหรู ชมบรรยากาศแสนโรแมนติก อิ่มอร่อยกับดินเนอร์บุฟเฟ่ต์นานาชาติ ที่ Chao Praya Cruises เจ้าพระยาครุยส์ ราคาสุดพิเศษเพียง 825 บาท (ปกติ 1,700 บาท )   ซื้อโปรโมชั่นได้ถึงวันที่ 15 กันยายน 2557 เท่านั้น !!! คูปองโปรโมชั่นสามารถเริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2557 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2557 หลายๆคนคงใฝ่ฝันที่จะได้เดินทางล่องเรือบนแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมบรรยากาศสุดหรูกับอาหารนานาชาติพร้อมการแสดงดนตรีอย่างโรแมนติกและนี่ก็เป็นโอกาศที่ดีสำหรับที่จะซื้อโปรโมชั่นพิเศษด้วยส่วนลดถึง 38% จากราคาเต็ม 1,700 บาท เหลือเพียง 825 บาทเท่านั้น รายละเอียดทั่วไป ล่องเรือดินเนอร์สุดหรู บนเส้นทางสายน้ำสายหลักของไทย เรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยา เรือเจ้าพระยาครุยส์ พร้อมให้บริการท่านด้วยอาหารเลิศรสและเสียงดนตรีที่ขับกล่อมให้ท่านเพลิดเพลินใจตลอดการล่องเรือ เรือเจ้าพระยาครุยส์ เป็นเรือทันสมัยที่หรูหรา ตกแต่งภายในแบบผสมผสานแบบไทยๆ พร้อมการบริการต่อลูกค้าอย่างมีระดับมีจำนวน 290 ที่นั่งการแสดงดนตรี แบบไทยๆ แบบดนตรีร่วมสมัย และอาหารแบบบุฟเฟ่ท์นานาชาติ มุมอาหารญี่ปุ่น ขนมหวานและผลไม้ตามฤดูกาลให้เลือกมากมาย โปรแกรมดินเนอร์ : 18.45 น. ลงทะเบียนบริเวณท่าน้ำที่ 1 ท่าเทียบเรือริเวอร์ซิตี้สี่พระยา (ซ.เจริญกรุง 30) 19.00 น. เชิญทุกท่านสัมผัสเรือสำราญเจ้าพระยาครุยส์ด้วยการต้อนรับอย่างอบอุ่นแบบไทย ๆ พร้อมเครื่องดื่ม… Read More »

อานิสงส์การซื้อบาตรถวายพระ และแนะนำวิธีซื้อบาตรพระ

ถ้าจะกล่าวถึงเครื่องใช้คู่กายพระสงฆ์แล้วก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของบาตรพระมาเป็นอันดับต้นๆ บาตรพระเป็นหนึ่งในอัฐบริขารทั้ง 8 อย่างของพระสงฆ์ที่มีระบุไว้ในพระวินัย ได้แก่ สบง (ผ้านุ่ง), จีวร (ผ้าห่ม), สังฆาฏิ (ผ้าพาดบ่า), ประคดเอว, บาตร, มีดโกนหรือมีดตัดเล็บ, เข็ม และกระบอกกรองน้ำ บาตร มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลและพระพุทธองค์ได้บัญญัติไว้มีอยู่ 2 ชนิดคือ “บาตรดินเผา” และ “บาตรเหล็ก”  และพระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้ใช้โลหะเงินและทองในการทำบาตร เพราะมีมูลค่าที่สูงเกินไปอาจจะเป็นอันตรายให้หมู่โจรมาจี้ปล้นได้ และไม่เหมาะกับพระสงฆ์ที่เป็นผู้มักน้อย ซึ่งอาจจะทำให้เกิดกิเลสขึ้นมาได้ สำหรับในปัจจุบันหลายๆวัดได้นิยมใช้บาตรแบบ “สแตนเลส” เพราะสามารถที่จะดูแลรักษาได้ง่าย ทำความสะอาดง่ายคงทน น้ำหนักเบา และราคาไม่แพงนัก โดยเฉพาะพระสงฆ์ที่บวชใหม่ อาจจะบวชตามประเพณี หรือบวชเรียนซึ่งมีระยะเวลาการบวชที่ไม่นาน จะนิยมใช้บาตรประเภทสแตนเลส อานิสงส์การซื้อบาตรและสิ่งของต่างๆถวายพระสงฆ์ เรื่องราวการถวายทานต่างๆมีปรากฏในคัมภีร์อปทาน ตอน ปิลินทวัจฉเถราปทาน หมายถึงเป็นเรื่องของพระปิลินทวัจฉะ ท่านเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าทรงยกย่องพระปิลินทวัจฉะว่า เป็นผู้เลิศกว่าพระภิกษุทั้งหลายในทางเป็นที่รักแห่งเทวดา ในอดีตชาติของพระปิลินทวัจฉะ มีเรื่องราวดังนี้ ในอดีตกาลผ่านมาแล้วแสนกัป ครั้งนั้นได้มีพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งอุบัติตรัสรู้เผยแผ่พระพุทธศาสนาอยู่ ในโลก ทรงพระนามว่า “พระปทุมุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้า” ทรงประกาศพระศาสนาตั้งหลักมั่นอยู่ที่พระนครหงสวดี พระปิลินทวัจฉะเกิดเป็นผู้มีทรัพย์ได้ถวายทานแก่พระภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขด้วยสิ่งของมากมายหลายอย่าง อานิสงส์แห่งการถวายทานด้วยสิ่งของต่างๆ ย่อมให้ผลต่างกันไป หลังจากสิ้นชีพจากโลกไป ก็ไม่เคยเวียนว่ายตายเกิดในทุกขภูมิ และในชาติสุดท้ายก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในที่สุด ตามเรื่องราวของคัมภีร์จะกล่าวถึงอานิสงส์การให้ทานต่างๆ 46 ประการของพระปิลินทวัจฉะ แต่จะขอกล่าวเพียงอานิสงส์การถวายบาตรพระ ซึ่งมีดังนี้ อานิสงส์ของการถวายเชิงรองบาตร ข้าพเจ้า(พระปิลินทวัจฉะ) ได้ถวายเชิงรองบาตรในพระสุคต และพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุด เป็นผู้ไม่มีภัยในเพราะวรรณะ 5… Read More »

เที่ยวทำบุญ วัดพุทไธศวรรย์ พระนครศรีอยุธยา

https://youtu.be/knWspjUhlSE เที่ยวทำบุญ วัดพุทไธศวรรย์ พระนครศรีอยุธยา เป็นวัดที่ได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวอีกวัดหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันนี้ผมได้มีเวลาว่างจึงได้เดินทางมาเที่ยวและทำบุญที่วัดพุทไธศวรรย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผมเคยเดินทางมาครั้งหนึ่งแล้วแต่ไม่ได้เดินชมทั่วบริเวณพื้นที่ แต่เท่าที่จำความได้ถึงความสวยงามของระเบียงคดที่มีพระพุทธรูปรายล้อมทั้งสี่ด้านของปรางค์ประธาน ครั้งนี้เลยตั้งใจว่าจะเดินชมความสวยงามให้ทั่วบริเวณ การเดินทางมาวัดพุทไธศวรรย์ ก็ถือว่าสะดวกดีครับเพราะมีป้ายบอกทาง โดยให้ใช้เส้นทางสายอยุธยา-เสนา ข้ามสะพานวัดกษัตราธิราชวรวิหารแล้วเลี้ยวซ้าย จะผ่านวัดไชยวัฒนาราม มีป้ายบอกทางเป็นระยะ จะถึงวัดพุทไธศวรรย์ ถนนเส้นทางถือว่าสะดวกเป็นถนนลาดยางอย่างดีครับ “หลวงพ่อดำ”  วัดพุทไธศวรรย์ เป็นพระพุทธรูปประธานในพระอุโบสถ “หลวงพ่อดำ” เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ลักษณะปูนปั้นทาด้วยสีดำ พระพักตร์รูปไข่ เป็นศิลปะแบบอู่ทอง หรือในอยุธยาตอนต้น เชื่อกันว่าถูกสร้างพร้อมกับการสร้างพระอุโบสถ ที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากมาจนถึงปัจจุบันนี้ว่า “หลวงพ่อดำ” เนื่องมาจากในสมัยก่อนการสร้างพระ นิยมลงรักด้วยสีดำทั้งองค์ โดยไม่มีการนำสีทองมาทาจนนานมาก เมื่อชาวบ้านเข้าไปสักการบูชา ชาวบ้านเลยเรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อดำ” มีตำนานเล่าขานต่อกันมาว่าในสมัยกรุงศรีอยุธยา ใครเจ็บป่วยไข้ เมื่อผ่านมาที่วัดแห่งนี้จะขึ้นไปสักการะหลวงพ่อดำ เพื่อขอให้หายเจ็บป่วย และทุกคนที่ไปบอกกล่าวจะหายเจ็บหายไข้ นอกจากนี้ ชาวบ้านยังนิยมมาขอพรหลวงพ่อดำให้ช่วยดลบันดาลให้คนที่อยากจะมีบุตรได้มีบุตรสมความปรารถนา ซึ่งส่วนมากจะประสบผลสำเร็จ ทำให้ถูกกล่าวขานเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน วัดแห่งนี้ตามประวัติศาสตร์ยังเป็นสถานที่ฝึกอาวุธยุทโธปกรณ์ของทหาร ก่อนจะออกศึกสงคราม ในปัจจุบันเป็นสำนักดาบวัดพุทไธศวรรย์ ซึ่งคนโบราณมักจะพูดกันว่าสถานที่แห่งนี้หรือดินแดนแห่งนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เกี่ยวกับทางด้านอยู่ยงคงกระพัน ส่วนสิ่งของที่นิยมนำไปสักการบูชาหลวงพ่อดำ จะเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมสีสันสวยงาม เช่น ดอกมะลิ ดอกจำปี เป็นต้น บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนที่เราจะเดินเข้าไปในพื้นที่วัด จะมีอนุสาวรีย์พระมหากษัตริย์ไทย 5 พระองค์ให้ทำการสักการะ ได้แก่ 1. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช 2. สมเด็จพระนเรศวรมหาราช 3. สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1… Read More »