วัดสุทธาวาส สิงห์บุรี มีโบราณสถานที่น่าสนใจได้แก่ อาคารที่ประกอบด้วยประติมากรรมพระพุทธฉาย ภายในมีประติมากรรมปางถวายพระเพลิงและวิหารพระพุทธบาท
สวัสดีครับท่านผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยังจังหวัดสิงห์บุรี ที่มีโบราณสถานน่าสนใจรวมถึงภาพจิตรกรรมโบราณให้ได้ศึกษา นั่นก็คือ วัดสุทธาวาส
วัดสุทธาวาส ตั้งอยู่ที่ ต.ทับยา อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี การเดินทางสะดวกมากครับ สามารถใช้ GPS นำทางได้
ทางเข้าวัดสุทธาวาส ติดริมถนน
และก็เช่นเดิม บรรยากาศภายในวัดเงียบสงบ ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านหน้าวัดจะเห็นอาคารโบราณสถานตั้งอยู่อย่างชัดเจนครับ
ซากอาคารโบราณสถาน
ประติมากรรมพระพุทธฉาย
ประติมากรรมพระพุทธฉาย (โดยอาจารย์ปฏิพัฒน์ พุ่มพงษ์แพทย์ พ.ศ.2541)
ภายในอาคารโบราณสถานนี้ มีประติมากรรมปางถวายพระเพลิง (คล้ายกับที่วัดกลาง นครหลวง) ซึ่งวันที่ผมเดินทางไปชมนั้นมองไม่เห็นถึงประติมากรรมนี้ได้ชัดเจนนัก เพราะมีหญ้าขึ้นรก จึงได้ค้นหาภาพเก่าของอาจารย์ปฏิพัฒน์ พุ่มพงษ์แพทย์ ที่ได้มาสำรวจก่อนแล้วเมื่อปี พ.ศ.2541
ประติมากรรมโลงพระพุทธเจ้า ถ่ายปี 2562
ภาพประติมากรรมโลงพระพุทธเจ้า โดยอ.ปฏิพัฒน์ พุ่มพงษ์แพทย์ ปี พ.ศ.2541
ลักษณะจะเป็นโลงพระพุทธเจ้ามีพระบาทยื่นออกมา และพระมหากัสสปะเถระประคองอัญชลีที่พระบาท
ภายในอาคารยังพบซากพระพุทธรูปหินทรายและปูนปั้นอยู่บางส่วน
ซากพระพุทธรูปหินทราย
หลังจากชมอาคารโบราณสถานหน้าวัดแล้ว จุดต่อไป เราจะไปชมวิหารพระพุทธบาทภายในวัดกันครับ
วิหารพระพุทธบาท
ภายในวิหารพระพุทธบาท มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวในพุทธประวัติตั้งแต่เสด็จหนีจากพระราชวังเพื่อออกผนวช จนกระทั่งการถวายพระเพลิง สันนิษฐานว่าเขียนขึ้นในสมัยรัชกาบที่ 5
ด้านหน้าทางเข้าวิหารพระพุทธบาท
ด้านหน้าทางเข้าวิหารพระพุทธบาท มีพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยและปางป่าเลไลยก์ที่ชำรุดไปมากแล้ว
แท่นประดิษฐานพระพุทธบาท
รอยพระพุทธบาทที่ทรุดโทรมหายไปหมดแล้ว
จิตรกรรมเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จหนีผนวช
ภาพจิตรกรรมจะมีสอดแทรกธรรมเนียมร่วมสมัยประกอบในพุทธประวัติ เช่นในภาพเสด็จหนีออกผนวช มีภาพธงช้างเผือกเป็นต้น
จิตรกรรม เจ้าชายสิทธัตถะทรงตัดพระเมาลี
จิตรกรรมหลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพาน
ภาพจิตรกรรมผนังฝั่งขวา จะเป็นภาพอธิบายพุทธประวัติหลังปรินิพพาน ซึ่งสอดแทรกธรรมเนียมร่วมสมัย มีกระบวนแห่พระบรมศพ, การถวายพระเพลิง และโทณะพราหมณ์แบ่งพระบรมสารีริกธาตุ
จิตรกรรมพระมาลัยโปรดสวรรค์
จิตรกรรมด้านบนทางเข้า จะเป็นภาพพระมาลัยบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์กำลังสนทนากับพระอินทร์ มีพระมหาจุฬามณีบนสวรรค์เป็นเจดีย์ประธาน
หลังจากเที่ยวชมและเก็บภาพจิตรกรรมภายในวิหารพระพุทธบาทแล้ว จึงได้ออกเดินชมพื้นที่ภายในวัดครับ
ประติมากรรมพระพุทธรูปประจำวันเกิด
โอ่งน้ำโบราณ สร้างปี พ.ศ.2471
เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีความประทับใจเกี่ยวกับภาพจิตรกรรม ซึ่งแม้ไม่เก่ามากแต่สัมผัสได้ถึงความสวยงามควรค่าแก่การอนุรักษ์ จึงขอแนะนำให้ทุกท่านลองไปเก็บภาพเที่ยวชมกันครับ
ขอขอบคุณการติดตาม แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไป สวัสดีครับ…แอดมินตั้ม
ช่องทางการติดตาม
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจภารกิจเที่ยววัด ได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel FaithThaiStory ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
แบ่งปันเรื่องราวการท่องเที่ยววัดที่กลุ่ม รวมพลคนชอบเที่ยววัด
