วัดป่าจุฬามณี วัดที่เกือบร้างท่ามกลางขุนเขา เมืองลพบุรี

By | November 21, 2019

https://youtu.be/At9HVTkrTIM

วัดป่าจุฬามณี ลพบุรี วัดที่เกือบร้างท่ามกลางทิวเขาสวยงาม… สวัสดีครับ ท่านผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมทุกท่าน วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยังวัดป่าจุฬามณี อ.เมือง จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นวัดที่อยู่เชิงเขาและมีทิวเขาสวยงามล้อมรอบในบรรยากาศที่ร่มรื่นเป็นอย่างยิ่ง แต่เกือบกลายเป็นวัดร้าง เนื่องจากที่เจ้าอาวาสรูปเดิม(หลวงพ่อประสงค์) ได้อาพาธ ทำให้ท่านไม่สามารถรับกิจนิมนต์นิมนต์ต่างๆได้ ทำให้วัดไม่มีพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา จากที่เคยเป็นสถานที่ปฏิบัติจึงเงียบเหงาลง จนกระทั่งท่านได้มรณภาพในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2562

วัดป่าจุฬามณีเงียบเหงาลงท่ามกลางความรกร้างของสถานที่ มีต้นไม้ปกคลุมดูรกทั่วบริเวณจนกระทั่งผมได้ทราบเรื่องราวของวัดป่าจุฬามณีทางโซเชียลมีเดีย Facebook เนื่องจากผู้ใช้ Facebook “Bird Erawan” ซึ่งมีอาชีพเป็นข้าราชการทหาร(ร้อยเอกธงชัย เจือจันทร์) ได้แชร์เรื่องราวของวัดในสภาพที่เกือบร้าง จนมีผู้แชร์ไปมากกว่า 26,000 แชร์ จนส่งผลให้วัดป่าจุฬามณีเป็นที่รู้จักกันในสังคมโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว และทำให้วัดเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง มีผู้มีจิตศรัทธาเดินทางมาช่วยทำความสะอาดสถานที่ และจะร่วมกันฟื้นฟูวัดให้กลับมาเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมตามแนวท่านพุทธทาสดังเดิม

หลวงพ่อกลชัย(รักษาการเจ้าอาวาสปัจจุบัน) ได้กล่าวว่า ตั้งใจจะบูรณะวัดให้เป็นสถานที่ปฏิบัติ และต้องการจะสร้างโรงครัวรองรับการปฏิบัติธรรมในเบื้องต้นเสียก่อน จึงเริ่มมีผู้คนมาช่วยงานมากขึ้นและจะมีการจัดผ้าป่าจากผู้มีจิตศรัทธาต่อไป

ผู้กองได้เขียนเรื่องราวที่มีการแชร์ไว้ดังนี้

“บุญหล่นทับ จนรับไม่ไหว” เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไปออกโรงทานงานทอดกฐินที่ “วัดดงมณี” อ.พระพุทธบาท สระบุรี มีพี่ที่รู้จักกันคนนึง พาพระมาหาเรา แล้วพูดว่า “ผู้กองครับ…พระรูปนี้เป็นรักษาการเจ้าอาวาส “วัดป่าจุฬามณี” แถวอ่างซับเหล็กท่านอยากจะขอผ้าป่าผู้กองซักกองนึง เพื่อสร้างโรงอาหารที่วัด เพราะโรงอาหารที่วัดพังหมดแล้ว ทั้งวัดมีท่านอยู่องค์เดียว “

เราได้ฟังแล้ว ก็ตอบตกลง ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าวัดอยู่ตรงไหนของอ่างซับเหล็ก วันนี้เจอกัลยาณมิตรสายธรรม เลยเล่าเรื่องที่เราจะทำบุญงานนี้ให้ฟัง ก็ตอบตกลงที่จะร่วมทำบุญด้วยกัน เลยพากันไปดูวัด

***สภาพเห็นแล้วหดหู่ใจคือ ดูแล้วเคยเป็นวัดที่ดูเจริญในอดีตแต่ตอนนี้สถาพปล่อยร้าง สอบถามเจ้าอาวาสได้ความว่า

“แต่ก่อนวัดนี้เป็นวัดที่เจริญมี “หลวงพ่อประสงค์” เป็นเจ้าอาวาสอยู่และอยู่องค์เดียว ท่านเป็นพระนักเทศน์และนักปฏิบัติธรรม มีญาติโยมเข้าวัดทำบุญเป็นจำนวนมาก หลังจากท่านป่วยเมื่อ 2 ปีก่อน ท่านไม่ได้พัฒนาวัดเลยและท่านก็มรณะภาพเมื่อวันที่ 19 พ.ค.62 ที่ผ่านมา

เมื่อท่านมรณะภาพ วัดนี้จึงกลายเป็นวัดร้าง ไม่มีพระจำวัดอยู่

ต่อมา พระกลชัย(องค์ที่อยู่ปัจจุบัน)แต่ก่อนท่านจำวัดอยู่ที่วัดแถวพระพุทธบาท ซึ่งเหมือนเป็นวัดพี่วัดน้องกับวัดนี้ ท่านเห็นวัดร้าง ไม่มีพระอยู่ ท่านจึงเข้ามาจำพรรษาที่วัดนี้เป็นพรรษาแรก และท่านจำพรรษาอยู่รูปเดียว ทั้งพรรษาที่ผ่านมา ไม่มีญาติโยมเข้าวัดมาทำบุญเลย(คงไม่รู้ว่ามีพระมาจำวัดอยู่ที่วัดแล้ว) พอออกพรรษาท่านเลยอยากจะฟื้นฟูพัฒนาวัด ให้กลับมามีชีวิตชีวาเหมือนเดิมและเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ตามแนวทาง “พระพุทธทาส” ท่านบอก “ท่านทำคนเดียวก็ไม่ไหว” จนมาเจอเรานี่แหละ ทั้งๆที่ไม่รู้จักกัน แต่มีคนพามาหาเรา และเพิ่งบอกบุญเป็นคนแรก

ที่วัดมีอะไรที่น่าเข้ามาเที่ยว และทำบุญมาก คือ

1. ลานธรรม”พระพุทธทาส” ซึ่งปัจจุบันรกร้างและชำรุดแม้แต่ไม้เท้า, แว่นตาท่านยังโดนขโมย

2. มีถ้ำ 12 ราศรี

3. บนเขามีสะพานบันไดนาคขึ้นไปสักการะ “พระมหาจุฬามณี” บนยอดเขา

4. ในโบสถ์มีรูปหล่อพระอรหันต์ทุกพระองค์บรรจุอยู่ในผนังโบสถ์

5. โลเกชั่นและบรรยากาศต่างๆของวัดสวยงาม

6. โบสถ์ยังไม่ได้ฝังลูกนิมิตรเลย

แต่สภาพวัดตอนนี้ ทุกอย่างชำรุดทรุดโทรมหมด ใบไม้หล่นรกเต็มวัด แม้แต่สายไฟและหัวก๊อกน้ำ ก็โดนขโมยลักตัดและถอดไปขายจนหมด ต้องปรับปรุงบูรณะอีกเยอะเหมือนสร้างวัดใหม่

***บุญใหญ่หล่นทับจริง ๆ เห็นแล้วก็อยากจะช่วยวัดปรับปรุงบูรณะ เพื่อทำนุบำรุงศาสนา ฟื้นชีวิตวัดให้กลับคืนขึ้นมาใหม่ และน่าจะเป็นวัดที่สวยงามน่าท่องเที่ยวของ จ.ลพบุรี แต่ไม่รู้จะทำได้ซักแค่ไหน สำหรับเราก็คงไม่มีบุญบารมีมากพอ เด๋วขอตั้งสติ จัดเรียงลำดับความคิดให้ดีๆ ก่อน ว่าจะทำยังไงต่อดี แล้วจะบอกบุญกัลยาณมิตรสายบุญทุกท่าน มาร่วมทำบุญกันครับ “บูรณะวัด ให้คนเข้ามาทำบุญ ถือว่าเป็นบุญใหญ่ของชีวิตครับ”

ขออนุญาตแท๊กเพื่อนบางท่าน เพื่อพึ่งบารมีต่อยอดลูกโซ่สะพานบุญหน่อยน่ะครับ “ศาสนาจะไม่เสื่อมสลาย ถ้าทุกคนช่วยกันทะนุบำรุงรักษาครับ”

เดินทางไปวัดป่าจุฬามณี

เมื่อผมได้ทราบเรื่องราวและเห็นภาพจากการแชร์เรื่องราวของผู้กองธงชัย จึงได้เดินทางไปวัดป่าจุฬามณีในวันรุ่งขึ้นทันที โดยมีจุดประสงค์ในการเผยแพร่ข้อมูลให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นไม่มากก็น้อย ในกำลังที่ผมพอจะทำได้

การเดินทางมีความสะดวก เพราะวัดตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองลพบุรี ติดริมถนนใหญ่ ท่านที่สนใจเดินทาง ให้ตั้ง GPS ไปได้เลยครับ

ซุ้มประตูเข้าวัด

ซุ้มประตูเข้าวัด

ทางเข้าวัด (ถ่ายรูปจากด้านใน)

ผมเคยเดินทางผ่านมาบริเวณนี้เมื่อราว 3 เดือนก่อน เห็นสภาพเป็นป่ารกเต็มไปหมด แต่วันนี้เมื่อขับรถเข้ามาในวัด กลับมีสภาพที่สะอาดตาขึ้นอย่างมาก มีการตัดกิ่งไม้หน้าวัดให้ดูโล่ง ให้แลเห็นว่ามีสภาพที่ไม่ร้าง

ลานธรรมท่านพุทธทาส

จุดแรกที่จะผ่านเข้าวัดคือ ลานธรรมท่านพุทธทาส ซึ่งน่าจะเคยใช้เป็นลานปฏิบัติธรรมในสมัยที่วัดรุ่งเรือง สภาพตอนนี้ดูสะอาดตามากครับ

อุโบสถ วัดป่าจุฬามณี

ตรงข้ามกับลานธรรมท่านพุทธทาส คืออุโบสถ ซึ่งเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนที่สมบูรณ์แล้ว ภายในมีภาพจิตรกรรมสวยงาม(เขียนในปี พ.ศ.2548) หลังองค์พระประธานเป็นภาพเขาพระสุเมรุ ผนังด้านข้างที่เหลือ 3 ด้าน มีช่องประดิษฐานรูปหล่อพระอรหันต์ในสมัยพุทธกาล

มีลูกนิมิตเอกวางไว้หน้าพระประธาน คงจะมีงานบุญผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิตในโอกาสต่อไป และมีใบเสมาทั้ง 8 ชิ้นวางในอุโบสถ ส่วนลูกนิมิตที่เหลือ วางไว้ด้านหน้าอุโบสถ 

ภายในอุโบสถ

ผนังอุโบสถ

ผนังอุโบสถด้านบนเป็นภาพพระพุทธเจ้าในปางต่างๆ ถัดลงมาเป็นช่องประดิษฐานรูปหล่อพระอรหันต์ในสมัยพุทธกาล ชั้นสุดท้ายเป็นภาพเทพพนม

หอสมุดพระไตรปิฎกด้านหน้าอุโบสถ

ด้านข้างอุโบสถ

โดยรอบอุโบสถ ประดิษฐานรูปหล่อพุทธสาวก ในตำแหน่งที่จะฝังลูกนิมิตและวางใบเสมา และมีเจดีย์อยู่ 1 องค์ สภาพอุโบสถมีความสะอาดตาขึ้นมาก ผิดไปจากรูปเดิมที่ดูรกเพียงไม่กี่วัน

หลังจากที่ผมได้เข้าไปกราบพระประธานในอุบสถแล้ว จึงเดินขึ้นภูเขาซึ่งมีบันไดถัดจากอุโบสถเข้าไปครับ

บัดไดนาคขึ้นเขา (ด้านหน้าวัด)

เดินขึ้นเขา

ประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานพร

เมื่อเดินขึ้นไปถึงยอดเขา จะพบพุทธรูปประทับยืนปางประทานพร บรรยากาศล้อมรอบสวยงามไปด้วยทิวเขา นอกจากนี้ ยังพบซากอาคารที่ถูกปล่อยให้รกร้างรอการบูรณะต่อไปครับ

เรือนนอนผู้ปฏิบัติธรรม

กุฏิเจ้าอาวาส

ศาลาการเปรียญ

ทางขึ้นศาลาการเปรียญ

พญานาคที่ศาลาการเปรียญ

พญานาคที่ศาลาการเปรียญ

พระพุทธรูปที่ศาลาการเปรียญ

จากสิ่งปลูกสร้างต่างๆที่ศาลาการเปรียญ บ่งบอกถึงความเจริญที่ผ่านมา จนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเกือบกลายเป็นวัดร้าง

โรงครัว ข้างศาลาการเปรียญ

สภาพโรงครัวข้างศาลาการเปรียญมีสภาพที่ไม่พร้อมใช้งาน หลังคาแตกชำรุด จึงเป็นเหตุให้ต้องเร่งด่วนในการสร้างขึ้นทดแทน เพราะเสบียงอาหารมีความจำเป็นต่อผู้ปฏิบัติธรรม

หลังจากที่ผมเก็บภาพและสำรวจศาลาการเปรียญแล้ว จึงได้เดินขึ้นเขา ซึ่งจะเป็นทางลาดขึ้นไป ด้านบนยอดเขามีก้อนหินก่อขึ้นและสร้างส่วนยอดคล้ายองค์เจดีย์ แกะสลักพระพักตร์พระพุทธเจ้า และเรียกกันว่า “จุฬามณีเจดีย์” ซึ่งคงจะเป็นจุดสำคัญของวัดแห่งนี้ เพราะวัดแห่งนี้มีชื่อว่า “วัดป่าจุฬามณี” นั่นเอง

ทางเดินขึ้นยอดเขา

ลานธรรม ก่อนขึ้นยอดเขา

เมื่อเดินขึ้นมาสักพัก จะพบกับลานธรรม และมีบันไดที่สร้างไปตามโขดหินไหล่เขาเพื่อเดินขึ้นไปสักการะจุฬามณีเจดีย์

ทางขึ้นไปยังจุฬามณีเจดีย์

เส้นทางเดินขึ้นไปยังจุฬามณีเจดีย์ จะชันในบางช่วงขอให้ใช้ความระมัดระวังเพราะไม่มีราวรั้ว แต่ก็ไม่ถึงขั้นลำบากมากครับ ท่านจะได้ชมความสวยงามของทิวทัศน์ด้านบน ประกอบกับความร่มรื่นและลมเย็นๆที่พัดผ่านตลอดเวลา

จุฬามณีเจดีย์ บนยอดเขา

ทิวทัศน์ด้านบน

นั่งชมวิวทิวทัศน์

เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขา จะพบกับจุฬามณีเจดีย์ เป็นก้อนหินที่มีสลักพระพักตร์พระพุทธเจ้า ท่ามกลางขุนเขาล้อมรอบ สวยงามอย่างมากครับ ถือเป็นวัดที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่งและน่าจะได้รับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมต่อไป

ผมใช้เวลาสัมผัสบรรยากาศความสวยงามด้านบนนี้สักระยะหนึ่ง เพราะรู้สึกผ่อนคลาย มีลมพัดเย็นตลอดเวลา และผมชอบบรรยากาศที่นี่มาก จึงอยากให้ท่านผู้อ่านลองมาสักครั้งครับ

จากนั้นผมได้เข้าไปนมัสการหลวงพ่อกลชัย ด้านล่างเพื่อถวายปัจจัยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และสอบถามเรื่องราวต่างๆเพิ่มเติม

เข้านมัสการพระกลชัยและสอบถามเรื่องราว

ถวายปัจจัยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา

สนทนากับหลวงพ่อกลชัย

หลวงพ่อกลชัย ได้เล่าว่า วัดป่าจุฬามณีสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ.2528 โดยหลวงพ่อประสงค์ จนมีความเจิรญรุ่งเรืองเป็นสาถานที่ปฏิบัติของคนในพื้นที่ มีสิ่งปลูกสร้าง เสนาสนะมากมาย อาทิ อุโบสถ ศาลาการเปรียญ ห้องปฏิบัติธรรม ห้องน้ำ ฯลฯ ต่อมาหลวงพ่อประสงค์เกิดอาพาธ จึงไม่สามารถปฏิบัติพัฒนาวัดต่อไปได้และยังจำพรรษาภายในวัด แต่ได้อยู่อย่างเงียบๆ เพราะเกรงจะเป็นภาระแก่ญาติโยม จนวัดได้เงียบเหงาลง ทำให้ผู้คนคิดว่าวัดแห่งนี้ไม่มีพระจำพรรษา และถูกปล่อยรกร้าง จนเกือบจะกลายเป็นวัดร้าง 

หลวงพ่อกลชัย ซึ่งมีความใกล้ชิดกับหลวงพ่อประสงค์มาก่อน ได้ดูแลอาการอาพาธของหลวงพ่อประสงค์จนมรณภาพ จึงได้เข้ามาจำพรรษาที่วัดป่าจุฬามณีเป็นพรรษาแรก และตั้งใจจะฟื้นฟูวัดให้กลับมามีสภาพดังเดิม ให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม แต่ด้วยมีท่านเพียงรูปเดียว จึงไม่มีกำลังในการจัดการ โดยท่านอยากจะบูรณะโรงครัวขึ้นใหม่ สภาพปัจจุบันมีความชำรุดทรุดโทรมไปอย่างมาก เพราะโรงครัวเปรียบเหมือนเสบียงให้แก่ผู้ที่มาปฏิบัติธรรม ที่จะมาเข้าวัดนั่นเอง

จนกระทั่ง ร้อยเอกธงชัย เจือจันทร์ ได้เข้ามาดูสถานที่ และโพสเรื่องราวลงสื่ออนไลน์ มีการแชร์ไปกว่า 26,000 แชร์ ทำให้วัดเริ่มกลับมามีสภาพที่ดีขึ้นภายในไม่กี่วัน มีผู้คนเดินทางแวะเวียนเข้าวัดเพื่อเป็นจิตอาสาในการทำความสะอาด และนำสิ่งของมาถวายมากมายไม่ขาดสาย

กลุ่มจิตอาสาจะเข้ามาถวายผ้าป่าครั้งแรกใันวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2662 และจะมีกองผ้าป่าสายร้อยเอกธงชัย มาในวันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2562 

สำหรับท่านที่ปรารถนาจะร่วมกุศลบูรณะวัด สามารถเดินทางไปได้ทุกวันครับ หรือไปร่วมงานถวายผ้าป่าตามกำหนดวันที่แจ้งไว้ได้ หรือติดต่อผู้กองเบิร์ด(ร้อยเอกธงชัย เจือจันทร์) ทาง Facebook “Bird Erawan” ขออนุโมทนานะครับ

ทิวทัศน์บนยอดเขา

สรุปปิดท้าย ที่วัดป่าจุฬามณี

วัดป่าจุฬามณี ลพบุรี เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีบรรยากาศร่มรื่น มีความสวยงามทางธรรมชาติ รายล้อมไปด้วยขุนเขา มีเสนาสนะมากมาย รวมถึงเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมตามแนวทางท่านพุทธทาสมาก่อน บ่งบอกได้ว่าเคยมีความเจริญรุ่งเรืองแต่ได้เกือบกลายเป็นวัดร้าง เป็นไปตามสัจธรรม เมื่อมีเกิดก็ต้องมีดับ

แต่ปัจจุบัน ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้วยพลังโซเชียล ที่หลั่งไหลเดินทางมาช่วยกันฟื้นฟูวัดแห่งนี้ให้กลับมาอีกครั้ง จึงถือว่าเป็นโอกาสอันดีอีกโอกาสหนึ่ง ที่เราจะได้ช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่ต่อไป อีกนานเท่านาน

แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไป สวัสดีครับ… แอดมินตั้ม – Faiththaistory.com

ช่องทางการติดตาม

ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจภารกิจเที่ยววัด ได้ที่ www.facebook.com/faith108

หรือติดตามช่อง YouTube Channel FaithThaiStory ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory

แบ่งปันเรื่องราวการท่องเที่ยววัดที่กลุ่ม รวมพลคนชอบเที่ยววัด