วัดสีกุก ค่ายใหญ่พม่าของแม่ทัพมังมหานรธา เมื่อครั้งตีกรุงศรีอยุธยาแตก

By | June 20, 2018


https://youtu.be/JfT-voRvRYQ

วัดสีกุก ส่วนหนึ่งของค่ายสีกุก ค่ายใหญ่พม่าของแม่ทัพมังมหานรธา เมื่อครั้งตีกรุงศรีอยุธยาแตก… สวัสดีครับ ผมจะพาทุกท่านเดินทางท่องเที่ยววัดตามรอยประวัติศาสตร์เมื่อครั้งที่เราได้เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 โดยจุดที่จะพาทุกท่านเดินทางไปชมคือ วัดสีกุก พระนครศรีอยุธยา ส่วนหนึ่งของค่ายสีกุก ที่มีแม่ทัพใหญ่พม่าคือ มังมหานรธาเป็นแม่ทัพควบคุมการรบ

แผนผนังสันนิษฐานค่ายพม่า

เส้นสีแดงในแผนผังสันนิษฐานค่ายพม่า คือแนวกำแพงที่พม่าได้สร้างเมื่อครั้งเข้ารุกรานตีกรุงศรีอยุธยา ซึ่งขนาบไปกับกำแพงโรงเบียร์บนถนนเส้นเสนา-อยุธยา ซึ่งรวมเอาวัดสีกุกเป็นส่วนหนึ่งค่ายใหญ่นี้ (เส้นสีแดงที่ผมขีดไว้ เป็นตำแหน่งที่ผมประมาณการสันนิษฐาน ซึ่งอาจไม่ตรงจุดจริง เพราะผมไม่สามารถลงไปสำรวจได้ครับ)

อาจารย์ น. ณ ปากน้ำ นักโบราณคดีและศิลปินแห่งชาติ เคยมาสำรวจวัดสีกุก เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2509 และได้บันทึกไว้ในหนังสือ “ห้าเดือนกลางซากอิฐปูนที่อยุธยา” มีความว่า

“ตั้งอยู่ตรงข้ามกันกับวัดปากคลองบางบาล ซึ่งพื้นที่ตรงนั้นเป็นหัวเลี้ยวของแม่น้ำใหญ่ ตัวอุโบสถแม้จะถูกตกแต่งเป็นของใหม่ แต่ก็ยังเห็นเค้าของเก่าได้อย่างชัดเจน คือเสาแปดเหลี่ยมซึ่งเป็นโครงเสาเดิม ภายในอุโบสถบูรณะใหม่หมด

ด้านทิศตะวันตกของอุโบสถมีเจดีย์ย่อมุมยี่สิบแบบสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ  นอกจากนี้ยังมีเจดีย์เหลี่ยมย่อมุมแบบอยุธยาตอนปลายอีกหลายองค์

หลังวัดไม่ไกลมากนักเป็นซากค่ายพม่า เนื่องจากบริเวณแถบนี้ทางแม้น้ำโค้งเป็นรูปเกือกม้า พม่าจึงเลือกตั้งค่ายตรงวัดสีกุก แล้วทำกำแพงตัดปลายเกือกม้าจรดสองข้างแม่น้ำ กำแพงก่อด้วยอิฐอย่างแข็งแรง แต่ถูกชาวบ้านรื้อเอาอิฐไปขายจนเกือบหมดแล้ว

ค่ายสีกุกนี้เป็นค่ายที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ ภายในค่ายกว้างขวาง มีอาณาบริเวณหลายสิบไร่ มีโคกช้าง โคกม้าพร้อม ดูแล้วไม่ผิดอะไรกับเมืองๆหนึ่งทีเดียว”

แนวกำแพงโรงงานเบียร์

จากข้อมูลในหนังสือ “อยุธยาที่ไม่คุ้นเคย” ได้ระบุตำแหน่งโคกกำแพงค่ายพม่าขนาดไปกับกำแพงโรงงานเบียร์ ซึ่งโรงงานเบียร์ได้ซื้อที่ดินจรดเขตแนวกำแพงค่ายพม่าพอดี

ค่ายวัดสีกุก เป็นค่ายของแม่ทัพมังมหานรธาที่การควบคุมการรบ แต่ก่อนที่กรุงศรีอยุธญาจะแตก มังมหานรธาได้ป่วยหนักและเสียชีวิตลง และบันทึกว่ามีการสร้างเจดีย์บรรจุอัฐิไว้ในค่ายแห่งนี้อีกด้วย

หลังการเสียชีวิตของมังมหานรธา ทำให้เนเมียวสีหบดีแห่งค่ายโพธิ์สามต้นขึ้นบัญชาการรบทั้งหมดและปิดฉากความยิ่งใหญ่ของกรุงศรีอยุธยา ในปี พ.ศ.2310

อุโบสถวัดสีกุก

อุโบสถวัดสีกุก ได้รับการบูรณะเรื่อยมา ซึ่งแรกสร้างในราวปีพ.ศ. 2250 รัชสมัยพระเจ้าเสือ

เจดีย์วัดสีกุก

พระบรมธาตุเจดีย์ วัดสีกุก สร้างเมื่อ พ.ศ.2435 สูง 30 เมตร ฐานกว้าง 12 เมตร

ปี พ.ศ. 2500 หลวงจบกระบวนยุทธ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาจากประเทศอินเดีย บรรจุฉลอง 25 พุทธศตวรรษ

ปี พ.ศ. 2540 พระครูชินธรรมมาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอบางบาล วัดสีกุก จัดงานฉลองวัดสีกุกครบ 300 ปี จึงบูรณะและทาสีใหม่

จากข้อมูลนี้ที่มีการฉลองวัดสีกุกครอบ 300 ปี ในปี พ.ศ.2540 จึงเป็นข้อมูลว่า วัดสีกุกสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2240 ตรงกับสมัยพระเพทราชา

ริมแม่น้ำน้อย

ศาลแม่ทัพมังมหานรธา

หลังอุโบสถจะมีศาลของแม่ทัพมังมหานรธาตั้งอยู่ ติดริมแม่น้ำน้อย

เจดีย์ย่อมุม

หลังพระอุโบสถจะมีเจดีย์ย่อมุมแบบอยุธยาตอนปลาย ซึ่งแต่เดิมจากการสำรวจของ อาจารย์ น. ณ ปากน้ำ ได้เขียนว่ามีจำนวนมาก แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 2 องค์… ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า แต่เดิมเจดีย์ตั้งเรียงใกล้กับตลิ่ง ต่อมาน้ำกัดเซาตลิ่งจนทำให้เจดีย์หลายองค์ต้องทลายจมน้ำไป

ส่วนเรื่องของซากกำแพงค่ายได้หายไป เข้าใจว่ามีการรื้อขายและนำไปสร้างเมืองใหม่ที่กรุงธนบุรีในเวลาต่อมา

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวที่ผมได้เดินทางและนำมาจากการบันทึก ตามเอกสารที่ผมได้ระบุไว้ข้างต้น วัดสีกุกจึงเป็นอีกแห่งหนึ่งที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์น่าค้นหาและตามรอย  ขอบพระคุณการติดตามอ่านเรื่องราว แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไปครับ

คลิปตามหาซากกำแพงแนวค่ายพม่า


https://youtu.be/Sg4b3wx0oX0

https://youtu.be/aoi5pWRqv5Y

ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด

ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108

หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory

แบ่งปันเรื่องราวการท่องเที่ยววัดที่กลุ่ม รวมพลคนชอบเที่ยววัด

เว็บไซต์หลัก ที่ www.faiththaistory.com