วัดสามบัณฑิต อยุธยา พระเจ้าตากมองไปยังพระนคร เห็นแสงไฟไหม้ลุกโชติช่วง

By | March 5, 2016


https://youtu.be/BC6r2gIStZU

สวัสดีครับ ต้องบอกว่าห่างหายกันไปนานเลยทีเดียว ในภารกิจเที่ยววัดในตอนเส้นทางเดินทัพพระยาตากในอยุธยา เนื่องจากภารกิจการงานและการเดินทางท่องเที่ยวมากมายจนมาเขียนบทความไม่ทันกันเลยทีเดียว และเผลอลืมเรื่องราวไปบ้าง

เผอิญว่านึกขึ้นได้ว่าได้เดินทางไปถ่ายรูปที่วัดสามบัณฑิตมาแล้ว จึงลุกขึ้นมาค้นหาภาพและเริ่มเขียนเรื่องราวการเดินทางเลยทันที เกรงว่าปล่อยไว้นานไปจะหลงลืมอีกครั้ง

จากบทความก่อนหน้านี้ ในเรื่องวัดขุนทราย เส้นทางเดินทัพพระยาตากตอนที่ 4 ผมก็จะพาทุกท่านเดินทางไปต่อที่วัดสามบัณฑิต ซึ่งมีเรื่องราวการบันทึกว่าพระยาตากหรือพระยาวชิรปราการได้เดินทัพผ่านมา … ทั้งนี้ในส่วนของประวัติศาสตร์นั้น ตัวผมเองนั้นต้องบอกตามตรงว่าความรู้มีเท่าหางอึ่ง กรณีที่ผมนำเรื่องราวมาบันทึกไว้ จะแจ้งแหล่งอ้างอิงไว้แทน…ถ้าท่านผู้อ่านจะค้นหาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในเชิงลึก ก็คงต้องค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมกันอีกครั้ง… ผมเป็นเพียงนักเดินทางท่องเที่ยว ที่จะนำเสนอเรื่องราวและภาพถ่ายให้แก่ท่านที่สนใจ เพื่อนำไปต่อยอดหรือใช้เป็นข้อมูลในการท่องเที่ยวได้ครับ…

มาเข้าเรื่องกันต่อ ในตอนที่ 5 นี้ คือวัดสามบัณฑิต ผมเดินทางมาที่วัดแห่งนี้ 3 ครั้ง เนื่องด้วยระยะทางไม่ไกลจากที่ทำงานของผมนัก ผมจึงเดินทางมาสัมผัสบรรยากาศได้บ่อยครั้ง

ถนนไปวัดสามบัณฑิต

ถนนไปวัดสามบัณฑิต

บรรยากาศการเดินทางต้องบอกว่า มีสภาพบรรยากาศที่ได้สัมผัสท้องทุ่งของชาวบ้าน มีความเงียบสงบและสบายตาดีจริงๆ รถรานานๆทีจะผ่านมาสักคัน

วัดสามบัณฑิต ตั้งอยู่กลางทุ่งนา

วัดสามบัณฑิต ตั้งอยู่กลางทุ่งนา

การเดินทางจะมีป้ายบอกเส้นทางตลอดแนว เนื่องจากทางจังหวัดได้กำหนดเส้นทางเดินทัพพระยาตาก เป็นเส้นทางท่องเที่ยววัดสำคัญในอยุธยา แต่ก็ต้องบอกตามตรงว่า เงี๊ยบเงียบครับ อาจจะเป็นเพราะว่าระยะทางห่างไกลจากเกาะเมืองพอสมควร อีกทั้งเส้นทางซอกแซก และไม่เป็นที่คุ้นเคยของนักท่องเที่ยวทั่วไปที่นิยมท่องเที่ยวในวัดที่มีชื่อเสียงในเกาะเมืองเป็นหลัก… ส่วนวัดรอบนอกนั้น บางครั้งเราก็ต้องทำใจ ซึ่งจะบังคับหรือกระตุ้นให้ใครสนใจ ก็เป็นเรื่องที่แสนลำบาก เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากใจเราเอง

ซุ้มประตูทางเข้าวัด

ซุ้มประตูทางเข้าวัด

ขับรถต่อมาสักหน่อย ก็จะมองเห็นซุ้มประตูติดติมถนนอย่างชัดเจน

บรรยากาศทุ่งนา แสนสวยงาม

บรรยากาศทุ่งนา แสนสวยงาม

เมื่อเลี้ยวรถเข้ามาตามเส้นทางเล็กๆ ผมก็ลุ้นว่าอย่าเพิ่งมีรถใหญ่สวนมา เพราะถนนนี้แคบมาก ถ้าตกข้างทางนี่บอกเลยงานเข้า และก็อย่างที่บอกครับ บรรยากาศเงียบๆเช่นนี้ ก็มีเพียงผมนี่แหละครับที่เดินทางมา … การเดินทางบรรยากาศแบบนี้ก็มีความสุขไปอีกแบบครับ ดูเงียบสงบ ได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น … แต่ละสิ่งก็มีทั้งข้อดีข้อเสียทั้งนั้น…

ถึงวัดแล้วครับ

ถึงวัดแล้วครับ

เมื่อมาถึงวัด ก็ได้พบกับสภาพอันเงียบสงบ แม้แต่พระผมก็ไม่เห็น ซึ่งอาจจะเพราะการเดินทางครั้งแรกของผมในวันนี้ เป็นช่วงเย็น หลัง 5 โมงเย็นก็เป็นได้

บริเวณที่ผมจอดรถ

บริเวณที่ผมจอดรถ

ท้องฟ้าเริ่มใกล้มืด แถมมีสุนัขเจ้าถิ่นกลุ่มหนึ่ง ก็มองผมอย่างสงสัย …และตัวผมเองก็กลัวสุนัขซะด้วยสิ จึงได้ยืนคุมเชิงอยู่ห่างๆ ไม่กล้าแม้จะเดินเข้าไปยังศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน

วิหารสมเด็จพระเจ้าตากสิน

ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน

เนื่องด้วยผมเดินทางมาถึงก็เย็นมาก แถมไม่เห็นใครในวัด จึงได้แค่ถ่ายรูปบรรยากาศในวัแรกได้เล็กน้อย จึงได้วางแผนว่าจะกลับมาใหม่อีกครั้ง ในช่วงกลางวัน เผื่อจะได้มีเพื่อนร่วทางบ้าง … สำหรับวันแรกของการเดินทางมาครั้งนี้ ก็สิ้นสุดลง

พระอุโบสถวัดสามบัณฑิต

พระอุโบสถวัดสามบัณฑิต

ผมได้เดินทางกลับมาอีกครั้งช่วงกลางวัน และก็ดูมีบรรยากาศดีกว่าครั้งที่ผมมาตอนเย็น เพราะยังมีทีมเดินทาง และนักท่องเที่ยวบางส่วนเดินทางมาด้วย

ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ภายในศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ภายในศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ภายในศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จะประดิษฐานพระแก้วมรกตองค์จำลอง และรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสิน ให้ทำการสักการะบูชา

เศษกระเบื้องและวัตถุโบราณ ที่เก็บมาไว้ในศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

เศษกระเบื้องและวัตถุโบราณ ที่เก็บมาไว้ในศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ภสยในศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จะมีตะกร้าที่เก็บเศษวัตถุโบราณที่มีลักษณะแตกหักมากมาย ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่า วัดสามบัณฑิตแห่งนี้ น่าจะเคยมีประวัติยาวนานมาก่อน …ซึ่งผมได้สอบถามป้าที่เฝ้าศาลแห่งนี้ ป้าก็เล่าว่า วัตถุโบราณพวกนี้เก็บมาจากทั่วบริเวณวัด และนำมารักษาไว้ในศาลแห่งนี้

หลังจากที่ผมได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้านในศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงเวลาเดินทางชมพื้นที่วัดกันสักเล็กน้อยแล้วหล่ะครับ

ภายในพื้นที่พระอุโบสถ

ภายในพื้นที่พระอุโบสถ

จุดต่อไป ผมก็เดินมายังพื้นที่ของพระอุโบสถ ซึ่งได้ถูกปิดอยู่จึงได้เพียงเดินดูบรรยากาศโดยรอบเท่านั้น ซึ่งก้เป็นเรื่องปกติที่พระอุโบสถจะถูกปิด เนื่องจากนักท่องเที่ยวมาน้อยมากจริงๆ ถ้าจะเปิดเอาไว้ ก็อาจสุ่มเสี่ยงเรื่องโจรโขมย

พระพุทธรูปรอบพระอุโบสถ

พระพุทธรูปรอบพระอุโบสถ

หลังจากเดินชมพื้นที่พระอุโบสถกันจนหนำใจกันแล้ว ก็เดินไปชมสถานที่อื่นๆโดยรอบวัด

ศาลแม่ตะเคียน

ศาลแม่ตะเคียน

วิหารหลวงพ่อดำ และหลวงพ่อขาว

วิหารหลวงพ่อดำ และหลวงพ่อขาว

เราเดินชมพื้นที่และบรรยากาศในวัดไปจนถึงด้านหลังสุด ก็ได้พบกับพระสงฆ์ในวัด จึงได้เข้าไปกราบนมัสการและสนทนาเรื่องราวกับท่าน โดยใช้เวลาไม่นานนัก

สนทนากับพระในวัด

สนทนากับพระในวัด

ทุ่งนาหลังวัด

ทุ่งนาหลังวัด

หลังวัดก็จะจรดกับทุ่งหญ้าและทุ่งนา เมื่อมองไปไกลๆจะมองเห็นพระพุทธรูปประดิษฐานห่างออกไป ซึ่งพระได้บอกว่าเป็นพระพุทธรูปที่สร้างโดยวัดสามบัณฑิต สามารถเดินทะลุไปชมและกราบสักการะได้ แต่ผมและทีมนักเดินทางประเมินแล้วว่า อาจจะเกิดอันตรายจากสัตว์เลื้อยคลานต่างๆ เพราะดูแล้วรกพอสมควร จึงไม่ได้เดินทางไปครับ แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่ผมยังคาใจมาถึงวันนี้ว่า เพราะเหตุใดจึงสร้างพระพุทธรูปห่างออกจากพื้นที่วัดไปไกลขนาดนั้น  ถ้าผมมีโอกาสกลับไป และมีเพื่อนร่วมทาง ผมจะลองเดินไปยังพระพุทธรูปองค์นี้เพื่อกราบสักการะ (ทราบภายหลังว่า โคกบริเวณที่มีพระพุทธรูปคือพื้นที่วัดเดิมของวัดสามบัณฑิต)

กลุ่มนักเดินทาง ก็ยังเดินเที่ยวชมพื้นที่ สมาชิกางคนก็พยายามวิเคราะห์เหตุการณ์ในอดีต ที่ว่ามองเห็นแสงไฟเผากรุงศรีอยุธยาได้จากที่วัดสามบัณฑิตแห่งนี้ ซึ่งความเป็นจริงจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ คงต้องหาวิธีพิสูจน์และค้นหาข้อมูลทางประวัติศาสตร์มาใช้ในการอ้างอิงต่อไป

เรื่องราวที่วัดสามบัณฑิต ในเส้นทางเดินทัพพระยาตาก

ก่อนจบเรื่องราวการเดินทางครั้งนี้ ผมจะขอนำเสนอเรื่องราวจากบันทึก ซึ่งเป็นเอกสารของทางวัด ที่ได้พิมพ์แจกแก่นักท่องเที่ยว ให้ทราบถึงประวัติศาสตร์ที่กล่าวขานกันมาแต่โบราณเกี่ยวกับวัดสามบัณฑิตว่าเป็นเช่นไร เรื่องราวมีอยู่ว่า

เมื่อทัพพระยาตากได้รับชัยชนะที่ทุ่งชายเคือง ก็ได้เร่งรีบเดินทางไปจนถึงบ้านสามบัณฑิตในเวลาประมาณ 2 ยาม ตรงกับวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2310 จึงสั่งให้ทหารได้พักผ่อนเพียงชั่วครู่ ขณะนั้นภายในพระนครได้เกิดเพลิงไหม้เผาผลาญ  วัดราชบูรณะ วัดมหาธาตุ บ้านเรือนถูกไฟไหม้กว่าหมื่นหลัง แสงสว่างโชติช่วงมองเห็นจากบ้านสามบัณฑิตนี้

เมื่อรุ่งสางพระยาตากได้เห็นว่าไม่ไกลจากที่พัก มีวัดอยู่แห่งหนึ่งจึงได้สอบถามทหารว่าใครรู้จักชื่อวัดนี้บ้าง แรากฏว่าไม่มีใครทราบ พอดีขณะนั้นมีพระภิกษุ 3 รูปออกบิณฑบาต จึงได้กล่าวว่า ข้ารู้แล้วว่าวัดนั้นชื่อวัด “สามบัณฑิต” เมื่อได้สอบถามพระภิกษุเพื่อเดินทัพไปบ้านพรานนก ซึ่งเป็นหมู่บ้านใหญ่มีหลายร้อยหลังคาเรือน พระภิกษุได้ชี้แนะเส้นทางและอวยพรให้ได้รับชัยชนะ กลับมากอบกู้กรุงศรีอยุธยา

สรุปความ ณ วัดสามบัณฑิต

การเดินทางเที่ยววัดครั้งนี้ เป็นการเดินทางตามรอยตำนานประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ วัดสามบัณฑิตเป็นวัดที่อยู่ในท้องถิ่น เงียบสงบ ล้อมรอบไปด้วยทุ่งนา และมีเรื่องราวให้ได้ค้นหาเรียนรู้อีกมากมาย ลองแวะไปท่องเที่ยวกันดูนะครับ

ขอบคุณที่ติดตามอ่านเรื่องราวนะครับ แล้วพบกันใหม่ ในบทความต่อๆไป สวัสดีครับ

ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด

ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108

หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory

ร่วมแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยววัดด้วยกัน ได้ที่ กลุ่มรวมพลคนชอบเที่ยววัด