สวัสดีครับ วันนี้ผมจะยังพาทุกท่านเดินทางท่องเที่ยววัด ตามรอยตำนานลพบุรีกันต่อไป จากบทความเริ่มต้น ภารกิจเที่ยววัด ตามรอยตำนานลพบุรี
มาถึงคิวของวัดเขาทับควายซึ่งมีอีกชื่อคือวัดสามัคคีธรรม วัดตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยโป่ง อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี จะตั้งอยู่ใกล้กับเขาทับควาย ซึ่งมีตำนานเล่าขานมานาน ซึ่งผมสันนิษฐานว่า วัดได้สร้างมาภายหลัง จึงมีชื่อสอดคล้องกับตำนานลพบุรี
วัดเขาทับควาย
เมื่อเราเดินทางมาถึงวัด ได้สัมผัสบรรยากาศในวัดค่อนข้างเงียบ เห็นมีคนงานก่อสร้างที่กำลังทำการบูรณะพระอุโบสถ และพระสงฆ์ซึ่งท่านก็ได้เดินมาสนทนากับกลุ่มของเรา พร้อมทั้งเล่าตำนานของเขาทับควายให้ฟัง
พระที่วัดเมตตาเล่าตำนานเขาทับควายให้ฟัง
เรื่องราวของตำนานลพบุรี ตอนเขาทับควาย จะเกี่ยวข้องกับควายทรพีและทรพา ซึ่งผมขอหยิบยกเรื่องราวตำนานนี้มาให้อ่านกันอีกครั้ง
ตำนานเขาทับควาย
ตำนานเมืองลพบุรี เกี่ยวกับเขาทับควาย
เรื่องราวของภูเขาต่างๆ ในลพบุรีเป็นตำนานนิทานที่สนุกมากๆเลยครับ ซึ่งก็มีภูเขาอยู่ลูกหนึ่งที่ไม่ได้เกี่ยวของกับตำนานข้างต้น นั่นก็คือ “เขาทับควาย”
เรื่อง ราวกล่าวไว้ว่า…ครั้งหนึ่งนานแสนนาน มีฝูงควายฝูงหนึ่งบริเวณเชิงเขาวงพระจันทร์เป็นป่าดงทึบ มีทั้งฝูงลิงมากมาย แต่ก็ไม่มีความวุ่นวายในการอยู่ร่วมกัน แต่ความแปลกคือควายทั้งฝูงจะมีเพียงจ่าฝูงที่ชื่อ ทรพา เป็นตัวผู้อยู่เพียงตัวเดียว นอกนั้นเป็นควายตัวเมียทั้งหมด ด้วยเหตุที่ ควายทรพาจะฆ่าลูกควายที่เกิดเป็นตัวผู้ทั้งหมดเพราะเกรงว่าลูกควาย นั้นเมื่อโตมาจะคิดทรยศ
ครั้งหนึ่ง แม่ควายท้องแก่ เกิดความสงสารลูกที่กำลังจะคลอดจึงแอบไปคลอดลูกในถ้ำ ให้ชื่อว่า “ทรพี” และแอบเลี้ยงดูจนเติบใหญ่เป็นควายหนุ่มแข็งแรง … ทุกครั้งที่ทรพาจ่าฝูงไปหากินที่อื่น เจ้าทรพีจะออกมาจากถ้ำสักครั้งและถือโอกาสนำรอยเท้าตนเองไปเทียบขนาดกับรอย เท้าทรพาอยู่เสมอ
จนกระทั่งรอยเท้ามีขนาดเท่าทรพา จึงได้คิดฆ่าพ่อเพื่อขึ้นเป็นจ่าฝูงแทน…ฝ่ายทรพาซึ่งได้กลายเป็นควายชราทำ ให้สู้แรงควายหนุ่มทรพีไม่ได้ จึงถูกขวิดจนขาดใจตาย
ฝ่ายทรพี จึงได้ขึ้นเป็นจ่าฝูงแทนนับแต่นั้น ควายทรพีเป็นควายที่มีความเกเร ได้เที่ยวไปรังแกเหล่าฝูงลิงในป่าอยู่เป็นนิจ ทำให้ฝูงลิงเดือดร้อนตลอดมา เรื่องราวความเกเรของควายทรพี ทราบไปถึงพาลีและสุครีพซึ่งเป็นหัวหน้าเหล่าลิง จึงได้เกิดการต่อสู้ระหว่างควายกับลิงขึ้น
การต่อสู้ครั้งนี้เกิดขึ้น ระหว่างพาลีและทรพี การต่อสู้ครั้งนี้ดำเนินไปถึง 7 วัน 7 คืน ก็ไม่มีทีท่าว่าศึกจะสงบลง ฝ่ายทรพีได้วิ่งเข้าไปในถ้ำและพาลีได้ไล่ตามเกิดการต่อสู้ต่อกันในถ้ำอย่าง ดุเดือด … ฝ่ายพาลีได้บอกให้สุครีพเฝ้าหน้าถ้ำและกล่าวว่าถ้าพบว่ามีเลือดสีแดงใสไหล ออกมาให้ปิดปากถ้ำเสีย เพราะเป็นเลือดตน…แต่ถ้าเห็นเลือดไหลออกมาที่ปากถ้ำเป็นสีแดงข้น ไม่ต้องปิดปากถ้ำเพราะนั่นคือเลือดของควายทรพี
การต่อสู้ก็ดูทีท่าไม่ สิ้นสุด ฝ่ายพาลีจึงถามทรพีว่า “ทำไมถึงแข็งแกร่งขนาดนี้” ฝ่ายทรพีนึกทะนงตนจึงได้กล่าวว่า “ข้าเก่งด้วยตัวของข้าเองอย่างนี้”
ภาพการต่อสู่ของพาลี และควายทรพี
เมื่อ ทรพีกล่าวเช่นนั้น ทำให้เทวดาที่รักษาทรพีไม่พอใจ และไม่ให้ความคุ้มครอง… ทรพีจึงถูกพาลีฆ่าตายในตอนนั้น…ระหว่างการต่อสู้ที่กำลังจะสิ้นสุด ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างไม่ขาดสายทำให้เลือดแดงข้นของควายทรพีเจือจางกับน้ำฝน กลายเป็นสีแดงใส
ฝ่ายสุครีพที่อยู่ปากถ้ำเห็นดังนั้น จึงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเลือดของพาลี จึงได้จัดการถล่มปากถ้ำปิดลงมา ทำให้พาลีถูกขังอยู่ในถ้ำ เมื่อเหตุเกิดดังนั้น ฝ่ายพาลีจึงได้ตัดหัวควายออกแล้วขว้างเต็มแรงสู่ปากถ้ำจนปากถ้ำเปิดออก
หินปากถ้ำได้ลอยกระเด็นไปตกยังแม่น้ำลพบุรี ซึ่งปัจจุบันเป็นตำบล “ท่าหิน” ส่วนหัวควายได้ตกไปยังกลางทุ่ง เกิดหนองน้ำใหญ่ชื่อ “หนองหัวกระบือ”
ส่วนตัวถ้ำได้ถูกพาลีพังปากถ้ำจนทลายลงมาเกิดเป็ดภูเขาและไม่เห็นปากถ้ำอีกเลยและปัจจุบันกลายเป็นภูเขาชื่อ “เขาทับควาย” ซึ่งบริเวณใกล้กันจะเป็นที่ตั้งของวัดเขาทับควาย
จากบทความ : www.faiththaistory.com/lopburi-legend-1
วิหารหลวงปู่บุญมี จันทโชโต
สิ่งปลูกสร้างภายในวัด มีไม่มากนัก แต่ที่เป็นจุดเด่น เห็นได้ชัดคือ วิหารหลวงปู่บุญมี จันทโชโต จากคำบอกเล่าของพระสงฆ์ในวัดท่านบอกว่า หลวงปู่บุญมีเป็นผู้ริเริ่มสร้างวัดแห่งนี้ เป็นเกจิอาจารย์ แต่ประวัติเรื่องราวท่านไม่ทราบ
เข้าไปกราบรูปหล่อหลวงปู่บุญมี
ภายในวิหารหลวงปู่บุญมี
รูปหล่อหลวงปู่บุญมี จันทโชโต
หลังจากกราบรูปหล่อหลวงปู่บุญมีเรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินไปยังศาลาในวัด เพื่อขึ้นไปดูภาพเขียน เรื่องราวตำนานของเขาทับควายบนศาลา ซึ่งเป็นภาพเขียนเรื่องราวการต่อสู้ของควายพรพีและทรพา รวมถึงการต่อสู้ระหว่างพาลีและควายทรพี ที่เป็นไปตามตำนานเขาทับควายดังรายละเอียดข้างต้นนั่นเอง
พระอุโบสถอยู่ในระหว่างการบูรณะ
หลังจากใช้เวลาอยู่ภายในวัดไม่นาน กลุ่มนักเดินทางก็เดินทางไปต่อยังเขาทับควาย เพื่อไปสัมผัสพื้นที่ตำนานเรื่องเล่านี้
สภาพหินแร่ที่เขาทับควาย
เราขับรถออกมาจากวัดเขาทับควาย ไปยังเขาทับควายซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างไกลกันนัก พบกับสภาพพื้นที่ที่มีหินมีลักษณะสีแดงเข้มจากแร่เหล็ก ที่เป็นไปตามตำนานเรื่องเล่าว่าเป็นสีเลือดของควายทรพี หลังจากที่ถูกพาลีฆ่าตาย
ทีมนักเดินทางออกเดินดูพื้นที่
พื้นที่จะมีลักษณะเป็นภูเขาเล็กๆ กระจายไปด้วยหินแร่ มีร่องรอยการขุดแร่ เป็นหลุม กระจายโดยทั่วไป
สภาพพื้นที่ มีการขุดแร่
สภาพหินแร่
บรรยากาศค่อนข้างร้อน แต่กลุ่มของเราก็ยังมีความสุขกับการเดินทาง คอยหาร่มเงาเล็กๆ หลบแสงแดดแล้วสนทนากัน เล่าเรื่องราวอย่างสนุกสนาน
น้องอีกคนเดินขึ้นไปแล้วแอบบถ่ายรูปมาให้
การได้เดินทางมาสัมผัสพื้นที่จริงตามตำนาน ก็รู้สึกได้อรรถรสกันพอสมควร มากกว่าการอ่านเพียงหนังสือที่เขียนกันไว้ แม้จะร้อนจากแสงแดดในฤดูแล้ง ก็ไม่ทำให้กลุ่มเราหยุดความตั้งใจ ซึ่งก็มีความตั้งใจจะพยายามเดินทางตามรอยตำนานลพบุรีให้ครบทุกจุด เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลให้ผู้ที่สนใจ กลับมาค้นหาและเรียนรู้กันได้
ผมและกลุ่มใช้เวลาที่นี่ไม่นานนักเพราะอากาศร้อนซะจริงๆ เดินลุยแสงแดดจนไม่รู้จะดำไปถึงไหนกันแล้วหล่ะครับ สำหรับเรื่องราวการตามรอยตำนานเขาทับควาย ผมก็ขอจบบทความไว้เพียงเท่านี้ แล้วพบกับบทความต่อไปของผม ในการตามรอยตำนานลพบุรี ซึ่งก็มีอีกหลายวัดที่เราจะตามไปเก็บภาพบรรยากาศมาฝาก
ขอบคุณการติดตามนะครับ แล้วพบกันใหม่… สวัสดี…
ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง
ภารกิจเที่ยววัด ตามรอยตำนานลพบุรี ครั้งที่ 1
ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
ร่วมแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยววัดด้วยกัน ได้ที่ กลุ่มรวมพลคนชอบเที่ยววัด
