Tag Archives: อยุธยา

ตามหาวัดพระงาม จากนิราศนครสวรรค์

https://youtu.be/KIVj_Yrc9S0 ตามหาวัดพระงามในอยุธยา จากนิราศนครสวรรค์ ซึ่งกรมพระยาดำรงราชานุภาพสันนิษฐานว่า “พระศรีมโหสถแต่งเมื่อครั้งโดยเสด็จสมเด็จพระนารายณ์ฯ จากรุงศรีอยุธยาไปรับช้างเผือกที่นครสวรรค์ พ.ศ. ๒๒๐๑” การตามรอยหาวัดพระงามครั้งนี้ เป็นการจุดประเด็นโดยอัฐพงษ์ บุญสร้าง แอดมินกลุ่ม Facebook “ประวัติศาสตร์หลังเที่ยงคืน” จึงได้นำเนื้อความนิราศนครสวรรค์มาประกอบแผนที่มณฑล พ.ศ.๒๔๕๘ เพื่อประมวลผลเส้นทางตามลุ่มน้ำโพธิ์สามต้น จนได้ข้อสันนิษฐานนี้ว่า วัดที่ปรากฏให้เห็นพระพุทธรูปงามที่พรรณาไว้ในนิราศและติดริมน้ำ มองเห็นได้ชัดเจน น่าจะเป็นวัดท่ายักษ์(วัดพยัคฆ์) ซึ่งเป็นวัดร้างที่เหลือซุ้มพระยืนโดดเด่นให้เห็นถึงในปัจจุบันนี้ จุดเริ่มต้นในการเดินทางคือเพนียดคล้องช้าง วิ่งไปตามลำน้ำโพธิ์สามต้น ผ่านบ้านไทยใหญ่ ถึงวัดพระงาม หลังจากผ่านวัดพระงาม ไปถึงเกาะราชเทพีและวัดป่าใน เป็นจุดสุดท้ายในการเดินทางตามรอย ซึ่งเป็นไปตามบริบทในนิราศและสอดคล้องกับแผนที่มณฑลดังกล่าว *****เนื้อความ นิราศนครสวรรค์(บางส่วน) ….๏ ลุถึงพะเนียดช้าง สาวสรรค์เอาแต่ตัวตรูมัน โอบอ้อมนำมาสู่ซองกรร กงเขื่อน ขันนาเสด็จออกเอาพลล้อม ลากเข้าโรงรมย์ ฯ ๏ ดลบ้านไทยใหญ่น้ำ นองชล เชี่ยวแฮยลย่อมพานิชสน เสียดซ้องคิดครวญร่ำจวนจน ใจเดือด แดนากี่เมื่อเลยจะหล้อง ลาดเข้าคืนเวียง ฯ ๏ วัดพระงามเงื่อนเพี้ยง แมนสรรค์งามรูปปฏิมาพรรณ รุ่งเร้าถวายวันทนอัน ปราโมช แล้วแฮขอจงพลันคืนเข้า สู่บ้านเมืองหลวง ฯ ๏ ไคลคลานาเวศใกล้ ทรายมี มากนาเกาะราชเทพีศรี ชื่อไซร้ถนัดกลเทพี เพ็ญภาคย์ งามแฮมาเพื่อโลมลวงให้ หน่วงหน้านานถึง ฯ ๏ สัดจรเลอทุ่งถ้อง ทางไป เปล่าแฮเห็นแต่แฝกแขมใบ ค่าค้อมราตรีสว่างแสงใส โสภาคย เดือนนาลมระรวยชวยอ้อม โอบเนื้อเสียวสมร ฯ ๏ ลุบางลาง… Read More »

วัดสี่เหลี่ยม วัดร้างริมถนนก่อนเข้าเมืองอยุธยา

https://youtu.be/wASinYPWf0M วัดสี่เหลี่ยม วัดร้างข้างถนนก่อนเข้าเมืองอยุธยากับเจดีย์ทรงแปลกตาที่หลายคนไม่เคยรู้… สวัสดีครับท่านผู้ติดตามและรักการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยอดีตทุกท่าน วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางเข้าสู่เมืองพระนครศรีอยุธยา ก่อนที่จะเข้าเมือง เราจะสังเกตเห็นเจดีย์ร้างข้างถนนก่อนถึงวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้ม หลายท่านคุ้นตากันเป็นประจำ ด้วยความคุ้นชินอาจทำให้ไม่ได้สนใจถึงวัดร้างแห่งนี้ จากแผนที่วัดและโบราณสถานพระนครศรีอยุธยา ได้ระบุในแผนที่ว่า ตำแหน่งตรงนี้คือ “วัดสี่เหลี่ยม” มีความโดดเด่นขององค์เจดีย์ รูปทรงที่ไม่ค่อยได้เห็นมากนักในอยุธยา ผมจึงได้เดินทางไปพร้อมกับ ผศ.ดร.ฉันทัส เพียรธรรม เพื่อลงพื้นที่นำข้อมูลสันนิษฐานมาแบ่งปันความรู้เพิ่มเติมให้กับท่านผู้ติดตามครับ Loading… ท่านที่สนใจไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก สามารถจอดรถไว้ริมทางแล้วเดินเข้าไปชมกันได้ครับ นอกจากองค์เจดีย์ที่หลงเหลือ เราจะได้พบกับซากองค์พระพุทธรูปหินทรายข้างกับองค์เจดีย์นี้ ซึ่งเหลือเพียงส่วนลำตัว ซากพระพุทธรูปมีองค์ค่อนข้างใหญ่ มีรูแกนสำหรับใส่สลักพระเศียร ผศ.ดร.ฉันทัส เพียรธรรม ได้ให้ข้อสันนิษฐานจากรูปแบบศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมไว้อย่างน่าสนใจ เพราะรูปแบบเจดีย์เช่นนี้ค่อนข้างแปลกตา ไม่ได้พบทั่วไปในอยุธยา ซึ่งมีรูปแบบคล้ายกับเจดีย์แบบชาวพยูในเมืองมอญ (เจดีย์แบบลอมฟาง) จากรูปแบบเจดีย์ในประเทศพม่า จึงมีลักษณะคล้ายกับเจดีย์ที่วัดสี่เหลี่ยมแห่งนี้ องค์ประกอบสำคัญของเจดีย์แบบพยู(ลอมฟาง) ประกอบไปด้วย ฐานสองชั้นบนผังสี่เหลี่ยม มีลวดบัวกลม(บัวลูกแก้ว) คาดกลางทั้งสองชั้น ตัวองค์ระฆังลักษณะแบบลอมฟาง(คล้ายฟางกองพูนขั้น) เหนือองค์ระฆังเป็นก้านฉัตร จากรูปแบบเจดีย์จึงสันนิษฐานได้ว่า เจดีย์นี้อาจจะสร้างในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๒๒ ตรงกับสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยาเป็นต้นไป เพราะช่วงนั้นมีการกวาดต้อนชาวมอญเข้ามายังกรุงศรีอยุธยา ซึ่งอาจจะมีเชื้อสายชาวพยูในรัฐมอญ และมีการนำรูปแบบวัฒนธรรมของตนเองมาสร้างเจดีย์ในรูปแบบของตนเอง และลวดบัวลูกแก้วที่คาดตรงกลางฐานเจดีย์ทั้งสองชั้น จะพบมากในรูปแบบเจดีย์ในพุทธศตวรรษที่ ๒๒ เช่นกัน จึงเป็นรูปแบบเจดีย์ที่ไม่ค่อยได้เห็นกันนักในอยุธยา และหลายท่านอาจจะไม่ได้สังเกตแม้จะมองเห็นผ่านตาอยู่เป็นประจำ จากข้อมูลนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการศึกษาเพิ่มเติมของท่านที่รักการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยอดีตและวัฒนธรรมต่อไปนะครับ ขอขอบคุณการติดตาม พบกันใหม่ในบทความต่อไปครับ…แอดมินตั้ม ช่องทางการติดตาม ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจภารกิจเที่ยววัด ได้ที่ www.facebook.com/faith108 หรือติดตามช่อง YouTube Channel FaithThaiStory… Read More »

วัดประดู่ทรงธรรม สำนักวิทยาคมกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าอุทุมพรผนวชจำพรรษา ๒ ครั้ง

  https://youtu.be/fEby_gYZLew วัดประดู่ทรงธรรม สำนักวิทยาคมกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าอุทุมพรผนวชจำพรรษา ๒ ครั้ง… สวัสดีครับ ท่านผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยังวัดประดู่ทรงธรรม พระนครศรีอยุธยา วัดที่มีประวัติศาสตร์บันทึกว่า สมเด็จพระเจ้าอุทุมพรออกผนวชและมาจำพรรษาที่นี่ ๒ ครั้ง นอกจากนี้วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ร่ำเรียนวิทยาคมมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยมีหลวงพ่อรอดเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ในสมัยหลังมีอาจารย์จาบหรือเรียกกันว่า ก๋งจาบ เป็นฆราวาสที่มีความรู้ทางด้านกัมมัฏฐานได้มาเป็นครูสอนวิชาความรู้จนมีลูกศิษย์ที่เป็นพระเกจิชื่อดัง เช่น หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช, หลวงพ่อปลื้ม วัดสวนหงษ์ฯลฯ เป็นต้น และมีบันทึกว่า ก๋งจาบเคยไปช่วยชีวิตหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เมื่อครั้งถูกคุณไสย อีกด้วย การเดินทาง ถ้ามาจากกรุงเทพฯ เมื่อมาถึงเจดีย์วัดสามปลื้ม(เจดีย์กลางถนน) ให้เลี้ยวขวาจะผ่านวัดกุฎีดาว แล้วเลี้ยวซ้ายไปอีกราว 100 เมตรจะถึงวัดประดู่ทรงธรรม หน้าวัดมีลานจอดรถกว้างขวางครับ เมื่อเดินเข้าวัด จุดแรกจะเจอคูน้ำรอบวัด อาจารย์ น. ณ ปากน้ำเคยเดินทางมาสำรวจวัดแห่งนี้ เมื่อเดือนธนวาคม ปี พ.ศ.2509 กล่าวว่า พบอุโบสถตั้งอยู่บนเนินดินมีน้ำล้อมรอบ คูที่โอบรอบกำแพงแก้วนั้นดูกว้างขวางมาก จุดต่อไปจะเป็นส่วนของวิหาร สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย ภายในมีภาพเขียนสี ซึ่งเขียนขึ้นปี พ.ศ.2405 ตรงกับรัชกาลที่ 4 เป็นเรื่องราวต่างๆ เช่น พิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้า, กระบวนช้าง, เทพชุมนุม, ไตรภูมิ, พุทธประวัติ, วิถีชาวบ้าน เป็นต้น จากข้อมูลของศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศมรดกศิลปวัฒนธรรม กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม… Read More »

เที่ยววัดชมจิตรกรรม วัดสุวรรณดาราราม วัดหลวงประจำราชวงศ์จักรี

https://youtu.be/Wr5qqYzBUoE วัดสุวรรณดาราราม อยู่ในเกาะเมืองอยุธยาด้านทิศตะวันออกค่อนลงมาทางใต้ ใกล้ป้อมเพชร เป็นวัดเก่าแก่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย สถาปนาขึ้นโดยพระสุนทรอักษร(ทองดี) พระชนกในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ณ บริเวณอันเป็นนิวาสสถานเดิมของตระกูล มีชื่อเดิมว่า “วัดทอง” ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๓๒๘ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พร้อมด้วยสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสีหนาท พระอนุชาได้ทรงร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้และโปรดเกล้าฯ ถวายนามวัดใหม่ว่า “วัดสุวรรณดาราราม” และถือเป็นวัดประจำราชวงศ์จักรีอีกด้วย สิ่งก่อสร้างในวัดได้มีการสร้างเพิ่มเติมในสมัยรัชกาลที่ ๔ และปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ ๗ ในคราวสมโภชกรุงเทพฯ ครบ ๑๕๐ ปี ภาพจิตรกรรมฝาผนังในวิหาร ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวิหารเป็นภาพสีน้ำมันเกี่ยวกับพระราชพงศาวดารของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเขียนตามช่องว่างระหว่างประตูและหน้าต่างช่องละตอน ภาพจิตรกรรมเขียนโดยพระมหาเสวกตรีพระยาอนุศาสน์จิตรกร เขียนขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๔ โดยใช้เทคนิคจิตรกรรมทางตะวันตกเข้ามาประยุกต์ใช้ร่วมกับจิตรกรรมไทยและเชื่อว่าเป็นจิตรกรรมสีน้ำมันบนฝาผนังปูนแห่งแรกในประเทศไทย พระวิหารเป็นอาคารที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เพราะที่หน้าบันมีตราพระมหาพิชัยมงกุฎซึ่งเป็นตราประจำรัชกาล ลักษณะของตัวอาคารเลียนแบบจากพระอุโบสถ เพยงแต่ฐานพระวิหารไม่แอ่นท้องสำเภาเหมือนพระอุโบสถ ภายในพระวิหารมีภาพจิตรกรรมเกี่ยวกับพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เขียนขึ้นในคราวบูรณปฏิสังขรณ์สมัยรัชกาลที่ 7 จิตรกรผู้วาดคือ พระยาอนุศาสนจิตรกร(จันทร์ จิตรกร) ผนังที่ ๑ : เมื่อพ.ศ.๒๑๐๘ พระองค์ดำ(พระนเรศวร) พระชันษา ๑๓ ปี เล่นกระบี่กระบองกับมังสามเกียดต่อหน้าพระเจ้าหงสาวดี(บุเรงนอง) ณ เมืองหงสาวดี ผนังที่ ๒ : พระนเรศวรเสด็จมาจากพิษณุโลก ทรงทราบว่าพระยาจีนจันตุลงสำเภาหนีจากพระนคร เสด็จทรงเรือกราบไล่ตามไปถึงปากน้ำเจ้าพระยา แต่เรือสำเภาออกน้ำลึกได้ จึงตามไม่ทัน พ.ศ.๒๑๑๖ ผนังที่ ๓ : พระนเรศวรตีเมืองคัง เมื่อพ.ศ.๒๑๒๑… Read More »

วัดบึงลัฏฐิวัน มหาเจดีย์สวยงาม สถานที่ปฏิบัติธรรมสาขาวัดหนองป่าพงที่อยุธยา

https://youtu.be/P8npbINBO0Y วัดบึงลัฏฐิวัน มหาเจดีย์สวยงาม วัดสวยที่อยุธยา วัดสาขาวัดหนองป่าพง หลวงพ่อชา… สวัสดีครับท่านผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมทุกท่าน ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปเที่ยววัดบึงลัฏฐิวัน ซึ่งเป็นวัดปฏิบัติธรรมในสาขาวัดหนองป่าพง(หลวงพ่อชา สุภัทโท) แห่งที่ 20 การที่วัดบึงลัฏฐิวันเป็นสาขาวัดหนองป่าพง ซึ่งในอดีตมีหลวงพ่อชา สุภัทโทเป็นผู้ก่อตั้งวัดหนองป่าพง และท่านก็เป็นศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จึงเป็นอีกวัดหนึ่งที่สอนการปฏิบัติธรรมตามแนวทางของหลวงปู่มั่น  นอกจากนี้ ภายในวัดได้ก่อสร้างมหาเจดีย์สวยงามโดดเด่นสีขาวงามสง่า จึงเป็นที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปอย่างไม่ขาดสาย และผมก็ได้เดินทางเพื่อไปเก็บภาพบรรยากาศที่มหาเจดีย์แห่งนี้เช่นกัน ซึ่งมีความสวยงามและนำเรื่องราวมาแบ่งปันครับ วัดบึงลัฏฐิวัน ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ด้วยปฏิปทาอันงดงามน่าเลื่อมใสศรัทธาความมุ่งมั่นของพระอาจารย์โสภณ โอภาโส วัดบึงลัฏฐิวัน จึงได้รับความร่วมมือจากบรรดาผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลาย เริ่มก่อสร้างพระมหาเจดีย์ ศรีอยุธยาสัมมาสัมโพธิญาณ ในปี พ.ศ. 2549 จนได้เห็นถึงความสวยงามของมหาเจดีย์ในวันนี้ ด้านหน้ามหาเจดีย์ ศรีอยุธยาสัมมาสัมโพธิญาณ ได้ก่อสร้างจำลองแบบพุทธคยาจากประเทศอินเดีย พุทธคยาเป็นพุทธสถานที่มีความสำคัญที่สุด 1 ใน 4 แห่งของชาวพุทธ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสถานที่ตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปัจจุบันบริเวณพุทธศาสนสถานอันเป็นที่ตั้งของสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า  ภายในมหาเจดีย์ ได้จำลองพระพุทธรูปปางปรินิพพาน จำลองตามแบบในพระวิหารแห่งมหาปรินิพพานสถูป ที่กุสินารา ประเทศอินเดียจัดเป็นพุทธสังเวชนียสถานที่สำคัญแห่งที่ 4 ใน 4 สังเวชนียสถานของชาวพุทธ เป็นสถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพานแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  นอกจากนี้ภายในมหาเจดีย์ได้เขียนภาพจิตรกรรมสรวงสวรรค์สวยงามและประติมากรรมลอยองค์ประกอบที่ฝาผนัง ประดุจว่าเราอยู่บนสรวงสรรค์จริงๆ ภายนอกองค์เจดีย์จะมีวิหารจตุรมุขประดิษฐานรูปครูบาอาจารย์รูปต่างๆ สำหรับท่านที่ชอบท่องเที่ยววัดสวยงาม วัดบึงลัฏฐิวัน จึงเป็นอีกแห่งหนึ่งที่ขอแนะนำ เพราะออกแบบไว้ได้สวยงามเหมาะแก่การถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก อีกทั้งเราจะได้เรียนรู้เรื่องราวของพระกรรมฐานสายป่าที่น่าสนใจอีกด้วย สำหรับท่านที่สนใจปฏิบัติธรรมที่วัดบึงลัฏฐิวัน ลองค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ watbunglatthiwan.com ขอขอบคุณการติดตาม… Read More »

วัดขนอนใต้ พระพุทธบาทสี่รอยใหญ่ที่สุดในไทย

https://youtu.be/IhCAR3h6_yo วัดขนอนใต้ พระนครศรีอยุธยา พระพุทธบาทสี่รอยใหญ่ที่สุดในไทย… สวัสดีครับท่านที่รักการท่องเที่ยวทาวัฒนธรรม ก่อนหน้านี้ผมได้เขียนบทความ วัดขนอนเหนือ ไปแล้วว่ามีตำนานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวร ในบริเวณด่านเก็บอากรในสมัยอยุธยา ผมจึงจะพาเที่ยววัดขนอนใต้ ซึ่งอยู่ใกล้กันอีกวัดหนึ่ง และมีตำนานว่าเป็นวัดที่สร้างขึ้นจากเครือญาติของพระสีหนาถเดโช ผู้สร้างวัดขนอนเหนือนั่นเอง วัดขนอนใต้มีเรื่องราวที่น่าสนใจหลายอย่าง ได้แก่ ค้างคาวแม่ไก่ที่อาศัยอยู่ในวัดจำนวนมาก, พระเกจิในอดีต (หลวงปู่สาย), และพระพุทธบาทสี่รอยจำลองขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ผมเดินทางมาถึงวัดขนอนใต้ มีบรรยากาศที่ดีมากๆครับ เห็นบ้านเรือนริมคลองโพธิ์เหมือนแถบชนบท ที่วิหารจตุรมุขประดิษฐานหลวงพ่อขาว และรูปหล่อหลวงพ่อสาย อดีตเจ้าอาวาส และเป็นพระเกจิที่ร่ำเรียนวิชามาจากหลวงพ่ออั้น วัดพระญาติการาม พระนครศรีอยุธยา เรื่องราวการสร้างพระพุทธบาทสี่รอย เกิดขึ้นจากเมื่อครั้งพระสงฆ์จากวัดขนอนใต้จำนวน 27 รูป นำโดยพระอาจารย์ตาบ ได้ออกธุดงค์ไปทางเหนือ เพื่อจำลองรอยพระพุทธบาทสี่รอย ที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ และกลับมายังวัดขนอนใต้ ราวปี พ.ศ.2448 และทำการหล่อรอยพระพุทธบาทแล้วเสร็จใน ปี พ.ศ.2450 โดยมีความยาวประมาณ 11 ศอก 1 คืบ, กว้าง 4 ศอก 1 คืบ เมื่อเดินไปบริเวณหลังวิหารจะเห็นค้างคาวแม่ไก่เป็นจำนวนมาก ส่งเสียงร้องไปทั่วบริเวณ เป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเยี่ยมชม และมีประวัติว่าในหลวงรัชกาลที่ 5 ได้เสด็จประพาสมาชมค้างคาวแม่ไก่ ที่วัดขนอนใต้อีกด้วย ในปีพุทธศักราช ๒๔๓๒ ในหลวงรัชกาลที่ ๕ เคยเสด็จพระราชดำเนินมาชมค้างคาวแม่ไก่ที่วัดขนอนใต้ แจ้งในจดหมายเหตุกล่าวไว้ในพระราชกิจรายวันในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วัน ๗ฯ ๑๒ ค่ำ… Read More »