วัดน้ำเต้า อยุธยา หลวงพ่อสังข์พระเกจิศิษย์หลวงพ่อปั้นผู้ทรงอภิญญา

https://youtu.be/FDpJzc9YaB0 วัดน้ำเต้า ท้องทุ่งบางบาล อยุธยา หลวงพ่อสังข์พระเกจิศิษย์หลวงพ่อปั้นผู้ทรงอภิญญา… สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปตามรอยพระเกจิอาจารย์แห่งท้องทุ่งบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกรูปหนึ่ง นั่นก็คือ หลวงพ่อสังข์ ปุญญสิริ แห่งวัดน้ำเต้า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรื่องราวการเดินทางครั้งนี้ ไม่ได้เน้นเกี่ยวกับประวัติวัติ เพราะผมหาข้อมูลแทบไม่ได้เลยครับ…มีเพียงเรื่องราวของหลวงพ่อสังข์ ที่ท่านเคยจำพรรษาที่นี่… ชื่อเสียงของหลวงพ่อสังข์เป็นที่เลื่องลือ เพราะท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อปั้น วัดพิกุล อยุธยา ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร อีกทั้งท่านเป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่ทิม วัดพระขาว อยุธยาอีกด้วย… และมีเหตุการณ์สำคัญที่มีบันทึกในหนังสือประวัติหลวงพ่อปาน โสนันโท แห่งวัดบางนมโค ได้เขียนไว้ว่า เมื่อครั้งที่หลวงพ่อปานกำหนดจิตละสังขาร หลวงพ่อสังข์ได้กำหนดจิตตามดูจิตของหลวงพ่อปาน และได้บอกว่า มีพรหมและเทวดาห้อมล้อมไปส่งหลวงพ่อปานถึงสวรรค์ชั้นดุสิต เป็นเรื่องราวพอสังเขปที่ผมพอจะรวบรวมแบบสรุป จึงมีความคิดว่า วัดแห่งนี้มีพระผู้ทรงคุณอภิญญาเคยจำพรรษา จึงต้องตามมาเก็บเกี่ยวบรรยากาศและเรื่องราวในสถานที่จริง เมื่อมาถึงวัดน้ำเต้า จะเห็นถึงบรรยากาศอันสงบของชนบท เพราะห่างไกลเมือง… และไม่ค่อยมีผู้คนรู้จักกันมากนัก ด้วยเพราะเส้นทางมาวัดจะไม่ติดถนนหลัก…ผู้ที่เดินทางมา ส่วนมากจะทราบถึงเรื่องราวของหลวงพ่อสังข์นั่นเอง มองดูโดยรอบวัด เหมือนวัดปกติทั่วๆไป แต่สิ่งที่แปลกตาคืออุโบสถ ที่เป็นทรงที่ไม่คุ้นตาเท่าไหร่นัก เมื่อเดินเข้ามายังเขตอุโบสถ จะพบใบเสมาโบราณสมบูรณ์ที่สร้างขึ้นจากหินทรายแดงด้วย 1 ชิ้น … ผมไม่แน่ใจว่านำมาจากวัดใด เพราะดูรูปแบบแล้วเป็นสมัยอยุธยาเลยทีเดียว ถัดจากอุโบสถจะเป็นหมู่กุฏิสงฆ์ สภาพโดยรวมดูเป็นสภาพเดิมๆ เหมือนวัดในท้องถิ่นทั่วไป… จากนั้นผมไปยังวิหารหลวงพ่อสังข์ เพื่อกราบรูปหล่อของท่าน ในวันที่ผมเดินทาง เป็นวันที่มีงานบุญถวายรูปปั้นพระสีวลี จึงได้มีโอกาสอนุโมทนาไปกับเขาด้วยครับ เรื่องราวของหลวงพ่อสังข์ หลวงพ่อสังข์ เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อปั้น วัดพิกุล อยุธยา ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร หลวงพ่อปั้นเคยเอ่ยไว้ว่า “เจ้าเณรสังข์ รูปนี้… Read More »

วัดบางกระเบา หลวงพ่อจาด พระเกจิแห่งสงครามอินโดจีน

https://youtu.be/nzsW1KtVByM วัดบางกระเบา ปราจีนบุรี หลวงพ่อจาด พระเกจิแห่งสงครามอินโดจีน… ผมจะพาทุกท่านไปตามรอยพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในอดีตจนเป็นตำนานเลื่องลือไม่เสื่อคลายในช่วงสงครามอินโดจีน เป็นคำพูดติดปากของพระเกจิสมัยนั้นว่า “จาด จง คง อี๋ จัน”  พระเกจิอาจารย์ชื่อดังในครั้งนั้นคือ หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา ปราจีนบุรี, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา, หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม, หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ชลบุรี, หลวงปู่จัน วัดนางหนู ลพบุรี ผมได้มีโอกาสเดินทางไปยัง อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา…หลังเสร็จธุระแล้ว จึงลองค้นหาข้อมูลเพื่อจะไปตามรอยสถานที่สักแห่งเพื่อไม่ให้เป็นการเสียโอกาส จึงมีชื่อวัดบางกระเบาขึ้นมาในใจ ซึ่งเมื่อลองหาเส้นทางพบว่าระยะทางไม่ห่างไกลมากนัก เพียงไม่ถึง 30 กิโลเมตร…ผมจึงมุ่งหน้าเดินทางไปยังวัดบางกระเบาทันที ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที บรรยากาศแรกที่มาถึง แม้จะเป็นวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ของหลายๆคน แต่บรรยากาศมีความเงียบ อาจจะเพราะเป็นวัดในท้องถิ่น…ซึ่งบรรยากาศแบบนี้ผมชอบมากครับ ผู้คนไม่พลุกพล่าน ทยอยกันมาเป็นระยะ…วัดติดริมแม่น้ำบางปะกง ซึ่งแต่เดิมคงเป็นหน้าวัด เพราะสมัยก่อนการใช้เส้นทางสัญจรจะเน้นทางน้ำเป็นหลัก มีศาลาริมน้ำให้นั่งพักผ่อนอย่างสบาย… รูปหล่อในมณฑปจะมีอยู่ 3 องค์ จากซ้ายคือหลวงพ่อนะโม(เจ้าอาวาสรูปที่ 2), หลวงพ่อจาด (เจ้าอาวาสรูปแรก), หลวงพ่อฟุ้ง (เจ้าอาวาสรูปที่ 3) ประวัติหลวงพ่อจาด (พอสังเขป) หลวงพ่อจาด หรือ พระครูสิทธิสารคุณ เดิมชื่อ จาด วงษ์กำพุช เกิดเมื่อวันที่ 17… Read More »

วัดไทร อินทร์บุรี สิงห์บุรี ความสวยงามเมื่อรากโพธิ์โอบรัดโบสถ์ไว้

https://youtu.be/M3q2xGNvz6g วัดไทร อินทร์บุรี สิงห์บุรี ความสวยงามเมื่อรากโพธิ์โอบรัดโบสถ์ไว้… หลายครั้งเมื่อเราเดินทางไปท่องเที่ยวยังโบราณมักจะเห็นโบราณบางแห่งมีรากต้นไม้ขึ้นครอบ ซึ่งมีความสวยงามอย่างมาก และเป็นการพยุงอาคารที่มีอายุนับร้อยปี ให้สามารถคงทนถาวรให้ได้เห็นจนถึงปัจจุบัน… วัดไทร อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่มีความสวยงามดังกล่าว ที่ผมจะพาเดินทางไปชมในครั้งนี้ จากประวัติที่ป้ายหน้าวัดระบุว่า วัดไทร ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ประวัติวัดไทร ตำบลชีน้ำร้าย อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี  เดิมชื่อว่า “วัดทะยาน” กร่อนมาจากคำว่า “ท้ายย่าน” มีคนเล่าว่าเคยมีพระธุดงค์รูปหนึ่ง มาพบวัดร้างนี้เห็นว่าบริเวณโดยรอบมีต้นไทรขึ้นอยู่หนาแน่น จึงบอกชาวบ้านให้เปลี่ยนชื่อวัดเป็นวัดไทร วัดนี้คาดว่าถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา วัดนี้มีลักษณะพิเศษ คือเป็นวัดที่มีรากต้นไทรยึดกำแพงโบสถ์ที่ประดิษฐานองค์พระประธานไว้โดยรอบ ส่วนของศาลาได้พังลงน้ำไปแล้ว องค์พระประธานนี้ เดิมคนเฒ่าคนแก่เรียกกันว่า “หลวงพ่อขาว” หรือหลวงพ่อทะยาน ปัจจุบันเรียกว่า “หลวงพ่อวัดไทร” ผู้เฒ่าผู้แก่ในท้องถิ่นเล่าต่อกันมาแต่แรกนั้นองค์พระประธานเป็นหุ่นปูนหุ้มแผง ต่อมาถูกทหารพม่าสุ่มไฟหลอมลอกเอาทองไปหมดเหลือแต่หุ่นปูนข้างใน องค์พระพุทธรูปถูกตัดเศียรไป ต่อมาชาวบ้านแถวนั้นได้เรี่ยไรกันเพื่อนำเงินมาบูรณะต่อเศียรพระพุทธรูปที่ประดิษฐานองค์พระ เป็นโบสถ์เก่าชาวบ้านเรียกว่าโบสถ์มหาอุต คือเป็นโบสถ์ที่มีประตู เข้า – ออกทางเดียว มีคนเล่าว่าเคยมีคนจะเข้ามาบูรณะทำหลังคาโบสถ์ให้ แต่เมื่อลงมือทำก็มีฟ้าผ่าและมีคนฝันว่าองค์พระประธานที่ประดิษฐ์ในโบสถ์นั้น บอกไม่ให้สร้างหรือดัดแปลงใดๆหลังจากนั้นมาก็ไม่มีใครทำหลังคาให้อีก นับตั้งแต่ได้มีการบูรณะเศียรองค์พระประธานแล้ว ชาวบ้านแถวนั้นได้มีการร่วมกันทำบุญในช่วงสงกรานต์ของทุกปี จนปัจจุบันได้กำหนดทำบุญและสรงน้ำองค์พระในวันที่ ๑๖ เมษายน ของทุกปี ความเกี่ยวโยงตามบันทึกการสร้างป้อมปราการสมัยพระยารายณ์มหาราช มีบันทึกการสร้างป้อมปราการที่ อินทร์บุรีในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช บาทหลวงตาชาร์ด บันทึกว่า เราออกจากเมืองละโว้เมื่อวันที่ 18 มกราคม พร้อมด้วย ม.… Read More »

ชมฮูปแต้ม จิตรกรรมฝาผนังในสิมอีสาน วัดไชยศรี ขอนแก่น

https://youtu.be/gKUyrNhZPHA ชมฮูปแต้ม จิตรกรรมฝาผนังในสิมอีสาน วัดไชยศรี ขอนแก่น… สวัสดีครับ ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยังจังหวัดขอนแก่นที่วัดไชยศรี เพื่อไปชมความงดงามทางวัฒนธรรมในท้องถิ่นอีสานที่ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบจิตรกรรมฝาผนังหรือที่เรียกว่าฮูปแต้มในสิมอีสาน(โบสถ์) อุโบสถ(สิม) วัดไชยศรี หมู่ที่ 8 บ้านสาวะถี ตำบลสาวะถี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เป็นสิมทึบแบบพื้นบ้านอีสานไทย ได้รับอิทธิพลจากช่างญวณ ก่อสร้างก่อน พ.ศ.2460 หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีประตูและบันไดทางขึ้นด้านหน้าเพียงด้านเดียว ก่ออิฐถือปูน ผนังข้างมีหน้าต่าง 3 ช่อง เป็นหน้าต่างจริง 1 ช่อง ผนังด้านหลังปิดทึบ มีหน้าต่างหลอก 3 ช่อง หลังคาทรงจั่ว มีการต่อหลังคาปีกนก มีเสาไม้รองรับโดยรอบ มีกำแพงแก้วก่ออิฐถือปูนเตี้ยๆล้อมรอบสิม ผนังด้านนอกและด้านในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังหรือฮูปแต้ม เป็นเรื่องพุทธประวัติและวรรณกรรมพื้นบ้าน เรื่องพระเวสสันดรชาดก สินไซ(สังข์ศิลป์ชัย) ภาพเทพ ภาพบุคคล และสัตว์ ภาพนรก ใช้สีฝุ่นวรรณะเย็น คือ สีคราม สีเหลือง สีขาว สีเขียว สีน้ำตาลและสีดำ ประกาศขึ้นทะเบียนและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 118 ตอนพิเศษ 127 ง วันที่ 21 ธันวาคม 2544 เนื้อที่ประมาณ 3 งาน 29.7 ตารางวา เนื่องจากขนบธรรมเนียมประเพณีอีสานดั้งเดิม จะไม่อนุญาตให้ผู้หญิงเข้าสิมอีสาน ซึ่งวัดไชยศรีก็เช่นกัน ความเข้าใจเรื่องฮูปแต้ม… Read More »

กราบรูปหล่อหลวงปู่เดินหน วัดไก่เตี้ย สามโคก ปทุมธานี

https://youtu.be/Vw_iDaZ71QI กราบรูปหล่อหลวงปู่เดินหน อิเกสาโร วัดไก่เตี้ย สามโคก ปทุมธานี… สวัสดีครับ ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยังวัดไก่เตี้ย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ต้องบอกก่อนว่า เรื่องข้อมูลเกี่ยวกับวัดนี้ ผมมีน้อยหรือแทบไม่มีเลยก็ว่าได้ แต่มีเหตุผลที่เดินทางมาที่นี่ เนื่องจากเรื่องราวของหลวงปู่เดินหน อิเกสาโร ซึ่งเป็นพระที่มีเรื่องราวเร้นลับกล่าวขานมายาวนานหลายสิบปี จนปัจจุบันแทบจะหาผู้คนถ่ายทอดเรื่องราวนี้ไม่ได้ สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ รูปหล่อหลวงปู่เดิน ขนาดเท่าองค์จริงมีน้อยมากในประเทศไทย และที่วัดไก่เตี้ย เป็นสถานที่หนึ่งในนั้นที่ประดิษฐายรูปหล่อหลวงปู่เดินหนไว้ด้วย ผมได้ยินชื่อของหลวงปู่เดินหน ครั้งแรกจากเพจเฟสบุ๊คที่ชื่อ “ฅนขลัง คลังวิชา” ซึ่งมีคุณเบนเป็นแอดมินเพจ ที่คอยให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของหลวงปู่เดินหน และผมคิดว่า น่าจะเป็นบุคคลที่มีความรู้มากที่สุดในเวลานี้ เปิดตำนานหลวงปู่เดินหน อิเกสาโร เรื่องราวในวันนี้อาจจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อเกินจะคาดคิด แต่ก็ทำให้ผมต้องกลับพิจารณาอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง … ผมได้ฟังเรื่องราวของหลวงปู่เดินหน อิเกสาโร ผ่านยูทูป “Konklung klungvicha”  ซึ่งเป็นเรื่องราวการบันทึกของ อาจารย์ ท. เลียงพิบูลย์ ซึ่งเข้าไปร่วมสังเกตุการณ์ในพิธีเลี้ยงผีทหารและผู้คนที่ล้มตายในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นที่วัดทุ่งสมอ กาญจนบุรี เกิดขึ้นในราวปี พ.ศ.2508 – 2509 แต่เรื่องราวนี้ได้รับการเรียบเรียงและบันทึกขึ้นมาโดยอาจารย์ ท.เลียง พิบูลย์ ในปี พ.ศ. 2516 ปัจจุบันนี้ อาจารย์ ท. เลียงพิบูลย์ ได้เสียชีวิตไปแล้ว ท่านเป็นอดีตนักเขียนชื่อดังมากในอดีต มีหนังสือที่ท่านเขียนหลายเล่ม ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับกฏแห่งกรรมและพระพุทธศาสนา ถือเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ชีวิตที่น่าเชื่อถือมากคนหนึ่ง ผมขอกล่าวคร่าวๆ เกี่ยวกับเรื่องราวนี้… Read More »

สระสี่เหลี่ยม สระให้น้ำไก่ของพระรถ ในตำนานพระรถเมรีและนางสิบสอง

https://youtu.be/YlOEw-pM0Hk สระสี่เหลี่ยม สระให้น้ำไก่ของพระรถ ในตำนานพระรถเมรีและนางสิบสอง ที่อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี… สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปตามรอยตำนาน ซึ่งเป็นสถานที่ ที่สันนิษฐานว่าเป็นเมืองโบราณมาก่อนนับพันปี และมีตำนานเกี่ยวกับ พระรถ ในวรรณคดีพระรถเมรีอีกด้วย นอกจากในตำนานพระรถแล้ว ยังมีตำนานเล่าขานว่าเป็นดินแดนลับแล สถานที่นี้คือ โบราณสถานสระสี่เหลี่ยม ที่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ตำนานสระสี่เหลี่ยม โบราณสถานสระสี่เหลี่ยม กรมศิลปากรได้มาสำรวจและขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อปี พ.ศ. 2474 ตัวสระเป็นศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส  ขนาด 5×5 วา ลึก 2 วาเศษ ได้ขุดตัดหินเป็นหน้าเรียบลึกลงไปเป็นแนวดิ่ง ได้มุมฉากทั้งสี่ด้าน คล้ายกับเครื่องจักรตัด ทางด้านทิศตะวันตกมีบันไดหินลงไป 12 ขั้น ปี พ.ศ. 2512 กรมชลประทานได้ขุดคลองจากท่าลาด อ.พนมสารคาม บันไดบางส่วนจึงถูกดินถม ทางราชการได้ตั้งชื่อของตำบลนี้ตามลักษณะของรูปสระว่า ตำบลสระสี่เหลี่ยม อำเภอพนัสนิคม จ.ชลบุรี ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไม่ปรากฏว่าผู้ใดขุดสระนี้ไว้ แต่มีตำนานว่าพระรถได้ขุดสระนี้เพื่อให้น้ำไก่ และไปพนันตีไก่กับพระเจ้าอู่ทองอู่ไท ที่ ต.ดงน้อย จ.ปราจีนบุรี โดยพนันเอาบ้านเอาเมืองกัน จึงสันนิษฐานว่า สระนี้ขุดพร้อมกับเมืองพระรถ อยู่ที่ตำบลหน้าพระธาตุ ในสมัยทราวดี ราวพุทธศตวรรษที่ 13-17 จึงสันนิษฐานว่าสถานที่นี้เป็นชุมชนแห่งหนึ่งในสมัยนั้น ต่อมาอาจอพยพย้ายถิ่นฐาน จึงกลายเป็นบ้านเมืองร้างไป หลักฐานทางประวัติศาสตร์ปี พ.ศ. 2372 ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์… Read More »