ตามรอยตำนานนายพรานบุญ ผู้พบพระพุทธบาท สระบุรี และบ่อพรานล้างเนื้อ

https://youtu.be/jnzTev3203E

สวัสดีกันอีกครั้ง กับการเดินทางในภารกิจเที่ยววัดทั่วไทย (ถ้าไปได้) ครั้งนี้ผมได้วางแผนเดินทางไปยังวัดพระพุทธบาท สระบุรี เพราะด้วยเหตุจากตำนานเรื่องเล่าต่อๆกันมา ซึ่งมีความน่าสนใจและน่าค้นหา

รอยพระพุทธบาท สระบุรี เป็นรอยพระพุทธบาทที่เชื่อกันว่าเป็นรอยพระพุทธบาทที่แท้จริง 1 ใน 5 แห่ง ตามตำนานของชาวลังกา นั่นก็คือพระพุทธบาทที่เขาสุวรรณบรรพต… ตามตำนานเล่าขานการค้นพบรอยพระพุทธบาทแห่งนี้กล่าวไว้ว่า

ตำนานการค้นพบรอยพระพุทธบาทสระบุรี

ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม แห่งกรุงศรีอยุธยา มีพระภิกษุสงฆ์ชาวไทยคณะหนึ่ง เดินทางไปยังลังกาทวีป ด้วยหวังจะสักการะบูชารอยพระพุทธบาท ณ เขาสุมนกูฏ การไปคราวนั้นเป็นเวลาที่พระสงฆ์ชาวลังกาทวีปกำลังทำการสอบประวัติ และหาที่ตั้งแห่งรอยพระพุทธบาททั้งปวง ซึ่งตามที่ปรากฏอยู่ในตำนานว่ามีเพียง 5 แห่ง ภายหลังสืบได้ความว่า ภูเขาที่ชื่อว่า สุวรรณบรรพต ตั้งอยู่ที่ประเทศไทย ดังนั้นแล้วเมื่อได้พบกับพระภิกษุสงฆ์ชาวไทยในครั้งนั้น ต่างพากันสอบถามว่ารอยพระพุทธบาท ที่มีอยู่ 5 แห่ง ในสถานที่ต่างๆ กันนั้น ปรากฏว่ามีที่เขาสุวรรณบรรพตแห่ง 1 ก็ภูเขาลูกนี้อยู่ในประเทศไทย แต่ภิกษุไทยไม่พยายามสืบไปนมัสการ กลับพากันไปถึงลังกาทวีป เมื่อพระภิกษุสงฆ์ไทยคณะนั้นได้รับคำบอกเล่าดังกล่าว เมื่อกลับมาสู่ประเทศไทย จึงนำความขึ้นถวายสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้มีท้องตราสั่งบรรดาหัวเมืองทั้งหลาย ให้เที่ยวตรวจตราค้นดูตามภูเขาต่างๆ ว่าจะมีรอยพระพุทธบาทอยู่ ณ ที่แห่งใด

ครั้งนั้น เจ้าเมืองสระบุรี สืบได้ความจากนายพรานบุญว่า ครั้งหนึ่งได้ออกไปล่าสัตว์ในป่าใกล้เชิงเขา ยิงถูกกวางตัวหนึ่งได้รับบาดเจ็บหนีขึ้นไปบนไหล่เขา ซุกเข้าเชิงไม้หายไป แล้วสักพักก็เห็นกวางตัวดังกล่าว วิ่งออกจากเชิงไม้โดยไม่มีลักษณะอาการบาดเจ็บ นายพรานบุญนึกประหลาดใจ จึงตามขึ้นไปดูสถานที่บนไหล่เขาที่กวางได้หนีขึ้นไป ก็พบรอยปรากฏอยู่ในศิลา มีลักษณะเหมือนรูป รอยเท้าคน ขนาดยาวประมาณศอกเศษ และ ในรอยนั้นมีน้ำขังอยู่ด้วย นายพรานบุญเข้าใจ ว่าบาดแผลของเนื้อตัวที่ถูกตนยิง คงหายเพราะดื่มน้ำในรอยนั้น จึงวักน้ำลองเอามาทาตัวดู บรรดาโรคผิวหนังคือ กลากเกลื้อน ซึ่งเป็นเรื้อรังมาช้านานแล้ว ก็หายหมดสิ้นไป เจ้าเมืองสระบุรี จึงสอบสวนความจริงดู ก็ตรวจค้นพบรอยนั้น สมดังคำบอกเล่าของนายพรานบุญ จึงมีใบบอกแจ้งเรื่องเข้ามายังกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม จึงเสด็จพระราชดำเนินขึ้นไป ณ ที่เขานั้น ทอดพระเนตรเห็นรอยนั้นแล้ว จึงทรงพระราชวิจารณ์ตระหนักแน่ในพระราชหฤทัยว่าคงเป็นรอยพระพุทธบาท

พระเจ้าทรงธรรมเกิดพระราชศรัทธาปราโมทย์โสมนัสเป็นกำลัง โดยทรงพระราชดำริเห็นว่ารอยพระพุทธบาทย่อมจัดเป็นบริโภคเจดีย์แท้ เพราะเป็นพุทธบทวลัญช์อันเนื่องมาแต่พระพุทธองค์ ย่อมประเสริฐยิ่งกว่าอุเทสิกเจดีย์ เช่น พระสถูปเจดีย์ สมควรจะยกย่องบูชาเป็นพระมหาเจดียสถาน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ช่างก่อเป็นคฤหหลังน้อย สวมรอยพระพุทธบาทไว้เป็นการชั่วคราวก่อนแล้ว ครั้นเสด็จพระราชดำเนินกลับมายังราชธานี จึงทรงสถาปนายกที่พระพุทธบาทขึ้นเป็นเจดียสถานเป็นการสำคัญ

ที่มา : www.faiththaistory.com/wat-phrabhuddabat

พระพุทธบาท สระบุรี

ทั้งนี้ รอยพระพุทธบาทแห่งนี้ หลวงพ่อปาน โสนันโท และหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้เดินทางธุดงค์มาถึงและได้กล่าวว่าเป็นพระพุทธบาทที่แท้จริง ซึ่งมีบันทึกในหนังสือ ประวัติหลวงพ่อปาน โสนนันโท … ผมได้ติดลิ้งค์บทความนี้ ไว้ท้ายบทความนะครับ

รูปปั้นนายพรานบุญ ณ กุศลสถานบ่อพรานล้างเนื้อ

นายพรานบุญ ผู้ค้นพบพระพุทธบาทเป็นคนแรก

จากเรื่องราวตำนานการค้นพบพระพุทธบาท สระบุรี จะพบว่ามีชื่อของนายพรานบุญ เป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งในตำนานการค้นพบรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ เพราะเป็นคนแรกที่ได้ค้นพบ จนเกิดเรื่องราวความศรัทธามาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งหลายๆท่าน ก็อาจจะคิดว่าเป็นเรื่องราวที่แต่งขึ้น รวมถึงผมด้วยเช่นกันที่คิดเช่นนั้น

เมื่อเกิดความสงสัยในเรื่องราวนี้ ผมจึงเดินทางไปยัง กุศลสถานบ่อพรานล้างเนื้อ ซึ่งเป็นสถานที่เกี่ยวข้องกับตำนานเรื่องการค้นพบพระพุทธบาท ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดพระพุทธบาท

เรื่องราวของนายพรานบุญได้รับการเปิดเผยจากป้าลัดดาวัลย์ วงษ์ประเสริฐ ซึ่งป้าได้เล่าว่า

ท่านเคยมาปรากฎกายให้ป้าเห็น เป็นชายร่างใหญ่ ในมือถือธนู ตอนนั้นป้าตกใจมาก พอได้สติป้าจึงก้มลงกราบ ท่านได้พูดกับป้าว่าให้ดูแลสถานที่แห่งนี้ให้ดี เพราะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ใครที่เดินทางมากราบไหว้จะพบแต่ความเป็นสิริมงคล ป้าก็ได้รับปากท่าไว้ ซึ่งแต่เดิมป้าเองก็ไม่เชื่อเรื่องนี้ คิดว่าเป็นเรื่องที่แต่งสมมุติขึ้น จนมาได้เจอกับตัวเอง จึงเชื่อสนิทใจ

ป้าได้เล่าเรื่องราวต่อว่า มีผู้คนมาบนบานและสมหวังกลับไปมากทั้งด้านโชคลาภ การเลื่อนตำแหน่งและอาการเจ็บป่วย ซึ่งของที่บนบานก็คือ ไก่ต้ม เหล้าขาวและดอกดาวเรือง

ป้าลัดดาวัลย์ วงษ์ประเสริฐ ผู้ถ่ายทอดเรื่องราว

เรื่องราวนี้ ขอให้ท่านผู้ติดตามใช้วิจารณญาณในการเชื่อด้วยนะครับ สำหรับตัวผมเองนั้น เป็นนักเดินทางท่องเที่ยวที่นำเสนอเรื่องราวตามข้อมูลที่ได้ค้นหามาเท่านั้น ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์ให้ผู้ที่ชอบการสืบตำนานในเรื่องราวเช่นกันกับผม

พรานบุญมีชื่อปรากฏในพงศาวดาร

พระราชพงศาวดารกรุงสยาม ฉบับบริติชมิวเซียม บันทึกไว้ว่า

ศักราช ๙๖๘ … เมืองสระบุรีบอกมาว่า พรานบุญพบรอยเท้าอันใหญ่บนเขา เห็นประหลาด สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวดีพระทัย เสด็จด้วยพระที่นั่งเรือชัยพยุหบาตร พร้อมด้วยท้าวพระยาสามนตราชดาษดาโดยชลมารคนทีธาร ประทับท่าเรือ รุ่งขึ้นเสด็จทรงพระที่นั่งสุวรรณปฤษฎางค์ พร้อมด้วยคเชนทรเสนางคนิกรเป็นอันมาก ครั้งนั้นยังมิได้มีทางสถลมารค พรานบุญเป็นมัคคุเทศก์นำลัดตัดดงไปถึงเชิงเขา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตรเห็นแท้ว่าเป็นรอยพระบรมพุทธบาท…”

บรรยากาศที่กุศลสถานบ่อพรานล้างเนื้อ

ผมเดินทางมายังกุศลสถานบ่อพรานล้างเนื้อ หลังจากที่เดินทางไปนมัสการพระพุทธบาท เรียบร้อยแล้ว… ผมได้สอบถามกับ รปภ. ที่วัดพระพุทธบาท ในการเดินทางไป เพราะไม่ทราบเส้นทาง ซึ่งก็อยู่ห่างกันกับพระพุทธบาท ไม่มากนักไม่น่าจะเกิน 2 กิโลเมตร

มาถึงบ่อพรานล้างเนื้อ

ลักษณะสถานที่จะเป็นแบบจีน ซึ่งน่าจะเป็นสถานที่ ที่คนไทยเชื้อสายจีนนิยมเดินทางมากัน เดินเข้ามาเล็กน้อยจะพบกับบ่อพรานล้างเนื้อ

บ่อพรานล้างเนื้อ

ลักษณะบ่อพรานล้างเนื้อ จะเป็นลักษณะมีการก่อขอบบ่อไว้ โดยรอบ

เรื่องราวของบ่อพรานล้างเนื้อ

เชื่อกันว่า บ่อพรานล้างเนื้อแห่งนี้ เป็นสถานที่นายพรานบุญจะใช้น้ำในบ่อล้างเนื้อที่สามารถล่ามาได้ก่อนเดินทางกลับออกจากป่า

ถัดไปเล็กน้อนจะเป็นบ่อพรานคุกเข่า ซึ่งเรื่องราวของบ่อพรานคุกเข่า ผมไม่ทราบที่มาที่ไปนะครับ และถัดไปอีกเล็กน้อยจะเป็นบ่อพรานปักหอก ซึ่งเชื่อกันว่าจะเป็นจุดที่พรานบุญปักหอกไว้ ก่อนที่จะนำเนื้อมาล้าง

บ่อพรานคุกเข่า

บ่อพรานปักหอก

บริเวณบ่อพรานปักหอก จะมีลักษณะเป็นหลุมเล็ก 2 หลุม ที่เชื่อว่าเป็นหลุมที่เกิดจากการปักหอกของนายพรานบุญ… จุดนี้ค่อนข้างได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากนักท่องเที่ยว เพราะมักจะเอาเหรียญหย่อนลงไป แล้วล้วงขึ้นมา ผมก็ไม่แน่ใจว่ามีเคล็ดอะไรหรือเปล่านะครับ

นักท่องเที่ยวล้วงมือลงในหลุมบ่อปักหอก

ผมนั่งพิจารณาที่บ่อปักหอก

หลังจากนั้นผมก็เดินเข้าไปในศาลานายพรานบุญ ซึ่งจะมีรูปปั้นนายพรานบุญยกคันธนูอยู่ด้านใน

รูปปั้นนายพรานบุญ

ผมเดินวนเวียน อ่านรายละเอียดเรื่องราวที่มีติดไว้ให้อ่าน และดูบรรยากาศภายในสถานที่แห่งนี้สักระยะหนึ่ง จึงได้เดินทางไปยังสถานที่อื่นๆต่อ ตามโปรแกรมที่ได้ตั้งไว้

และนี่ก็เป็นเรื่องราวตำนานเรื่องราวเกี่ยวกับนายพรานบุญ ผู้ที่ค้นพบพระพุทธบาทเป็นคนแรก ซึ่งก็ขอให้ท่านผู้อ่านใช้วิจารณญาณด้วยนะครับ ขอขอบคุณที่ติดตามอ่าน พบกันใหม่ในบทความต่อๆไป … สวัสดีครับ…