หลวงปู่มัง วัดเทพกุญชรวราราม ลพบุรี – พระสายหลวงปู่มั่น

https://youtu.be/ZJEbiW0Gg9w หลวงปู่มัง มังคโล วัดเทพกุญชรวราราม ลพบุรี – พระสายหลวงปู่มั่น… สวัสดีครับท่านผู้ติดตามเรื่องราวการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยความศรัทธา วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยัง วัดเทพกุญชร อ.เมือง จ.ลพบุรี ที่ในอดีตนั้นมีพระสุปฏิปันโน ที่เป็นที่เคารพศรัทธาอย่างมากเคยจำพรรษาอยู่ นั่นก็คือ หลวงปู่มัง มังคโล ในวันที่ผมเดินทางนั้นตรงกับเดือนกันยายน พ.ศ.2560 เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ได้เดินทางท่องเที่ยวมายังจังหวัดลพบุรี ผมได้เดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดลพบุรีจนกระทั่งเย็น และได้ลองค้นหาข้อมูลวัดระหว่างที่จะเดินทางกลับ จึงได้พบว่าจะเดินทางผ่านวัดเทพกุญชร ที่มีเรื่องราวของหลวงปู่มัง … ผมจึงได้แวะเที่ยวชมและเก็บบันทึกเรื่องราวไว้เป็นวัดสุดท้ายในการท่องเที่ยววันนั้น เมื่อมาถึงวัด พบว่ามีความสงบเงียบอย่างมาก เนื่องจากวัดแห่งนี้ ไม่ใช่วัดท่องเที่ยว จึงจะมีญาติโยมเดินทางมาในช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนามากกว่า  รวมถึงมักจะเป็นผู้ที่ทราบเรื่องราวของหลวงปู่มัง จึงจะแวะเดินทางมาที่นี่ เช่นผู้เขียนนี่แหละครับ เมื่อผมเข้ามาถึง ก็ได้จอดรถไว้บริเวณลานวัด ตรงข้ามกับโรงเรียนวัดเทพกุญชร จะมองเห็นพระเจดีย์มังคโลฝั่งขวา และวิหารหลวงปู่มังฝั่งซ้าย เมื่อทำการจอดรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จุดแรกที่ผมเดินทางไปคือ พระเจดีย์มังคโล แต่เมื่อไปถึงปรากฏว่าไม่สามารถเข้าไปได้เนื่องจากล็อคอยู่ แต่เมื่อมองผ่านกระจกเข้าไปข้างใน เห็นว่ามีโลงศพอยู่ จึงได้สอบถามพระที่วัด…ได้คำตอบว่าเป็นสังขารของเจ้าอาวาสรูปที่สอง ที่รอการถวายเพลิงหลังงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงในหลวงรัชกาลที่ 9 ในพระวิหารหลวงปู่มัง ประดิษฐานรูปหล่อองค์ยืนหลวงปู่มัง, มีรูปถ่ายเอกสารสำนักพระราชวังงานพระราชพิธีถวายเพลิงศพหลวงปู่มัง, รูปถ่ายอื่นๆ, พัดยศ เป็นต้น แต่น่าเสียดายที่รูปถ่ายทั้งหมดภายในพระวิหาร มีความเสื่อมไปตามอายุ ซึ่งอาจจะเกิดแสงแดดที่เข้าถึงวิหาร หลังจากเก็บภาพบรรยากาศทั้งหมดในพระวิหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมจึงเดินไปเก็บภาพที่พระมณฑปและพระอุโบสถ… พระอุโบสถวัดเทพกุญชรมีความสวยงามอย่างมาก มีซุ้มประตูทั้งสี่ทิศ ดูงามสง่ายยิ่งนัก ภายในพระมณฑปและพระอุโบสถเป็นอย่างไร ผมไม่ได้ถ่ายรูปเนื่องจากทางวัดล็อคประตูไว้ ซึ่งผมไม่อยากรบกวนพระจึงถ่ายรูปมาให้ชมเพียงภายนอกเท่านั้นครับ บรรยากาศโดยรวมเงียบเหงาไปสักเล็กน้อย แต่เมื่อได้รู้และทราบประวัติเรื่องราวของครูบาอาจารย์ ก็สามารถทำให้อิ่มเอมใจในการเดินทางครับ… สำหรับท่านที่ศรัทธาในเรื่องราวของพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวและทำบุญกันได้ทุกวันครับ… Read More »

ตามรอยหลวงพ่อผินะ พระผู้ละสังขารในท่านั่งสมาธิ วัดสนมลาว สระบุรี

https://youtu.be/xga_bt_bxnU ตามรอยหลวงพ่อผินะ พระผู้ละสังขารในท่านั่งสมาธิ วัดสนมลาว (วัดไทยงาม) สระบุรี… สวัสดีครับท่านผู้ติดตามเรื่องราวการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยความศรัทธา ก่อนที่ผมจะเดินทางมายังวัดสนมลาวครั้งนี้ เนื่องจากผมได้ฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับหลวงพ่อผินะจากรายการ The Shock 13  ด้วยชื่อของหลวงพ่อผินะ เป็นชื่อที่แปลกซึ่งผมไม่คุ้นเคยมาก่อน อีกทั้งมีเรื่องราวเกี่ยวกับการละสังขารของท่านอยู่ในท่านั่งสมาธิ รวมถึงทราบว่าท่านเป็นพระที่เคยศึกษาธรรมกับหลวงปู่มั่นอีกด้วย ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ผมจึงได้วางแผนเดินทางไปยังวัดสนมลาวในวันรุ่งขึ้นทันที วัดสนมลาว ตั้งอยู่ที่ ต.โคกแย้ อ.หนองแค จ.สระบุรี ซึ่งไม่ห่างจากถนนเส้นหลัก (ถนนพหลโยธิน) เท่าไหร่นัก เดินทางสะดวกมากครับ ห่างจากแยกหินกองเพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น สามารถดูแผนที่ประกอบการเดินทางด้านล่างครับ ผมใช้เวลาเดินทางไม่นานนัก จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาใช้เวลาราวๆ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เมื่อเข้ามาสู่พื้นที่วัด จะเห็นทิวเขาลูกเตี้ยๆ รายล้อมเรียงว่าเขาโป่งแร้ง ได้บรรยากาศที่ดีมากครับ บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างเงียบ ส่วนมากจะมีเฉพาะลูกศิษย์ที่นับถือหรือทราบเรื่องราวของหลวงปู่ผินะ จึงจะเดินทางมา ปัจจุบันทางวัดได้อัญเชิญสังขารของหลวงปู่ผินะจากสุสานผินะ มาเก็บรักษาไว้บนศาลาเพื่อให้ศิษยานุศิษย์ได้กราบไหว้บูชา จากการสอบถามหลวงพี่อ๊อพ พระที่วัดสนมลาวได้บอกว่า สังขารหลวงปู่ผินะได้ใช้เรซินโอบครอบไว้ เพื่อรักษาสภาพ ดังภาพที่เห็นในปัจจุบันนี้ หลวงพี่อ๊อพ ได้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวัดสนมลาวว่า แต่เดิมวัดแห่งนี้เป็นวัดร้าง ต่อมาหลวงพ่อผินะได้ธุดงค์มาถึงและเห็นว่าเป็นสถานที่เหมาะแก่การอยู่ปฏิบัติธรรมและละสังขาร ท่านจึงได้ทำการบูรณะวัดขึ้นมา ผมได้สอบถามต่อว่า วัดแห่งนี้เหลือโบราณสถานให้ได้ชมหรือไม่ หลวงพี่อ๊อพบอกว่า ยังพอมีซากอิฐโบราณหลงเหลือบนภูเขาอยู่บ้าง แต่ไม่เหลือโครงสร้างให้เห็นแล้วในปัจจุบัน ในใจผมคิดว่าจะลองขึ้นไปดูสภาพโบราณสถานที่หลงเหลือ ซึ่งหลวงพ่ออ๊อดบอกว่าสามารถขึ้นไปได้ เพราะมีบันไดขึ้น… แต่ผมก็ต้องหยุดความตั้งใจนั้นเพราะ วันเดินทางดังกล่าวไปคนเดียว จิตใจจึงหวั่นๆไม่ค่อยกล้า เลยยุติความคิดครับ ฮ่าๆ หลวงพี่อ๊อพ ได้แนะนำถึงวัตถุมงคลที่มีให้บูชาในปัจจุบัน (ปี… Read More »

ย้อนอดีตวัดเก่าพระสังฆราช(สุก ไก่เถื่อน)เคยจำพรรษา วัดท่าหอย อยุธยา

https://youtu.be/U98QbrS8sN4 ตามรอยวัดเก่า วัดท่าหอย อยุธยา ที่สมเด็จพระสังฆราช(สุก ไก่เถื่อน)เคยจำพรรษา… สวัสดีครับท่านผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยความศรัทธาทุกท่าน วันนี้เรามาเปลี่ยนบรรยากาศเดินทางตามรอยโบราณสถานกันบ้าง เป็นวัดเก่าแก่ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เคยมีความรุ่งเรืองในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น เพราะเคยเป็นสถานที่จำพรรษาของสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เวลาผ่านไปเพียง 200 กว่าปี กลับแทบไม่เหลือซากอะไรให้เห็นในปัจจุบัน พื้นที่วัดท่าหอย ตั้งอยู่ริมคลองปทาคูจาม แต่เดิมถูกปกคลุมไปด้วยป่า ไม่สามารถมองเห็นพื้นที่ได้… ซากโบราณสถานไม่ปรากฏให้เห็นเพราะได้พังทลายราบเป็นหน้ากลองจมอยู่ใต้พื้นดินทั้งหมด มีโผล่เหนือดินให้เห็นบ้างบางส่วน จนกระทั่งในปี พ.ศ.2558 กรมศิลปากรได้รับงบประมาณในการบูรณะวัดเก่า และวัดท่าหอยก็เป็นหนึ่งในวัดที่ได้รับงบประมาณในการบูรณะ เราจึงได้เห็นซากโบราณสถานที่ถูกฝังใต้พื้นดินมาอย่างยาวนาน ผมเคยเดินทางไปชมพื้นที่วัดท่าหอยครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ.2558 ซึ่งเป็นช่วงที่ได้ทำการถางป่า และเริ่มขุดสำรวจทางโบราณคดี ได้เห็นร่องรอยความรุ่งเรืองในอดีตอย่างชัดเจน และได้เดินทางไปอีกครั้งในปี พ.ศ.2560 ซึ่งได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงมีการก่ออิฐบูรณะไปมากพอสมควร รวมถึงขยายพื้นที่ขุดสำรวจกว้างออกไปอีก จึงได้เห็นว่าพื้นที่วัดท่าหอยเดิมนั้น มีอาณาบริเวณที่กว้างใหญ่มาก ตามรอยสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) สาเหตุการเดินทางที่สำคัญคือ ได้ทราบว่าวัดแห่งนี้เคยรุ่งเรือง และเคยเป็นที่จำพรรษาของสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) มาก่อนและเริ่มมีการบูรณะ ผมจึงถือโอกาสนี้นำภาพพื้นที่มาให้รับชมกัน จากหนังสือ “พระประวัติและพระนิพนธ์ สมเด็จพระอริยวงษญาณฯ พระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน)” ตีพิมพ์ 3 ตุลาคม พ.ศ.2530 ได้เขียนเรื่องราวไว้ว่า สมเด็จพระสังฆราช (สุก) ทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงเป็นพระมหาเถระที่ทรงพระเกียรติคุณ เป็นที่เลื่องลือพระองค์หนึ่งในยุครัตนโกสินทร์… Read More »

วัดเกริ่นกฐิน กราบหลวงพ่อเพี้ยน พระเกจิเรืองวิทยาคมแห่งลพบุรี

https://youtu.be/ocdY694dJwQ วัดเกริ่นกฐิน กราบหลวงพ่อเพี้ยน พระเกจิแห่งลพบุรี… สวัสดีครับท่านผู้ติดตามและรักการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยความศรัทธาทุกท่าน ผมได้เดินทางท่องเที่ยวไปยังลพบุรี ถ้าเราจะกล่าวถึงพระเกจิดังในปัจจุบัน(ปีพ.ศ.2560) หลายท่านจะต้องนึกถึงหลวงพ่อเพี้ยนอย่างแน่นอน ผมจึงเดินทางไปยังวัดเกริ่นกฐิน ในวันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2560 เป็นวันหยุดที่มีผู้คนเดินทางมาวัดกันอย่างมากมาย จนแทบไม่มีที่จอดรถ ผมจึงขอแนะนำว่า สำหรับท่านที่จะเดินทางไปช่วงวันหยุด ให้ไปจอดรดที่โรงเรียนหน้าวัดก็ได้ครับ ผมมาท่องเที่ยวที่วัดเกริ่นกฐิน แต่ยังไม่ได้เขียนบทความนี้ จนกระทั่งมาทราบข่าวการอาพาธหนักของหลวงพ่อเพี้ยน และท่านได้ละสังขารอย่างสงบที่สถาบันโรคทรวงอก จังหวัดนนทบุรี เมื่อเวลา 03.25 น. วันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 ซึ่งผ่านไปเพียง 4 วันหลังจากที่ผมได้เดินทางไปวัด ในวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2560 ผมไม่เห็นหลวงพ่อในกุฏิ จึงคิดว่าเป็นช่วงพักของหลวงพ่อ เพราะโดยปกติหลวงพ่อจะออกมานั่งรับญาติโยมที่หน้ากุฏิของท่านอยู่เป็นประจำ ซึ่งผมเคยเดินทางไปและหลวงพ่อได้พรมน้ำมนต์ให้ผมอีกด้วย เมื่อปี พ.ศ.2559 ข่าวการละสังขารของหลวงพ่อเพี้ยน เป็นข่าวใหญ่ของจังหวัดลพบุรี เหมือนสูญเสียร่มโพธิ์ร่มไทรที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านไปอีก 1 รูป … สำหรับท่านที่เคารพศรัทธาหลวงพ่อเพี้ยน สามารถเดินทางไปกราบศพหลวงพ่อได้ โดยติดตามข่าวจากเพจเรารักลพบุรีครับ ท่องเที่ยวสถานที่สำคัญในวัดเกริ่นกฐิน เมื่อเราขับรถมายังวัดเกริ่นกฐิน จะมองเห็นพระพุทธรูปประทับยืนปางถวายเนตรองค์ขนาดใหญ่แลเห็นมาแต่ไกล ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประจำวันเกิดวันอาทิตย์ ซึ่งตรกับวันเกิดหลวงพ่อเพี้ยนนั่นเอง  และเมื่อเข้ามายังเขตวัด จะมองเห็นเจดีย์พระธาตุสวยงามเด่น เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับประทานมาจากสมเด็จพระสังฆราช เมื่อปี พ.ศ.2647 นอกจากนี้ มีวิหารหลวงพ่อปาน ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่ขนานนามตามชื่อพระอาจารย์ของหลวงพ่อเพี้ยนคือหลวงพ่อปาน ซึ่งเป็นพระภิกษุชาวกัมพูชา พระอุโบสถที่สวยงามและมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง โดยปกติแล้วในครั้งที่หลวงพ่อเพี้ยนยังทรงขันธ์ ท่านจะออกมานั่งรับญาติโยมเป็นประจำ… Read More »

หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม(บ้านแค) ชัยนาท พระเกจิดังแห่งภาคกลาง

หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม(บ้านแค) ชัยนาท พระเกจิดังแห่งภาคกลาง สวัสดีครับท่านผู้ติดตามเรื่องราวการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยความศรัทธา ผมจะพาทุกท่านไปพบกับเรื่องราวพระเกจิชื่อดังในอดีต ที่มีเรื่องราวกล่าวขานมากที่สุดรูปหนึ่งแห่งจังหวัดชัยนาท นั่นก็คือ หลวงพ่อกวย ชุตินธโร แห่งวัดโฆสิตาราม (วัดบ้านแค) เรื่องราวของหลวงพ่อกวย เป็นที่กล่าวขานกันมานานโดยเฉพาะเรื่องราววัตถุมงคล ที่ลูกศิษย์ลูกหาล้วนต้องการมาเป็นที่ยึดเหนี่ยว เพราะในอดีตนั้น เทคโนโลยีต่างๆยังไม่ก้าวหน้า ชาวบ้านจึงพึ่งพระสงฆ์โดยเฉพาะเรื่องทางการแพทย์แผนโบราณและที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และหลวงพ่อกวยก็เป็นพระรูปหนึ่งที่เมตตาชาวบ้านในเรื่องดังกล่าว ผมวางแผนเดินทางท่องเที่ยวที่จังหวัดชัยนาท จึงมีวัดโฆษิตารามหรือวัดบ้านบ้านแค่เป็นหนึ่งในโปรแกรม และได้ลองหาข้อมูลเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงพ่อกวยมาบ้าง จึงเห็นว่าเรื่องราวของท่านน่าจะเป็นบันทึกที่ผมควรเก็บเรื่องราวไว้อีกเรื่องหนึ่ง จุดแรกเมื่อผมเดินทางมาถึง จะเห็นวิหารรูปหล่อหลวงพ่อกวย ซึ่งสามารถจุดธูปกราบไหว้บูชาและปิดทองที่องค์พระกันได้ครับ ก่อนที่ผมจะเดินชมสถานที่ จึงได้ทำการกราบไหว้สักการะรูปหล่อหลวงพ่อกวยก่อนเป็นเบื้องต้น รูปหล่อองค์นี้สร้างในช่วงบั้นปลายชีวิตของหลวงพ่อกวย คือ ในปีพ.ศ.2522 ซึ่งเล่ากันว่าหลวงพ่อกวยได้เพ่งกระแสจิตในการสร้างรูปหล่อนี้ด้วย หลวงจากที่กราบสักการะรูปหล่อหลวงพ่อกวยที่วิหารหน้าวัดกันแล้ว ผมจึงได้เดินไปที่ศาลาที่เก็บรักษาสังขารหลวงพ่อกวยไว้ครับ เราสามารถเข้าไปกราบสังขารหลวงพ่อกวยได้ในห้องกระจก แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปด้านในนะครับ เมื่อทำการกราบสักการะสังขารหลวงพ่อกวยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมจึงเดินทางไปดูบริเวณวัดสถานที่อื่นๆต่อไป จุดต่อไปที่พาไปชมคือ สระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งกล่าวกันว่าสมัยก่อนหลวงพ่อได้ลงคาถาอาคมไว้ ปัจจุบันได้รับการปรับปรุงมีรั้วรอบ เป็นสระน้ำที่อยู่คู่วัดมาแต่โบราณ หลวงพ่อกวยได้เคยสั่งไว้ว่า ถ้าจะใช้น้ำที่นี่ต้องตักแล้วหาบไปใช้ที่อื่นเพราะจะได้ไม่เกิดความสกปรก ก่อนที่จะมีพระอุโบสถ คณะสงฆ์จะใช้ศาลากลางน้ำในการทำสังฆกรรม พระอุโบสถ วัดโฆสิตารามตั้งอยู่ติกกับสระน้ำศักดิ์สิทธิ์  ซึ่งเริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2518 ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี ทำพิธีผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิตในปี พ.ศ.2521 เป็นพระอุโบสถที่หลวงพ่อกวยรักและภูมิใจมาก ภายในวัดจะมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ของหลวงพ่อกวย รวมถึงวัตถุมงคลต่างๆ ทั้งนี้ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปด้านบนที่จัดแสดงครับ ต้นมะค่าหน้าศาลาหลวงพ่อกวย เป็นต้นไม้คู่วัดมายาวนาน ในอดีตเล่ากันว่า กลางลำต้นจะเป็นโพรง หลวงพ่อกวยจะนำวัตถุมงคลใส่ไว้ในโพรงต้นมะค่า ปัจจุบันนี้ไม่เห็นโพรงต้นมะค่าแล้วครับ รูปหล่อหลวงพ่อโต สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2473  เป็นพระพุทธรูปคู่วัดมายาวนาน… Read More »

วัดธรรมบรรพต (ถ้ำพระเวส) นครพนม ชมถ้ำธรรมชาติ ถิ่นครูบาอาจารย์

https://youtu.be/R4GNjhdXuXc วัดธรรมบรรพต (ถ้ำพระเวส) นครพนม ชมถ้ำธรรมชาติ ถิ่นครูบาอาจารย์ ในอดีตนั้นหลวงปู่ศรี มหาวีโร ลูกศิษย์พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ได้ธุดงค์มาภาวนาแล้วเกิดอาพาธจากไข้ป่าจนแทบเอาชีวิตไม่รอด ณ สถานที่นี้… สวัสดีครับท่านผู้ติดตามและสนใจในเรื่องราวการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยความศรัทธาทุกท่าน วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยังจังหวัดนครพนม ในบรรยากาศเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งบรรยากาศการเดินทางครีั้งนี้ มีความคุ้มค่าและได้พักผ่อนอย่างเต็มพิกัดในบรรยากาศที่ผมชอบมากอีกทริปหนึ่ง ผมเดินทางมายัง อ.นาแก จ.นครพนม โดยมีเพื่อนสมัยเรียนด้วยกันที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นผู้นำเที่ยว และทำให้ผมรู้ว่า ยังมีอีกหลายสถานที่มากมายในแถบอีสานที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะมีความเกี่ยวข้องกับครูบาอาจารย์กับครูบาอาจารย์พระกรรมฐาน แต่ด้วยระยะเวลาในการท่องเที่ยวมีจำกัด ผมจึงได้แวะท่องเที่ยวในสถานที่สำคัญเป็นหลักนั่นก็คือ พระธาตุพนม ส่วนวัดธรรมบรรพต (ถ้ำพระเวส) เป็นอีก 1 เส้นทางที่ผมได้เดินทางผ่าน จึงแวะเข้าไปท่องเที่ยว ซึ่งถือว่าคุ้มค่าที่ได้เข้ามาครับ เส้นทางการไปยังวัดธรรมบรรพต (ถ้ำพระเวส) เป็นเส้นทางขึ้นเขาไปไกลพอสมควร แต่เส้นทางสะดวกมากครับ เนื่องจากตลอดเส้นทางมีการเทคอนกรีตอย่างดี ที่วัดจะมีลานกว้างสำหรับจอดรถกว้างขวางดีครับ เท่าที่ผมสังเกตุอาณาบริเวณ จะเห็นถึงการจัดสรรสถานที่ได้ดี มีถาวรวัตถุพอประมาณ การเดินทางสะดวก แม้จะอยู่ห่างไกล … ทั้งหมดทั้งมวล ผมเชื่อว่าคือพลังศรัทธาที่มีต่อวัดแห่งนี้พอสมควร เมื่อมองเข้าไป จะเห็นพระเจดีย์บูรพาจารย์ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น จุดแรกที่ผมจะเข้าไปชมก็คือ ถ้ำพระเวส ซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ของสถานที่แห่งนี้ครับ ท่านที่จะเดินทางไปยังวัดแห่งนี้ ขอแนะนำเดินไปชมถ้ำตามถนนที่ลาดคอนกรีตไว้นะครับ อย่างลัดเลาะไปแบบผม เพราะผิดทางฮ่าๆ ทางขึ้นถ้ำพระเวสจะมีบันไดสร้างขึ้นไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ เดินขึ้นสะดวก ลักษณะถ้ำจะเป็นเงื้อมผายื่นออกมา เป็นถ้ำตื้นๆ แต่มีความยาวประมาณ 50 เมตร ปัจจุบันทางวัดทำการปูพื้นไม้ไว้ครับ เมื่อผมขึ้นไปยังถ้ำพระเวส ต้องบอกว่ามีบรรยากาศที่เย็นลงอย่างชัดเจน ถ้ามีหมอนสักใบ… Read More »