เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผมได้มีโอกาสเดินทางไปไกลถึงจังหวัดระยอง และเช่นเดิมก่อนการเดินทางไปจังหวัดไหนๆก็ตาม จะต้องเตรียมหาข้อมูลการเดินทางเพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการเดินทางครั้งนั้นๆ ผมได้เปิดดูหนังสือตามรอยพระพุทธบาท ของพระชัยวัฒน์ อชิโต ก็ได้รับทราบข้อมูลว่า มีวัดหนึ่งที่น่าสนใจอย่างมาก เนื่องจากมีรอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่ และเป็นเพียงแห่งเดียวในจังหวัดระยอง และที่นั่นก็คือวัดเขาพระบาท ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านแลง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง จากสถานที่ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองผมก็คิดว่าการเดินทางก็คงจะไม่ลำบากมาก จึงตั้งใจที่จะเดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาทที่นี่ให้ได้
แผนที่เดินทางไปวัดเขาพระบาท จังหวัดระยอง
การเดินทางถือว่าสะดวกมาก ถ้ามาจากกรุงเทพฯ ให้มาเส้นมอเตอร์เวย์ ตรงเข้าจังหวัดระยอง จะผ่านห้างบิ๊กซีแล้วตรงมาเรื่อยๆ จนถึงสี่แยกบ้านแลงแล้วเลี้ยวซ้ายตรงไปอีกประมาณ 7 กิโลเมตร จะถึงทางแยกรุปตัว T แล้วเลี้ยวขวาตรงไปเรื่อยๆจะถึงวัดเขาพระบาท ซึ่งรอยพระพุทธบาทจะประดิษฐานในพระมณฑปอยู่บริเวณเชิงเขาขึ้นไปประมาณ 150 เมตร
ระหว่างทางจะค่อนข้างร่มรื่น เพราะเป็นการเดินทางเข้าสู่ภูเขา
รอยพระพุทธบาท จะประดิษฐานในพระมณฑป จะต้องเดินขึ้นไปอีกประมาณ 150 เมตร
ป้ายขนาดใหญ่บริเวณทางขึ้นเพื่อกราบบูชารอยพระพุทธบาท
บันใดทางขึ้นจะมีพญานาค 5 เศียร ทั้ง 2 ด้าน
ทางขึ้นไม่ชันมาก ผู้สูงอายุก็สามารถขึ้นไปได้อย่างสบาย
มุมมองจากด้านบน
บริเวณด้านบน จะมีระฆังให้ผู้ศรัทธาได้ตีเป็นสัญญาณว่าได้ขึ้นมาทำการนมัสการรอยพระพุทธบาทแล้ว
บริเวณนี้สามารถทำการจุดธูปเทียนบูชาและกล่าวคำอธิษฐานก่อนขึ้นไปสู่พระมณฑป
บริเวณด้านข้างด้านขวา จะเป็นที่ตั้งของศาลเจ้า
อีกหนึ่งมุมมองก่อนขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาท
ภายในพระมณฑปที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท
ลักษณะของรอยพระพุทธบาทเบื้องซ้าย
ลักษณะของรอยพระพุทธบาทมีขนาดกว้างประมาณ 11 นิ้ว ยาว 27 นิ้ว เป็นรอยลึกลงไปประมาณครึ่งนิ้ว
ตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับรอยพระพุทธบาทเขาประดู่
ในนิทานปรัมปรา ได้เล่ากันไว้ว่า ผู้ที่มีบ้านเรือนอยู่บริเวณเชิงเขาเคยได้ยินเสียงมโหรีแว่วมาตามสายลม ในทุกๆวันพระ และมีผู้เล่าอีกว่า ในเวลาเช้าทุกวันพระจะได้เห็นพระภิกษุเดินออกมารับบิณฑบาตรจากชาวบ้านบริเวณเชิงเขา และเมื่อท่านรับบิณฑบาตรแล้ว ท่านก็จะเดินลับไปทางเชิงเขาโดยไม่มีใครรู้เลยว่าท่านมาจากไหน จนประมาณปี พ.ศ. 2514 มีพระธุดงค์รูปหนึ่งมาทำการปักกลดปฏิบัติธรรมบริเวณ “สำนักสงฆ์ตะเกราทอง” และชาวบ้านได้นำอาหารมาถวายเป็นประจำทุกเช้า ในวันหนึ่งพระธุดงค์รูปนั้นได้บอกกับชาวบ้านว่า “ต่อไปจะพบของดีที่ภูเขาลูกนั้น” จนกระทั่งได้มีผู้พบเห็นรอยพระพุทธบาทที่เขาประดู่ เนินเขาแห่งนี้มีแนวติดต่อกับเขาใหญ่ๆคือ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดกับเขายายดาหรือเขาตะเภาคว่ำ (สำเภาคว่ำ) ทิศเหนือติดกับเขายอดแหลมในเทือกเขาท่าฉุด ลักษณะของรอยพระพุทธบาทจะเป็นรอยพระพุทธบาทเบื้องซ้ายบ่ายไปทางทิศเหนือ ลักษณะตะแคงกับหินลาด ส่วนเรื่องราวของชื่อภูเขาแถบนี้ มีตำนานเล่าไว้ว่า ในอดีตมีพ่อค้าสำเภาบรรทุกสินค้ามาเลียบชายฝั่งทะเลจะเดินทางไปเมืองศรีวิชัย แต่ได้เกิดอุบัติเหตุ เรือสำเภาคว่ำและจมลงใกล้กับชายฝั่ง ลูกเรือได้พยายามว่ายหนีเข้าฝั่งและช่วยกันฉุดเรือสำเภา แต่ไม่สำเร็จต่อมาบริเวณนั้นได้กลายเป็นภูเขาจึงเรียกว่า “เขาตะเภาคว่ำ” (สำเภาคว่ำ) หรือเขายายดาในปัจจุบัน ส่วนท่าฉุดที่ฉุดเรือสำเภา ก็กลายมาเป็นเทือกเขาท่าฉุดในปัจจุบัน
พระพุทธรูปปางไสยาสน์ ประดิษฐานถัดขึ้นไป
เมื่อเดินขึ้นไปจากพระมณฑป จะมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ประดิษฐานอยู่ และมีสนัขอยู่เป็นจำนวนมาก ยังไงก็ระวังกันสักนิดนะครับ เพราะสุนัขกลุ่มนี้ก็เห่าขู่ผู้มาเยือนเหมือนกัน
มุมมองจากด้านบนเหนือพระมณฑป
เมื่อทำการกราบนมัสการรอยพระพุทธบาทแล้ว ผมก็เดินลงมาด้านล่างเพื่อชมบรรยากาศที่ร่มรื่นของบริเวณวัด จากการสังเกตุจะพบว่าทางวัดกำลังทำการก่อสร้างและบูรณะพระอุโบสถอยู่นะครับ ถ้ามีโอกาสได้เดินทางไปก็สมทบทุนร่วมทำบุญกันได้
พระอุโบสถของวัดเขาพระบาท จะตั้งอยู่ด้านล่างเชิงเขา
พระอุโบสถของวัด น่าจะอยู่ในระหว่างบูรณะ เพราะผมเห็นลูกนิมิตร อยู่รอบพื้นที่อุโบสถ
ช่วงวันที่ผมได้เดินทาง จะเป็นช่วงฤดูฝน ฟ้าจึงค่อนข้างครึ้ม แต่โชคดีที่ฝนไม่ได้ตกลงมา
แอดมินฝากไว้ก่อนจากกันในบทความนี้ ถ้ากลัวเดินทางกลับไม่สะดวก ก็หาที่พักค้างก่อนสักคืน ในระยองมีที่พักหรือโรงแรมให้เลือกเยอะเลย มาถึงระยองแล้วทั้งทีทำบุญแล้วก็อาจเลยไปทะเลแวะเล่นน้ำ หาอาหารทะเลอร่อยๆ ทานสักมื้อก่อนกลับก็ไม่ว่ากัน เลือกที่พักแบบติดทะเลก็ได้ ลองดูที่พักในระยองแบบไม่แพงมากได้ที่ Traveloka ทั้งแบบบ้านพัก เกสต์เฮาส์ หรือโรงแรมจะกี่ดาวก็เลือกเอาตามงบประมาณ
สำหรับประวัติความเป็นมาของรอยพระพุทธบาทเขาประดู่ มีเรื่องราวดังนี้
ช่วงเช้าวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2516 ตรงกับวันพระขึ้น 8 ค่ำ เดือน 10 ปีชวด เป็นช่วงประเพณีของชาวบ้านในระหว่างเข้าพรรษา จะทำการถือศีล 8 อยู่ที่วัดตรีมิตรประดิษฐาราม ซึ่งในขณะที่กำลังทำวัตรเช้ากันอยู่นั้น ได้เกิดเสียงฟ้าผ่าดังกึกก้องไปทั่วบริเวณทั้งๆที่ไม่มีทีท่าว่าจะเกิดฝนตกเลย เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่แปลกใจของชาวบ้านอย่างมาก ประจวบเหมาะกับ พระสังเวียน จันทวงศ์ ที่ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดตรีมิตรประดิษฐาราม ตำบลบ้านแลง ได้ทราบข่าวว่า มีผู้พบเห็นรอยประหลาด บนเนินเขาประดู่ในคืนนั้นพอดี จึงทำให้เหล่าภิกษุพากันสนใจที่จะเดินทางขึ้นไป จึงได้เดินทางกันไปในวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2516 เวลา 13.00 น. ทางเดินขึ้นเขาประดู่ในตอนนั้นต้องเดินเลียบป่าขึ้นไป จนมาถึงบรเวณหินดาด ที่มีรอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่ จึงได้ทำการจุดธูปเทียนบูชาและนำธงธรรมจักรติดไว้บนยอดไม้ ในขณะนั้นเองได้เกิดฟ้าครึ้มและฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก ทั้งๆที่ฝนไม่ได้ตกมาเป็นแรมเดือน เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจอย่างยิ่ง นำความชุ่มชื้นมาสู่ชาวบ้าน หลังจากนั้นผู้มีจิตศรัทธาที่ได้ทราบข่าวก็พากันหลั่งไหลเดินทางมากราบรอยพระพุทธบาทกันอย่างไม่ขาดสาย และได้จัดงานนมัสการรอยพระพุทธบาทครั้งแรกในเดือนเมษายน พ.ศ. 2517 จนสามารถสร้างศาลาที่พักสงฆ์และถนนทางขึ้นไปบูชารอยพระพุทธบาทได้แล้วเสร็จ หลังจากนั้นก็จะมีงานบุญเพื่อกราบนมัสการรอยพระพุทธบาทเป็นประจำทุกปี (ประมาณกลางเดือนสาม) รอยพระพุทธบาทแห่งนี้เป็นศูนย์รวมความศรัทธาของชาวตำบลบ้านแลงและจังหวัดระยอง รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง สำหรับความประทับใจครั้งนี้ ถือว่าสมบูรณ์แบบมากครับ เนื่องจากอากาศไม่ร้อน เดินทางได้สะดวก และเปี่ยมล้นด้วยศรัทธา ถ้าท่านใดได้มีโอกาสเดินทางมาที่จังหวัดระยอง ผมก็ขอแนะนำเลยครับสำหรับวัดแห่งนี้ บรรยากาศเชิงเขาร่มรื่นดีมาก อย่างน้อยเราก็จะได้ระลึกถึงคุณพระพุทธองค์ได้เป็นอย่างดี
– จบบันทึกการนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาประดู่ ระยอง –
ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
เว็บไซต์หลัก www.faiththaistory.com
