https://youtu.be/eP9Bn11uuls
วัดพราหมณี หลวงพ่อปากแดง นครนายก ที่พึ่งของนักแสวงโชค
สวัสดีกับบทความท่องเที่ยววัดทั่วไทยของผมอีกครั้ง และครั้งนี้ผมได้เดินทางมาถึงจังหวัดนครนายก นอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น น้ำตกสาริกา, น้ำตกนางรอง ก็ยังเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังเกี่ยวกับพุทธสถานหรือวัดนี่แหละครับ เกี่ยวกับเรื่องความเชื่อ โชคลาภและมีผู้เดินทางมายังวัดแห่งนี้มากเป็นพิเศษในช่วงก่อนจะออกสลากกินแบ่งรัฐบาล นั่นก็คือ “วัดพราหมณี” หรือเราจะคุ้นเคยกันในนาม “วัดหลวงพ่อปากแดง” นั่นเอง
สำหรับเรื่องการเดินทางนั้น สุดแสนจะง่ายและสะดวกสบาย โดยให้ขับรถตรงเข้าเมืองนครนายกเลยนะครับ ตามเส้นทางน้ำตกสาริกา วัดจะตั้งใจใกล้ๆกับตลาดโรงเกลือนครนายก ขอรับรองว่าไม่ได้เดินทางไปยากจริงๆครับ
เหตุผลที่ผมเดินทางมาครั้งนี้เพื่อมาดูบรรยากาศแห่งความศรัทธา ที่ผู้คนต่างเลื่องลือในความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อปากแดง และเป็นการเดินทางพักผ่อนท่องเที่ยวของผมไปในตัว โดยวัดพราหมณีแห่งนี้ มีอายุก็เกิน 100 ปีแล้วนะครับ สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แม้ว่าช่วงหนึ่งจะเคยถูกทิ้งร้าง และก็ได้รับการบูรณะอีกครั้งเมื่อปี พ.ศ. 2526
เมื่อผมขับรถถึงตลาดโรงเกลือ นครนายก จะมองเห็นป้ายวัดขนาดใหญ่ข้างๆกัน ก็เลี้ยวเข้ามาเลย บริเวณลานจอดรถกว้างขวางใหญ่โต รองรับรถยนต์ส่วนบุคคลและรถบัส จึงสบายใจเรื่องที่จอดรถครับ
หลังจากหาที่จอดรถได้เรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินเข้ามาตามเส้นทาง จะผ่านร้านค้ามากมายที่ชาวบ้านมาตั้งจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของที่ระลึกและอาหารต่างๆในท้องถิ่น
ก่อนที่จะถึงวิหารหลวงพ่อปากแดง เราจะผ่านวิหารหลวงพ่อโพธิ์ก่อน ยังไงอย่าลืมแวะนมัสการขอพรกันก่อนด้วยนะครับ
ต้องบอกเลยว่าร้านค้าภายในวัดเยอะมากจริงๆ กว่าจะเดินเข้าไปถึงวิหารหลวงพ่อปากแดงก็มีนับหลายสิบร้าน และตอนนี้ผมก็เดินยังไม่ถึงเลยครับ ส่วนเรื่องอาหารการกินไม่ต้องกังวลใจเลยครับ ร้านอาหารเพียบ ถ้ารู้สึกหิวก็แวะกันเลย มีทั้งก๋วยเตี๋ยว ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ และอื่นๆอีกมากมาย ถ้าคนที่ชอบซื้อของคงต้องใช้เวลานานเลยครับกว่าจะเดินไปถึงวิหารหลวงพ่อปากแดง
ก่อนถึงวิหารหลวงพ่อปากแดง จะผ่านจุดเช่าบูชาวัตถุมงคลของทางวัด ถ้าใครมีจิตศรัทธาก็สามารถบูชาไว้เป็นที่ระลึกกันได้
และอีกจุดหนึ่งที่เราจะต้องเดินผ่านกันแน่นอนก็คือศาลเจ้าแม่ตะเคียน และศาลกุมารทอง สำหรับเรื่องความเชื่อนี้ก็ปลูกฝังอยู่ในสังคมไทบมาช้านาน ยังไงก็โปรดใช้วิจารณญาณกันด้วยครับ
ก่อนที่จะเข้าไปในพระวิหารหลวงพ่อปากแดง จะมองเห็นรูปปั้นช้างขนาดใหญ่ 2 เชือกตั้งอยู่ด้านหน้า ชื่อพลายเงิน และพลายทอง ผมคิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องช้างของเสด็จพ่อ ร. 5 ของเรา
สำหรับบางท่านอาจจะเดินลอดท้องช้างตามความเชื่อเรื่องสะเดาะเคราะห์ของคนไทย
สำหรับน้ำแดงเป็นสิ่งที่ผู้มีจิตศรัทธานิยมซื้อมาเพื่อถวายหลวงพ่อปากแดง ซึ่งมีจุดจำหน่ายเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้มีจิตศรัทธา
ก่อนเข้าพระวิหารหลวงพ่อปากแดง จะมีป้ายแนะนำการบูชาไว้อย่างละเอียด
ภายในวิหารหลวงพ่อปากแดงจะมีรูปหล่อจำลองเสด็จพ่อ ร.5 ซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดพราหมณี
หลวงพ่อปากแดง เป็นพระ พุทธรูปปางสมาธิ สร้างด้วยโลหะสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 49 นิ้ว สูง 1 เมตร เป็นศิลปะแบบสมัยล้านช้าง จีวรเป็นลายดอกพิกุล พระโอษฐ์แย้มทาสีแดงเห็นชัด ซึ่งบอกเล่าต่อๆกันมาว่าเห็นสีแดงแบบนี้มานานตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว
เนื่องจากหลวงพ่อปากแดงจะประดิษฐานอยู่ด้านบน ซึ่งไม่อนุญาตให้ปิดทอง ผู้มีจิตศรัทธาจึงปิดทองได้เฉพาะพระพุทธรูปที่ประดิษฐานด้านล่าง รวมถึงฐานบัลลังค์ของหลวงพ่อปากแดงเท่านั้น
พุทธลักษณะของหลวงพ่อปากแดงงดงามมากครับ ดูสงบนิ่ง และน่าเลื่อมใสศรัทธามาก
ประวัติความเป็นมาของวัดพราหมณี และหลวงพ่อปากแดง
วัดพราหมณีสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จประพาสมณฑลปราจีนบุรี และเมื่อเสด็จมาถึงบริเวณวัดปัจจุบัน ช้างทรงเชือกหนึ่งได้ล้มลง จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นอนุสรณ์ เมื่อปี พ.ศ.2446
วัดพราหมณีนั้นเคยได้ถูกทิ้งร้างไปในช่วงหนึ่ง กระทั่งในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา หรือสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้เลือกบริเวณที่ตั้งของวัดพราหมณีแห่งนี้และเขาทุเรียนเป็นจุดพักทัพของกองพลทหารที่ 37 ซึ่งมีจุดหมายจะไปรวมพลกันที่บริเวณเขาชะโงก ซึ่งปัจจุบันเป็น สถานที่ตั้งของโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จังหวัดนครนายก จนสงครามสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2488 จึงมีทหารญี่ปุ่นล้มตายอยู่ในเขต จ.นครนายก หลายแห่ง และปรากฏว่ามีการค้นพบกระดูกของทหารญี่ปุ่นใกล้วัดพราหมณี ดังนั้น สมาคมทหารสหายสงครามกองพลญี่ปุ่นที่ 37 ได้ร่วมกันบริจาคเงินในนามสมาคมสหายสงครามสร้างอนุสรณ์สถานไว้เพื่อเป็นที่ ระลึกถึงทหารญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2532
เมื่อปี 2526 พระครูโสภณพรหมคุณ หรือ “หลวงพ่อตึ๋ง” เจ้าอาวาสวัดพราหมณีได้ทำการบูรณะวัดพราหมณีขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง
สำหรับตำนานหลวงพ่อปากแดงเชื่อกันว่าหลวงพ่อปากแดง เป็นพระพุทธรูปพี่น้องกับหลวงพ่อพระสุก และหลวงพ่อพระใส ที่ประดิษฐานอยู่ที่ จ.หนองคาย ที่ได้อัญเชิญมาจากนครเวียงจันทน์ ประเทศลาว เมื่อมาถึงประเทศไทย ชาวบ้านได้แยกย้ายไปตามวัดต่างๆ ส่วนหลวงพ่อปากแดงนั้น ชาวบ้านได้อัญเชิญและนำมาหยุดยังพื้นที่ว่างบริเวณที่เป็นวัดพราหมณี ปัจจุบันนี้ จากนั้นก็ลงมือสร้างวัดแล้วก็อัญเชิญองค์หลวงพ่อขึ้นเป็นพระประธานในพระ อุโบสถ ซึ่งต่อมา “หลวงพ่อปากแดง” ก็กลายมาเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของชาว จ.นครนายก สิ่งที่เด่นสะดุดตา คือ ที่ปากของหลวงพ่อมีสีแดงสด เหมือนมีผู้นำลิปสติกไปทาไว้ ผู้เฒ่าผู้แก่ย่านนั้นยืนยัน ว่าเห็นปากท่านแดงแบบนี้ มาตั้งแต่เกิด แม้แต่ปู่ย่าตายายของผู้เฒ่าเหล่านี้ก็บอกว่าเห็นมาตั้งแต่เกิดเช่นกัน จึงไม่มีใครรู้เลยว่าเพราะเหตุใดพระโอษฐ์จึงมีสีแดง
นอกจากการเดินทางมาทำบุญเพื่อสืบทอดพระศาสนาแล้ว ที่วัดพราหมณี ก็เป็นจุดที่นักเสี่ยงโชคและนักแสวงหาโชคลาภ เดินทางมาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงใกล้การออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อเดินทางมาหาอะไร ทุกท่านก็คงจะเข้าใจ
ยังไงถ้ามากันแล้ว ก็โปรดใช้วิจารณญาณกันให้ดีนะครับ เพราะเรื่องแบบนี้น่าจะขึ้นกับบุญกรรมส่วนบุคคล ดังโอวาทของสมเด็จพุฒาจารย์โตที่ว่า…
ลูกเอ๋ย ก่อนที่จะเที่ยว ไปขอบารมีหลวงพ่อองค์ใด เจ้าจะต้องมีทุนของตัวเอง คือบารมีของตนลงทุนไปก่อนเมื่อบารมีของเจ้าไม่พอ จึงค่อยขอยืมบารมีคนอื่นมาช่วย มิฉะนั้นเจ้าจะเอาตัวไม่รอด เพราะหนี้สินในบุญบารมีที่ เที่ยวไปขอยืมมาจนพ้นตัว… เมื่อทำบุญทำกุศลได้บารมีมาก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาจนหมด ไม่มีอะไรเหลือติดตัว แล้วเจ้าจะมีอะไรไว้ในภพหน้า หมั่นสร้างบารมีไว้…แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง…”
“จงจำไว้นะ…เมื่อยังไม่ถึงเวลาเทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้…ครั้น ถึงเวลา…ทั่วฟ้าจบดิน ก็ต้านเจ้าไม่อยู่…จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดิน เมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย จะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้า…”
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านสมปรารถนานะครับ
ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
ร่วมแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยววัดด้วยกัน ได้ที่ กลุ่มรวมพลคนชอบเที่ยววัด