กราบนมัสการหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี

By | April 20, 2014

กราบนมัสการหลวงพ่อจรัญ แห่งวัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี, หลวงพ่อจรัญ หรือ พระธรรมสิงหบุราจารย์ ท่านเป็นพระนักปฏิบัติและนักพัฒนา ที่เหล่าพุทธศาสนิกชนเลื่อมใสศรัทธาอย่างมาก เรื่องราวชีวิตของท่านนั้นถ้าจะกล่าวคงต้องใช้เวลาเล่าเรื่องที่ยาวมาก ถ้าจะเอาแบบคร่าวๆผมจะขอกล่าวถึงท่านสักเล็กน้อยคือ ในสมัยยังเด็กท่านก็ยังไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ได้ทำความผิดและสิ่งที่ไม่ถูกต้องมากมายเช่น ลักเล็กขโมยน้อย (ขโมยเงินยาย บ่อยครั้ง) ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเต่า ไก่ นก ท่านจัดการมาหมดแล้ว และที่สำคัญผลกรรมต่างๆที่ท่านได้กระทำไว้เมื่อตอนสมัยยังเด็กก็ได้กลับมาเล่นงานตัวท่านจนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด คือ ท่านได้รับอุบัติเหตุครั้งสำคัญในชีวิตทางรถยนต์ ทำให้กระดูกคอท่านเคลื่อน (เนื่องจากกรรมของการหักคอนก) น้ำร้อนจากหม้อน้ำรถยนต์พุ่งใส่ท่าน (เนื่องจากกรรมจากการต้มเต่า) และนี่เป็นเพียงตัวอย่างของบาปกรรมที่ตามท่านทันในชาตินี้  ซึ่งจริงๆแล้วท่านได้รับผลกรรมอีกมากมายครับ

หลวงพ่อจรัญ

เมื่อท่านได้บวชท่านก็ได้ทำหน้าที่และถือศีลปฏิบัติธรรมได้เป็นแบบอย่างต่อพุทธศาสนิกชน มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมกรรมฐาน โดยท่านเป็นครูบาอาจารย์ในการสอน มีลูกศิษย์มากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชื่อเสียงของท่านจะเด่นในด้านการสอนปฏิบัติกรรมฐาน และท่านก็เข้มงวดในเรื่องการสอนอย่างมาก ผู้ที่มีทุกข์มากมายก็จะเดินทางมาปฏิบัติธรรมกันที่ วัดอัมพวันอย่างไม่ขาดสาย หลายๆคนได้รับผลที่ดีกลับไป คำที่ท่านมักกล่าวไว้เสมอต่อลูกศิษย์คือ

สวดมนต์เป็นยาทา  วิปัสสนาเป็นยากิน  ท่านจึงได้เน้นการสอนวิปัสสนากรรมฐานเป็นอย่างมากเพราะอานิสงส์ผลบุญจะได้รับอย่างมาก เนื่องจากพุทธศาสนิกชนหลายๆคนที่ไม่สะดวกเดินทางมาปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวันได้ ท่านก็ได้มีเมตตาในการจัดทำและเผยแพร่สื่อการสอนเพื่อให้สามารถกลับไปปฏิบัติธรรมที่บ้านกันได้

ปัจจุบันท่านชราภาพมากแล้ว อายุ 85 ปี ( ณ พ.ศ. 2557) จึงไม่ได้ลงมาทำการสอนปฏิบัติธรรมได้ แต่ที่วัดก็มีการสอนกรรมฐานตามปกติโดยลูกศิษย์ของท่าน สำหรับท่านที่สนใจปฏิบัติธรรมกรรมฐานก็สามารถไปที่วัดอัมพวันได้ ยังไงก็ตรวจสอบตารางการสอนให้ดีนะครับ ก่อนมาก็จัดการการงานให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้มีกังวลระหว่างปฏิบัติธรรม สามารถเข้าไปดูรายละเอียดการปฏิบัติธรรมได้ที่ www.jarun.org

แม้ท่านจะชราภาพมากแล้ว แต่ท่านก็ยังมีเมตตา ที่จะลงมาสงเคราะห์ญาติโยมอยู่ โดยกำหนดการจะมี 2 ช่วงเวลาคือ ช่วงเช้าเวลา 10.00 น. และ ช่วงบ่ายเวลา 14.00 น.  ถ้าท่านที่จะเดินทางไปกราบนมัสการหลวงพ่อจรัญ ก็เตรียมจัดสรรเวลาให้ดีนะครับ

ต่อไปผมจะพาเดินทางไปกราบนมัสการหลวงพ่อจรัญนะครับ การเดินทางนั้นง่ายมากๆ ใช้ถนนสายเอเชีย หรือทางหลวงหมายเลข 32  ขับตรงไปเรื่อยๆ  เพื่อไปจังหวัดสิงห์บุรี วัดอัมพวันจะอยู่ฝั่งซ้ายมือเลย ก่อนถึงจังหวัดสิงห์บุรีประมาณ 12 กิโลเมตร ท่านก็จะมองเห็นป้ายบอกทางชัดเจนครับ

วัดอัมพวัน สิงห์บุรี 1

เส้นทางมุ่งเข้าจังหวัดสิงห์บุรีเลยครับ ป้ายใหญ่ชัดเจน

วัดอัมพวัน สิงห์บุรี 3

เมื่อเห็นป้ายอีก 12 กิโลเมตรถึงจังหวัดสิงห์บุรี ก็จะเห็นป้ายบอกทางให้เลี้ยวไปวัดอัมพวันแล้วครับ

วัดอัมพวัน

หลังจากจอดรถ เราก็จะเดินเข้ามาอีกสักนิดนะครับ ผ่านร้านค้าของชาวบ้านมากมาย ยังไงก็อุดหนุนกันนะครับ

วัดอัมพวัน 1

เดินเข้าไปอีกเล็กน้อย จะเห็นคิวรถตู้ด้วยครับ แบบนี้ก็สะดวกเลยครับสำหรับท่านที่ไม่สะดวกเดินทางด้วยรถส่วนตัว

วัดอัมพวัน 3

ผมเดินทางมาถึงวัดประมาณ 09.30 น. ก็จะเห็นญาติโยมเดินทางเข้ามากันอย่างต่อเนื่องเลยครับ

วัดอัมพวัน 4

เมื่อมาถึงหน้ากุฏิหลวงพ่อจรัญ ก็จะเห็นผู้คนมากมายต่างมารอล่วงหน้าผมไม่น้อยเลยครับ สำหรับท่านที่ไม่ได้รับประทานอะไรมาบริเวณนี้ก็จะมีโรงทานให้ท่านได้รองท้องกันนะครับ ยังไงก็ไปรับมารับประทานกันได้

วัดอัมพวัน 6ระหว่างรอกราบนมัสการหลวงพ่อจรัญ ผมก็เดินวนเวียนดูร้านจำหน่ายวัตถุมงคลและสื่อการสอนธรรมะของหลวงพ่อครับ

วัดอัมพวัน 5

และเมื่อถึงเวลาที่ท่านลงมา ก็จะมีผู้พากล่าวคำถวายปัจจัยต่างๆที่พวกเราได้นำมา หลังจากนั้นหลวงพ่อก็จะให้พร และก็เตรียมนำถวายแด่ท่านกันเลยครับ อย่างที่เห็นในรูปผู้คนมากมายจริงๆ จนล้นออกมาด้านนอก แม้อากาศจะร้อนแต่พลังศรัทธารุนแรงกว่าครับ

หลวงพ่อจรัญพุทธศาสนิกชนและผู้มีจิตศรัทธาก็จะทยอยเข้าถวายปัจจัยจนครบทุกคนเลยครับ เน้นย้ำนะครับสำหรับการถ่ายรูปห้ามใช้แฟรชเด็ดขาด

หลวงพ่อจรัญ

ภาพโปสเตอร์ได้รับแจกจากทางวัดครับ

ก็เป็นอันเสร็จสิ้นภาระกิจการกราบนมัสการองค์หลวงพ่อจรัญ แห่งวัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี พร้อมความปลื้มปิติของเหล่าผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายที่เดินทางมากัน ทั้งนี้หลวงพ่อท่านก็ปรารภไว้เสมอ ให้ดำรงชีวิตตามหลักธรรม และให้ปฏิบัติธรรม แล้วผลของกรรมดีก็จะส่งผลเอง

หัวข้อธรรม… ทำไมผู้คนจึงศรัทธาและต้องมาทำบุญกับหลวงพ่อจรัญ

ทำไมจึงมีผู้ศรัทธาและเลื่อมใสในองค์หลวงพ่อจรัญอย่างมาก เท่าที่ผมได้สัมผัสนั้น ตัวผมคิดว่าด้วยหลักปฏิบัติของท่านเป็นที่ได้รับความนับถืออย่างแพร่หลาย มีหลักฐานชัดเจน เป็นไปตามหลักคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนหลายๆคนเชื่อว่าท่านได้บรรลุพระอรหันต์แล้ว ยิ่งเป็นที่เลื่อมใสศรัทธายิ่งขึ้น ผู้คนจากทั่วสาระทิศจึงหาโอกาสมาทำบุญกับพระอรหันต์สักครั้งในชีวิตให้ได้

ในด้านความเชื่อทางพระพุทธศาสนาได้แบ่งลำดับขั้นของการทำทานไว้เป็นขั้นๆ แบ่งตามระดับศีลธรรม ที่เรียกว่า เนื้อนาบุญ เมื่อผู้รับทาน เป็นผู้มีศีลธรรม ก็เปรียบเสมือนเป็นเนื้อนาบุญที่ดี (เน้นย้ำนะครับ ว่าเป็นความเชื่อ โปรดใช้วิจารณญาณ) ซึ่งมีลำดับดังนี้

1.ทำทานแก่สัตว์เดรัจฉาน มากถึง 100 ครั้ง ก็น้อยกว่าให้ทานแก่มนุษย์ แม้จะเป็นมนุษย์ไม่มีธรรมเลยก็ตาม ทั้งนี้เพราะสัตว์ย่อมมีบุญวาสนาบารมี น้อยกว่ามนุษย์และสัตว์ไม่ใช่เนื้อนาบุญที่ดี
2.ให้ทานแก่มนุษย์ ที่ไม่มีศีลแม้จะให้มากถึง 100 ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า ให้ทานดังกล่าวแก่ผู้มีศีล 5 แม้จะให้เพียงครั้งเดียว
3.ให้ทานแก่ผู้ที่มีศีล 5 มากถึง 100 ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าให้ทานดังกล่าวแก่ผู้ที่มีศีล 8 แม้จะให้เพียงครั้งเดียว
4.ให้ทานแก่ผู้ที่มีศีล 8 มากถึง 100 ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าให้ทานดังกล่าวแก่ผู้ที่มีศีล 10 คือสามเณรในพระพุทธศาสนา แม้จะถวายทานดังกล่าว แต่เพียงครั้งเดียว
5.ถวายทานแก่สามเณร ซึ่งมีศีล 10 มากถึง 100 ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า ถวายทาน ดังกล่าวแก่พระสมุติสงฆ์ ซึ่งมีปาฏิโมกข์สังวร 227 ข้อ (ศีลของพระสงฆ์ตามพระวินัย มีทั้งสิ้น 227 ข้อ)

สำหรับคำสอนทางพระพุทธศาสนา จะกล่าวเรียกพระสงฆ์ที่ทำการบวชในพระพุทธศาสนาว่าเป็น สมมุติสงฆ์ ซึ่งพระที่แท้จริงคือ ผู้ที่บรรลุธรรมตั้งแต่ขั้น พระโสดาบัน ขึ้นไป

6.ถวายทานแก่พระสมุติสงฆ์ มากถึง 100 ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า การถวายทานแก่ พระโสดาบัน แม้จะได้ถวายทานดังกล่าวเพียงครั้งเดียว
7.ถวายทานแก่พระโสดาบัน มากถึง 100 ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า การถวายทานแก่พระสกิทาคามี แม้จะถวายทานดังกล่าวแต่เพียงครั้งเดียว
8.ถวายทานแก่พระสกิทาคามี มากถึง 100 ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า การถวายทานดังกล่าวแก่พระอนาคามี แม้จะถวายทานดังกล่าวเพียงครั้งเดียว
9.ถวายทานแก่พระอนาคามี มากถึง 100 ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า การถวายทานดังกล่าวแก่พระอรหันต์ แม้จะถวายทานดังกล่าวเพียงครั้งเดียว
10.ถวายทานแก่พระอรหันต์ มากถึง 100 ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า การถวายทานดังกล่าวแก่ พระปัจเจกพุทธเจ้า แม้จะถวายทานเพียงครั้งเดียว
11.ถวายทานแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า มากถึง 100 ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า การถวายทานแด่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้จะถวายทานเพียงครั้งเดียว
12.ถวายทานแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ยังได้บุญน้อยกว่า การถวายสังฆทาน ที่มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน แม้จะได้ถวายสังฆทานดังกล่าวเพียงครั้งเดียว

ตามความเชื่อทางพระพุทธศาสนาดังกล่าว จึงทำให้ผู้คนหาโอกาสที่จะมาทำบุญกับพระอรหันต์ให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต

จบบันทึกการเดินทางด้วยความศรัทธาอีก 1 บทครับ

กราบนมัสการหลวงพ่อจรัญ

หลวงพ่อจรัญให้พรแก่ญาติโยม

ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด

ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108

หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory

ร่วมแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยววัดด้วยกัน ได้ที่ กลุ่มรวมพลคนชอบเที่ยววัด