วัดธรรมมงคล หลวงพ่อวิริยังค์ พระอุปัฏฐากหลวงปู่มั่น

By | July 22, 2019

https://youtu.be/JcNqMU9VtOg

หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร ผู้ก่อตั้งวัดธรรมมงคล กรุงเทพฯ ผู้เป็นพระอุปัฏฐากหลวงปู่มั่น นานถึง 4 ปี … สวัสดีครับ ท่านผู้รักการท่องเที่ยวตามรอยความศรัทธา ถ้าจะกล่าวถึงหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าท่านเป็นพระสงฆ์ที่ขับเคลื่อนพระพุทธศาสนาหลังยุคกึ่งพุทธกาลอย่างแท้จริง หลวงปู่มั่นได้เผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าจนมีลูกศิษย์มากมายทั่วประเทศที่ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา

และหนึ่งในนั้นคือ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร ผู้เป็นศิษย์หลวงปู่มั่นและได้อุปัฏฐากหลวงปู่มั่นอย่างใกล้ชิดนานถึง 4 ปี ย่อมได้รับข้อธรรมอันแสนวิเศษจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายป่าอย่างชัดเจนแน่นอน

ปัจจุบัน(พ.ศ.2562) หลวงพ่อวิริยังค์มีอายุ 99 ปี ถือได้ว่าเป็นพระอุปัฏฐากหลวงปู่มั่นเพียงรูปเดียวที่ยังทรงขันธ์อยู่

เรื่องราวของหลวงพ่อวิริยังค์ก่อนที่จะเข้าสู่วงศ์พระพุทธศาสนานั้น เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่ออายุเพียง 13 ปี เพราะตามเพื่อนไปนั่งสมาธิจนเกิดอัศจรรย์ทางจิต และต่อมาท่านได้บวชหนักถึงขั้นจะเป็นอัมพาต ขยับตัวไม่ได้ ท่านจึงได้ตั้งจิตอธิษฐานถ้าหายจากอาการป่วยจะอุทิศชีวิตให้แก่พระพุทธศาสนา และก็เกิดเหตุการณ์อัศจรรย์อีกเช่นกัน เมื่อท่านหายป่วยจึงบรรพชาและบวชเป็นพระสงฆ์ติดตามหลวงปู่กงมา จิรปุญโญนานถึง 8 ปี และอุปัฏฐากหลวงปู่มั่นอีก 4 ปี จึงได้รับข้อธรรมที่ถูกต้องจากครูบาอาจารย์อย่างใกล้ชิด

หลวงพ่อวิริยังค์อุทิศตนแก่พระพุทธศาสนามาโดยตลอดทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการสอนสมาธิตามแนวทางหลวงปู่มั่นจนถึงปัจจุบัน

ถ้าจะกล่าวถึงเรื่องราวของหลวงพ่อ คงใช้เวลาเขียนอีกมากมาย แต่วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยังวัดธรรมมงคล กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นวัดที่หลวงพ่อวิริยังค์ได้ดำริให้สร้างขึ้น

หลวงพ่อวิริยังค์ถ่ายรูปภายในอุโบสถ

วัดธรรมมงคล เดิมมีชื่อว่า วัดป่าสะแก เพราะบริเวณวัดในอดีตมีต้นสะแกอยู่มาก

มูลเหตุการณ์สร้างวัด เนื่องมาจากคหบดีเจ้าของที่ดินคือ นายเถาและนางบุญมา อยู่ประเทศ มีความประสงค์จะถวายที่ดินแก่พระสงฆ์ จนมาพบกับหลวงพ่อวิริยังค์ที่มาปักกลดบริเวณป่าสะแก มีประชาชนเลื่อมใสศรัทธามากจึงเดินทางมาทำบุญกันมากมาย ทั้งมาปฏิบัติด้วยจนมีจำนวนมากขึ้นทุกวัน

นายเถาและนางบุญมา จึงเกิดความเลื่อมใส จึงได้ถวายที่ดินเพื่อวัตถุประสงค์ให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ความเจริญของสถานที่ได้ดำเนินไปตามกาลเวลา ต่อมาได้ตั้งชื่อวัดอย่างเป็นทางการว่า “วัดธรรมมงคล เถาบุญญนนท์วิหาร” สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2506

ภายในวัดมีสถานที่สำคัญมากมาย ซึ่งผมจะพาทุกท่านไปชมกันเลยครับ

พระวิริยะมงคลมหาเจดีย์ ศรีรัตนโกสินทร์

มูลเหตุการสร้างมหาเจดีย์ เกิดจากหลวงพ่อวิริยังค์ ได้ตั้งสัจจาธิษฐานต่อหน้าพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดโคตะมะวิหาร จังหวัดจิตตกอง ปนะเทศบังคลาเทศว่า หากได้รับพระบรมสารีริกธาตุครบ 5 องค์ จะสร้างพระมหาเจดีย์เพื่อประดิษฐาน

พระวิริยะมงคลมหาเจดีย์ ศรีรัตนโกสินทร์สูง 94.78 เมตร ทรงสี่เหลี่ยมจำลองแบบมาจากพุทธคยา 

พระพุทธรูป ภ.ป.ร.(หลวงพ่อองค์ดำ)

พระพุทธรูป ภ.ป.ร.(หลวงพ่อองค์ดำ) ประดิษฐานในวิหารชั้น 2 ในพระวิริยะมงคลมหาเจดีย์ศรีรัตนโกสินทร์ เป็นพระพุทธรูปปางปรานพร สร้างจากเนื้อโลหะทองสัมฤทธิ์

ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จทรงเททองหล่อ ณ วัดธรรมมงคล เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2519 เวลา 16.49 น. เป็นวันเดียวกันกับทรงวางศิลาฤกษ์พระวิริยะมงคลมหาเจดีย์ศรีรัตนโกสินทร์

วิหารหลวงปู่มั่น

วิหารหลวงปู่มั่น ตั้งอยู่ที่ลานประทักษิณของพระวิริยะมงคลมหาเจดีย์ศรีรัตนโกสินทร์

พระอัฏฐาฬส

พระอัฏฐาฬส ประดิษฐานเป็นพระประธานทิศตะวันออกของพระวิริยะมงคลมหาเจดีย์ศรีรัตนโกสินทร์ เป็นพระพุทธรูปปางยืนประทานพร หล่อด้วยทองเหลือง สูง 18 ศอก (อัฐ แปลว่า 8, ฬส แปลว่า 10 ดังนั้น พระอัฏฐาฬสจึงแปลว่า พระสูง 18 ศอก) สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2525

พระพุทธมงคลธรรมศรีไทย (หลวงพ่อหยก)

หลวงพ่อวิริยังค์ นิมิตเห็นหยกเขียวบริสุทธิ์ขนาดใหญ่ และท่านรอเวลานานถึง 5 ปี จึงค้นพบก้อนหยกนี้ ซึ่งมีน้ำหนักถึง 32 ตัน ที่เมืองแวนคูเวอร์ รัฐบริทิชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2534 ขุดพบโดยนายจอห์น สกุสเลอร์

หลวงพ่อได้มาเป็นกรรมสิทธิ์และขนส่งทางเรือมาถึงวัดธรรมมงคลเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2535 และมีการแบ่งหยกออกเป็นสองส่วนเพื่อแกะสลักสร้างพระพุทธรูปและเจ้าแม่กวนอิม และที่เหลือได้นำมาแกะสลักเป็นพระองค์ขนาดเล็กให้สาธุชนได้บูชา

การแกะสลักพระพุทธรูปได้ใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญจากประเทศอิตาลี ชื่อ นายซีซี่ สมาอิล, ศาสตราจารย์เปาโล เวี้ยกจิและ นายซารีฟ ทัฟฟิก แกะสลักเป็นพระพุทธรูปสูง 2.20 เมตร หน้าตักกว้าง 1.66 เมตร เป็นพระพุทธรูปหยกเขียวขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใช้เวลาในการแกะสลักนานถึง 12 เดือนเพราะเนื้อหยกมีความแข็งมาก และใช้ทุนทรัพย์ทั้งสิ้น 29,528,200 บาทในการจัดสร้าง

ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานนามว่า “พระพุทธมงคลธรรมศรีไทย” (หลวงพ่อหยก) ประดิษฐาน ณ ชั้นที่ 3 ศาลาพระพุทธมงคลธรรมศรีไทย เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2536 เวลา 9.18 น.

เจ้าแม่กวนอิม

เจ้าแม่กวนอิม สร้างจากหยกชิ้นเดียวกันกับหลวงพ่อหยก ใช้ช่างแกะสลักชุดเดียวกัน ใช้เวลาสลักทั้งสิ้น 9 เดือน มีความสูง 2.2 เมตร ประดิษฐานที่ศาลาหลวงพ่อหยกเช่นกัน

พระพุทธสุพิโนภาสศาสดาหรือหลวงพ่อใหญ่

พระพุทธสุพิโนภาสศาสดาหรือหลวงพ่อใหญ่ (สุพิ แปลว่างาม, โอภาส แปลว่า แสงสว่าง) สร้างด้วยทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 8 เมตร สูง 16 เมตร ประดิษฐานเป็นพระประธานในอุโบสถ

พระพุทธสุพิโนภาสศาสดาหรือหลวงพ่อใหญ่

หลังจากที่ผมเดินชมสถานที่และกราบพระพุทธรูปสำคัญเรียบร้อยแล้ว ผมจึงได้เตรียมเข้าชมพิพิธภัณฑ์ประทีปแห่งดวงใจ เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงอัตชีวประวัติของหลวงพ่อวิริยังค์และประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุให้บูชา

รอบจัดเข้าชมพิพิธภัณฑ์

พิพิธภัณฑ์จะหยุดทุกวันจันทร์ วางแผนเดินทางกันให้ดีนะครับ ถ้าเดินทางวันเสาร์-อาทิตย์ อาจจะต้องโทรจอล่วงหน้า เพราะมีผู้สนใจมาก แต่ผมเดินทางไปในวันธรรมดาคนน้อยดีครับ

บัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์

เนื่องจากต้องมีการบำรุงสถานที่ จึงมีค่าใช้จ่ายเข้าชม 80 บาทครับ

การเข้าชม ชั้นที่แสดงวีดีทัศน์ (10 – 11) ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปและวีดีโอ ส่วนชั้นที่ 12-14 สามารถถ่ายรูปได้เท่านั้น

ภาพภ่ายบางส่วนในพิพิธภัณฑ์

ภาพถ่ายบ้านเกิดหลวงพ่อวิริยังค์

จำลองสถานที่ ที่เกี่ยวข้องกับหลวงพ่อวิริยังค์

บาตรหลวงพ่อวิริยังค์

รูปภาพที่หลวงพ่อวิริยังค์เขียนขึ้น

ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ที่มหาวิทยาลัยต่างๆได้ถวายแก่หลวงพ่อวิริยังค์

จัดแสดงภาพถ่ายหลวงพ่อวิริยังค์

จัดแสดงภาพหลวงพ่อวิริยังค์

ใบโพธิ์จากประเทศอินเดีย

ทิวทัศน์เมืองกรุงทพฯมองจากมหาเจดีย์

จัดแสดงภาพถ่ายและปริศนาธรรมต่างๆ

พระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานบนชั้นที่ 14

พระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานบนพระมหาเจดีย์ ประกอบด้วย พระบรมสารีริกธาตุ(กระดูก), พระเกศาธตุ(เส้นผม), พระอุรังคธาตุ(กระดูกหน้าอก)

สำหรับท่านที่สนใจบูชาวัตถุมงคล สามารถไปบูชาได้ที่ “ศาลา ๘๔ ปี พระเทพเจติยาจารย์” มีวัตถุมงคลของหลวงพ่อวิริยังค์ให้บูชาครับ

กล่าวปิดท้าย

ทั้งหมดนี้คือภาพบรรยากาศวัดธรรมมงคล ที่ผมได้นำมาให้รับชมกัน เหนือสิ่งอื่นใดคือพระธรรมคำสอนที่หลวงพ่อวิริยังค์ได้เสียสละชีวิตของท่านต่อพระพุทธศาสนา เพื่อให้เหล่าสาธุชนเข้าถึงธรรมที่ถูกต้อง ผมจึงขอแนะนำให้ทุกท่านที่แสวงหาความสงบได้เข้ามาศึกษาเรื่องราวของหลวงพ่อวิริยังค์และวัดธรรมมงคล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตของทุกท่านต่อไป

ขอบพระคุณการติดตาม แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไปครับ… แอดมินตั้ม

 

ช่องทางการติดตาม

ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจภารกิจเที่ยววัด ได้ที่ www.facebook.com/faith108

หรือติดตามช่อง YouTube Channel FaithThaiStory ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory

แบ่งปันเรื่องราวการท่องเที่ยววัดที่กลุ่ม รวมพลคนชอบเที่ยววัด