https://youtu.be/8g4hkK2gfC0 สวัสดีกันอีกครั้ง ในภารกิจท่องเที่ยววัดทั่วไทย วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยังจังหวัดสระบุรี จุดประสงค์หลักของผมคือต้องการจะเดินทางมาชมบรรยากาศงานวัด ในประเพณีตักบาตรข้าวหลามจี่ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่วัดหนองโนใต้ แต่ก็ยังมีวัดหนองโนเหนือ ซึ่งอยู่ไม่ห่างกัน ที่มีความน่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะภายในวัดหนองโนเหนือจะมีโบสถ์หลังเก่าที่มีอายุกว่า 200 ปี สร้างในสมัยรัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ อีกทั้งภายในยังประดิษฐานพระพุทธรูปประธาน ซึ่งเป็นแบบพระประธานคู่ นามว่า “หลวงพ่อม่วงแล้ง” ที่สันนิษฐานว่ามีอายุกว่า 700 ปีเลยทีเดียว ความแปลกตรงนี้เกี่ยวกับพระประธานคู่ เป็นสิ่งที่ผมเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก จึงเป็นโอกาสดีที่ผมจะได้เข้ามาเที่ยววัดแห่งนี้ในคราวเดียวกัน ด้วยความที่ผมไม่ได้วางแผนการท่องเที่ยวมาล่วงหน้า จึงได้เดินทางมาถึงวัดหนองโนเหนือก็ราวๆ 6 โมงเย็น ท้องฟ้าก็ใกล้จะค่ำเต็มทน อีกทั้งโบสถ์หลังเก่าก็ได้ปิดไปแล้วอีกด้วย แต่ก็ถือเป็นความโชคดีที่มีพี่ต่าย ซึ่งเคยทำงานด้วยกันเมื่อครั้งที่ผมทำงานอยู่จังหวัดสระบุรี ได้ช่วยขออนุญาตหลวงพ่อเจ้าอาวาสเพื่อเข้าชมโบสถ์ ซึ่งก็ได้รับความเมตตาจากท่านเช่นกันครับ เมื่อขออนุญาตเจ้าอาวาสเรียร้อยแล้ว ผมก็เร่งรีบชมและถ่ายรูปทันที เพราะใกล้ค่ำมากแล้วครับ ใบเสมาที่โบสถ์หลังเดิม จะเป็นใบเสมาที่สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดครับ เมื่อผมเข้ามาภายในโบสถ์หลังเดิม ก็ได้พบเห็นความสวยงามวิจิตรของจิตรกรรมฝาผนัง และพระประธานคู่พระนามว่า “หลวงพ่อม่วงแล้ง” ภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณนี้ ยังมีความสมบูรณ์มากเลยครับ สันนิษฐานว่ามีอายุราวสมัยรัชกาลที่ 2  มีภาพจิตรกรรมฝาผนังทั้งสี่ด้าน ตั้งแต่ระดับขอบล่างของหน้าต่างไปจรดเพดาน และยังมีภาพที่กกประตู กกหน้าต่าง บานประตูและหน้าต่าง สำหรับเรื่องราวของหลวงพ่อม่วงแล้ง ทางวัดได้จัดทำแผ่นพับเรื่องราวแจกสำหรับเหล่าสาธุชนทุกท่านนะครับ และยังมีวัตถุมงคลแจกให้ทุกท่านอีกด้วย จิตรกรรมฝาผนังอันโดดเด่น รายละเอียดของภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในโบสถ์หลังเดิม ทางวัดได้ติดป้ายเรื่องราวและรายละเอียดให้นักท่องเที่ยวได้อ่านได้อย่างเข้าใจ ซึ่งสามารถอ่านได้ที่บอร์ดหน้าโบสถ์หลังเดิม ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุราวสมัยรัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เหนือประตูทางเข้าเป็นภาพจิตรกรรมเรื่องราวของพระพุทธเจ้าชนะมาร ลักษณะพระพุทธเจ้าประทับบัลลังค์ ปางมารวิชัย โดยมีท้าวปรนิมมิตวสวัตตีมาร นำกองทัพเพื่อขัดขวางการตรัสรู้ของพระพุทธองค์ และพระแม่ธรณีบีบมวยผมจนเกิดน้ำหลั่งไหลมหาศาลซัดเหล่ากองทัพมารจนแตกพ่ายไปในที่สุด… Read More »

https://youtu.be/xDVkWpDdY2Q เรามาเดินทางท่องเที่ยวกันต่อในทริป “ภารกิจเที่ยววัด ณ ลพบุรี” จุดต่อไปผมจะพาท่านไปเที่ยวชมถ้ำที่ ถ้ำเขาช่องลม ลพบุรี ซึ่งที่ถ้ำแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของวัดทุ่งสิงห์โต เมื่อเดินทางมาถึงเขตของถ้ำเขาช่องลม ก็ได้เห็นสภาพอันสงบเงียบ และมองไม่เห็นผู้คน แต่ก็รู้ว่าสถานที่แห่งนี้มีพระจำพรรษาอยู่แน่นอน เพราะมีกุฏิอยู่ด้วย เรื่องราวประวัติต่างๆ ของสถานที่แห่งนี้ไม่ใคร่จะมีบันทึกไว้ชัดเจน และหาข้อมูลได้ยาก แต่ก็มีความเกี่ยวโยงในเรื่องพื้นที่ ที่อยู่ใกล้เคียงกับถ้ำสิงห์โต ที่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตท่านได้จาริกธุดงค์มาปฏิบัติธรรมยังสถานที่แห่งนี้ เมื่อผมเดินทางมาถึง ต้องบอกตรงๆว่า แทบอยากจะถอยหลังกลับกันเลย เพราะเงียบมาก มองไม่เห็นใคร… แต่พอหาที่จอดรถได้ ก็พากันเดินลงมาเพราะไม่ให้เสียโอกาส ไหนๆก็มากันถึงแล้ว อีกสักครู่ก็มีคนโผล่ออกมาทางหน้าต่าง จึงได้แจ้งบอกเขาและแจ้งจุดประสงค์การเดินทางมาครั้งนี้ ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำอย่างดี เราจึงเดินขึ้นไปชมบรรยากาศ เราเดินกันขึ้นมาจนถึงพระพุทธรูป ก็มองไม่เห็นทางบันไดขึ้นต่อแล้วหล่ะครับ ด้านบนค่อนข้างรกไปด้วยเหล่าต้นไม้และดงหมามุ่ย ซึ่งไม่แนะนำให้ขึ้นไปกันนะครับ เดี๋ยวจะคันแสบสันไปถึงทรวง จากนั้นเราก็เดินลงมาด้านล่างก็มาพบกับหลวงพ่อสุดใจ พอดีเลยครับและมีพี่ท่านหนึ่งที่ดูแลวัดเข้ามาคุยด้วย จึงได้ทราบเรื่องราวของเขาช่องลมมากมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลวงปู่มั่น เช่นกันกับที่วัดทุ่งสิงห์โต จากการสนทนากันนานพอสมควร หลวงพ่อสุดใจได้พาเข้าไปชมถ้ำเขาช่องลมด้วยหล่ะครับ ตัวถ้ำเขาช่องลมจะอยู่ในศาลาที่สร้างครอบหน้าปากถ้ำไว้ ปัจจุบันหลวงพ่อสุดใจท่านได้จำพรรษาอยู่เพียงรูปเดียว ซึ่งท่านก็จำพรรษามานานกว่า 6 ปีแล้วหล่ะครับ… ในใจผมก็อนุโมทนาในกุศลของท่านจริงๆ เพราะการจำพรรษาเพียงรูปเดียวไม่ใช่สิ่งที่ทำกันได้ง่ายๆ โดยเฉพาะเรื่องจิตใจต้องเข้มแข็งพอสมควร และสถานที่แห่งนี้ก็อยู่บนเขาในถ้ำ ซึ่งจะมีอันตรายต่างๆที่เราคาดกันไม่ถึง ที่หน้าถ้ำเขาช่องลมจะมีต้นมะขามใหญ่ 1 ต้น และมีแท้งน้ำโบราณที่จารึกไว้ว่าสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2474 ปัจจุบันก็ผ่านมากว่า 80 ปีแล้วหล่ะครับ แท้งค์น้ำนี้พอจะมองเห็นจารึกบ้าง แต่ก็มีสภาพแตกหลุดไปตามกาลเวลา ที่มองเห็นชัดเจนคือปี พ.ศ. ๒๔๗๔ ปีวอก… Read More »

https://youtu.be/UPkSR99m8Mc วันนี้เป็นการโพสเรื่องราวการท่องเที่ยววัด ในภารกิจเที่ยววัดเป็นวัดแรกของการออกทริปร่วมกับกลุ่มนักเดินทางจากบทความที่เขียนรวมไว้คือ “ภารกิจเที่ยววัด ณ ลพบุรี ทริปที่ 1 ประจำปี 2559” ซึ่งกลุ่มนักเดินทางมากันที่จังหวัดลพบุรี สถานที่นัดหมายแห่งแรกของเราคือที่ วัดเขาสนามแจง ซึ่งตั้งอยู่ที่ อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี วัดแห่งนี้จะตั้งอยู่บนภูเขา ซึ่งไม่ทางรถขึ้น จะต้องเดินขึ้นบันไดด้วยจำนวนขั้นบันได 606 ขั้น ยังไงก็มาวัดพลังใจกันหน่อยนะครับ การเดินทางไม่ยากเลยครับ อีกทั้งระยะทางก็ไม่ได้ไกลมากมายนัก ห่างจากเมืองลพบุรีราวๆ 30 กิโลเมตร จุดแรกที่ผ่านกันคือเขาสนามแจง จะมีลักษระเป็นภูเขาหิน และติดป้ายว่าเขาสนามแจงอย่างชัดเจน ก็เป็นอันว่าเรามาถูกเส้นทางแล้วหล่ะครับ เมื่อมาถึงวัดเขาสนามแจง จะเห็นป้ายวัดแจ้งว่า เป็นวัดสาขาวัดหนองป่าพง (หลวงพ่อชา สุภัทโท) สาขาที่ 177 ซึ่งผมเองก็เพิ่งทราบในวันนี้ว่า วัดเขาสนามแจงเป็นวัดสาขาวัดหนองป่าพง ยิ่งทวีให้เกิดความศรัทธามากขึ้นไปอีกเพราะโดยส่วนตัวนั้น ผมศรัทธาในองค์หลวงพ่อชา สุภัทโท อย่างมากเช่นกัน จากนั้นก็เขามาจอดรถด้านล่าง ซึ่งมีลานจอดที่ไม่กว้างขวางนัก แต่ก็มีที่ว่างมากมาย เพราะไม่ค่อยมีผู้คนเดินทางมาเท่าไรนัก นอกจากผู้ที่ทราบเรื่องราวว่าสถานที่แห่งนี้ มีความพิเศษมากมาย จุดเด่นของวัดเขาสนามแจง ก่อนเดินทางขึ้นไปยังพื้นที่วัด ผมขอกล่าวนำก่อนว่าสถานที่แห่งนี้มีความพิเศษอย่างไร วัดพลังใจในการเดินขึ้นสู่ยอดเขา ด้วยความสูง 606 ขั้น ซึ่งก็ถือว่าเล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันนะครับ แต่ก็ถือว่าสบายๆ สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ มีรอยพระพุทธบาท หลายรอยให้สักการะบูชา (ซึ่งเป็นไปตามความเชื่อ) พระเจดีย์จักรีศรีวิลัย ปราสาทศิลปะเขมร สรีระสังขารไม่เน่าเปื่อยของหลวงพ่อเกษม สันตจิตโต สถานที่อื่นๆ บนยอดเขา และวิวทิวทัศน์อันสวยงาม… Read More »

https://youtu.be/JvKCMVm4Spc สวัสดีครับกับภารกิจเที่ยววัด ในรูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวแบบบ้านๆ ไม่มีสคริปและตัวแสดงแทน ครั้งนี้จะเป็นการเดินทางในทริปแรกของปี พ.ศ. 2559 ร่วมเดินทางไปกับทีมนักเดินทางที่มีความรักเช่นเดียวกัน กลุ่มเราได้วางแผนการเดินทางในวันที่ 16 มกราคม 2559 ซึ่งตรงกับวันเสาร์ วันหยุดประจำสัปดาห์ และได้วางแผนท่องเที่ยวไว้มากกว่า 5 วัด โดยจะเริ่มออกเดินทางตั้งแต่เวลา 6 โมงครึ่ง จากอยุธยาสู่ลพบุรี เมื่อถึงเวลานัดหมาย ผมก็ได้เดินทางไปยังลพบุรี โดยมีแผนท่องเที่ยวตามสถานที่ดังนี้ วัดเขาสนามแจง ถ้ำเขาช่องลม พระพุทธบาทเขาน้อย ในกองบินที่ 2 วัดคูหาสวรรค์ วัดพระพุทธบาท สระบุรี วัดสัมฤทธิ์ แต่ละแห่งที่เราได้วางแผนเดินทางนั้น ล้วนมีจุดน่าสนใจแตกต่างกัน ทั้งนี้ในบทความนี้ผมจะเขียนเรื่องราวการเดินทางแบบรวมๆ และจะลงรายละเอียดในแต่ละแห่งแยกไว้ตามแต่ละสถานที่อีกครั้ง ถ้าผมได้อัพเดทเรื่องราวแต่ละแห่งแล้ว จะมีลิ้งค์ส่งไปยังบทความนั้นๆตามชื่อวัดด้านบนนะครับ วันเดินทาง เดินทางวันที่ 16 มกราคม 2559 เวลา 06:30 น. และก็ตรงเวลานัดหมาย ผมออกเดินทางกับเพื่อนร่วมทางที่อยุธยา ผ่านถนนสายเอเชียไปยังอำเภอท่าวุ้ง ลพบุรี … ด้วยความที่สนทนากันอย่างสนุกสนานทำให้ผมขับรถเลยเส้นทางไปไกลจนถึงวัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี เสียเวลาไปร่วม 30 นาทีเลยทีเดียว และต้องหาทางกลับรถเพื่อเข้าสู่เส้นทางที่ถูกต้อง เมื่อกลับสู่เส้นทางที่ถูกต้องก็เริ่มต้องทำเวลา เพราะการเดินทางไปแต่ละแห่งนั้นมักจะใช้เวลาซึมซับบรรยากาศกันนานพอสมควร และก็มาถึงจุดนัดหมายที่อำเภอท่าวุ้ง เพื่อรับทีมงานอีก 1 คน … จึงเป็นอันว่าการเดินทางวันนี้เราร่วมเดินทางด้วยกันทั้งสิ้น 3 คน จุดแรกที่เราจะเดินทางกันไปนั่นก็คือ วัดเขาสนามแจง… Read More »

สวัสดีครับ กับภารกิจเที่ยววัดทั่วไทย ของผมกันอีกครั้งและจะพบกันเรื่อยๆตราบใดที่ผมยังมีแรงท่องเที่ยว วันนี้ผมจะทุกท่านไปชมโบสถ์เก่าแก่ อายุกว่าร้อยปี ที่ อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี วัดนี้ชื่อว่า “วัดบางลี่” ซึ่งผมเดินทางมาในครั้งนี้ด้วยความบังเอิญ ไม่มีในโปรแกรมการเดินทางครั้งนี้ เนื่องจากว่าผมได้เดินทางไปเที่ยวที่วัดเขาสมอคอน และได้ผ่านมายังเส้นทางนี้ และสังเกตุเห็นโบสถ์เก่า ที่ทรุดโทรมไปมากแล้ว จึงได้แวะเข้าไปกันครับ บรรยากาศในวัดบางลี่ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ค่อนข้างเงียบครับ แต่จะสามารถมองเห็นโบสถ์เก่าแก่ ซึ่งเป็นจุดดึงดูดให้ผมต้องแวะเข้าไป เมื่อผมได้เข้าไปยังบริเวณวัด ก็ได้เข้าไปกราบนมัสการเจ้าอาวาสเพื่อขออนุญาตเข้าไปถ่ายรูปโบสถ์เก่า ซึ่งท่านก็อนุญาตให้เข้าไปได้ตามสะดวก แต่ก็ต้องระวังเรื่องสัตว์เลื้อคลานเพราะค่อนข้างรก เจ้าอาวาสบอกว่าโบสถ์หลังเก่ามีอายุมากกว่าร้อยปีแล้ว มีสภาพทรุดโทรม จึงได้ทำการสร้างโบสถ์หลังใหม่ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมได้พยายามค้นหาข้อมูลวัดบางลี่ทางอินเตอร์เน็ต แต่ก็ไม่พบข้อมูล รู้แต่เพียงว่าในอดีตนั้นมีหลวงพ่อสุข เป็นอดีตเจ้าอาวาสที่ได้รับความเคารพนับถืออย่างมาก และมีวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมสูงอีกด้วย ถ้าท่านผู้อ่านมีข้อมูลวัด ก็ช่วยแบ่งปันข้อมูลด้วยนะครับ เมื่อจอดรถและขออนุญาตเจ้าอาวาสแล้ว เราก็เดินไปยังโบสถ์หลังเดิม ผ่านวิหารพระศรีอริยะเมตตรัย , สมเด็จพุฒาจารย์ โต และหลวงพ่อสุข สุขสโร ซึ่งก็เสียดายที่ถูกปิดอยู่ และเราก็เกรงใจหลวงพ่อ จึงไม่ได้ขอเปิดเข้าไปครับ ถัดไปจะเป็นศาลาไม้เอนกประสงค์ ซึ่งเดิมเป็นห้องสมุดวัดครับ ก่อนถึงโบสถ์หลังเก่า เราจะผ่านโบสถ์หลังใหม่กันก่อน ซึ่งมีสภาพใหม่เลยครับ น่าจะสร้างได้ไม่นานมานี้ และก็เช่นดิม เราก็ไม่ได้เข้าไปในโบสถ์หลังใหม่ครับ ตรงข้ามกับโบสถ์หลังเก่า จะมีพระเจดีย์ ซึ่งเป็นพระเจดีย์ที่สร้างตั้งแต่สมัยหลวงพ่อสุข ภายในจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ด้วยครับ และก็มาจุดไฮไลท์ของเราในวันนี้ นั่นก็คือโบสถ์หลังเก่า ซึ่งมีความเก่าแก่ กว่า 100 ปีเลยหล่ะครับ (เจ้าอาวาสบอกเช่นนี้) ลักษณะพื้นที่ ค่อนข้างรกไปด้วยต้นไม้มากมาย ถ้าจะเดินทางมากัน… Read More »

https://youtu.be/6O3v37jcjo4 ขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2559 อีกครั้งกับการเดินทางท่องเที่ยวในภารกิจเที่ยววัดของผม ถ้ายังมีแรงก็ยังจะเที่ยวลุยกันต่อไปครับ ช่วงปีใหม่ผมได้มาพักผ่อนที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นจังหวัดทางภาคตะวันออกที่ไม่ห่างไกลจากรุงเทพมากนัก และยังมีวัดวาอารามให้ท่องเที่ยวและทำบุญอีกมากมายหลายแห่ง แต่การที่จะเข้าไปยังตัวเมืองฉะเชิงเทราก็ต้องทำใจกันเล็กน้อยนะครับ เพราะรถติดแน่นอน ยิ่งช่วงเทศกาลด้วยแล้ว ยิ่งติดเป็นทวีคูณ ด้วยเหตุนี้ผมจึงจัดแจงโปรแกรมเที่ยววัดของผมออกมาจากโซนเมืองเล็กน้อย และเป้าหมายของผมจะอยู่ที่วัดเขาดิน อ.บางปะกง นั่นเอง ถ้าใครเคยขับรถผ่านจุดพักมอเตอร์เวย์ เส้นฉะเชิงเทรา – ชลบุรี คงจะสังเกตุเห็นวัดเขาดิน ที่ติดริมถนนมอเตอร์เวย์เลยนะครับ เพราะมีความโดดเด่น มองเห็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่และเจดีย์องค์ใหญ่สูงเด่นบนยอดเขา ซึ่งผมก็ได้เห็นอยู่บ่อยๆ จึงมีความตั้งใจว่าจะต้องไปสักครั้ง และก็มีโอกาสเดินทางในปีใหม่ 2559 นี้ เป็นครั้งแรก สำหรับการเดินทาง ผมคิดว่าจะเดินทางไปง่ายๆ เพราะเห็นวัดติดกับถนนมอเตอร์เวย์ แต่เชื่อมั้ยครับว่า เล่นเอาผม งง ไปหลายตลบเลยครับ การเดินทางของผมใช้เวลานานมากเพราะมัวหลงเส้นทาง โดยครั้งแรกผมมาจากเมืองฉะเชิงเทรา มาตามเส้นทางไปมอเตอร์เวย์ แต่ผมดันเลี้ยวเข้าเส้นไปวัดเขาดินไม่ทัน ทำให้ขับรถออกเส้นมอเตอร์เวย์ เสียเวลาหาทางกลับเข้ามาอีกนานหลายนาที หลังจากนั้น พอกลับเข้ามาได้ ก็ดันหลงทางอีก วนเวียนผ่านโรงไฟฟ้าบางปะกง เสียเวลาครั้งนี้เป็นชั่วโมงเลยหล่ะครับ เล่นเอาท้อจนเกือบจะกลับ… เอาเป็นว่า ผมขอแนะนำเส้นทางให้ไปทางอำเภอบ้านโพธิ์ จะดีที่สุด แม้ว่าจะไม่ใช่เส้นทางหลัก แต่ก็สามารถประหยัดเวลาได้ดีเลยทีเดียว ขับรถยิงตรงตามทางหลักถึงวัดเขาดินเลยครับ… ที่ผมรู้เส้นทางนี้เพราะว่า ผมใช้เป็นเส้นทางกลับครับ หรือท่านจะลองดูแผนที่ด้านล่างแล้วศึกษาเส้นทางดูนะครับ หลังจากหลงทางเป็นชั่วโมง ผมก็มาถึงจนได้ และได้สอบถาม รปภ. ที่วัด ก็ทราบว่าไม่ใช่เรื่องแปลกเลยครับ เพราะคนอื่นๆที่มากันครั้งแรกก็เจอปัญหาเช่นเดียวกันกับผม บรรยากาศวันที่ผมไปถึงค่อนข้างคึกคัก เพราะตรงกับวันหยุดช่วงเทศกาลปีใหม่ ท่านสามารถชมบรรยากาศโดยรวมทางคลิปวีดีโอ ที่ผมอัพไว้ให้ชมด้านบนนะครับ… Read More »