สระสี่เหลี่ยม สระให้น้ำไก่ของพระรถ ในตำนานพระรถเมรีและนางสิบสอง ที่อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี… สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปตามรอยตำนาน ซึ่งเป็นสถานที่ ที่สันนิษฐานว่าเป็นเมืองโบราณมาก่อนนับพันปี และมีตำนานเกี่ยวกับ พระรถ ในวรรณคดีพระรถเมรีอีกด้วย
นอกจากในตำนานพระรถแล้ว ยังมีตำนานเล่าขานว่าเป็นดินแดนลับแล สถานที่นี้คือ โบราณสถานสระสี่เหลี่ยม ที่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี
ตำนานสระสี่เหลี่ยม
โบราณสถานสระสี่เหลี่ยม กรมศิลปากรได้มาสำรวจและขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อปี พ.ศ. 2474 ตัวสระเป็นศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาด 5×5 วา ลึก 2 วาเศษ ได้ขุดตัดหินเป็นหน้าเรียบลึกลงไปเป็นแนวดิ่ง ได้มุมฉากทั้งสี่ด้าน คล้ายกับเครื่องจักรตัด ทางด้านทิศตะวันตกมีบันไดหินลงไป 12 ขั้น
ปี พ.ศ. 2512 กรมชลประทานได้ขุดคลองจากท่าลาด อ.พนมสารคาม บันไดบางส่วนจึงถูกดินถม ทางราชการได้ตั้งชื่อของตำบลนี้ตามลักษณะของรูปสระว่า ตำบลสระสี่เหลี่ยม อำเภอพนัสนิคม จ.ชลบุรี
ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไม่ปรากฏว่าผู้ใดขุดสระนี้ไว้ แต่มีตำนานว่าพระรถได้ขุดสระนี้เพื่อให้น้ำไก่ และไปพนันตีไก่กับพระเจ้าอู่ทองอู่ไท ที่ ต.ดงน้อย จ.ปราจีนบุรี โดยพนันเอาบ้านเอาเมืองกัน จึงสันนิษฐานว่า สระนี้ขุดพร้อมกับเมืองพระรถ อยู่ที่ตำบลหน้าพระธาตุ ในสมัยทราวดี ราวพุทธศตวรรษที่ 13-17
จึงสันนิษฐานว่าสถานที่นี้เป็นชุมชนแห่งหนึ่งในสมัยนั้น ต่อมาอาจอพยพย้ายถิ่นฐาน จึงกลายเป็นบ้านเมืองร้างไป หลักฐานทางประวัติศาสตร์ปี พ.ศ. 2372 ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ มีผู้คนจากบ้านหน้าพระธาตุ อพยพมาตั้งบ้านเรือนอาศัยทำมาหากินที่สระสี่เหลี่ยมนี้กับคนจีนอีกพวกหนึ่งได้ตั้งบ้านเรือนกระจัดกระจายกันอยู่ คนจีนได้ยึดเอาบริเวณสระสร้างห้องแถวเป็นที่อยู่อาศัยและขายของกินของใช้ต่าง ๆ ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า เนินตลาด หรือเดินตลาด
ยังมีหลักฐานทางภูมิศาสตร์ให้เห็นแนวทางเดินของคนโบราณจากบริเวณตำบลหน้าพระธาตุมาถึงสระสี่เหลี่ยมและมีคลองจากหน้าพระธาตุมาบ้านหลวงถึงหัวถนน จากหัวถนนมีถนนดินเป็นแนวมาถึงสระสี่เหลี่ยมเลยไปยัง อ.พนมสารคาม อ.สนามไชยเขต จ.ฉะเชิงเทรา และ อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นเมืองโบราณสมัยทราวดีเช่นเดียวกับเมืองพระรถใน อ.พนัสนิคม
ดังที่ได้กล่าวไว้ ชาวบ้านย่านนี้เชื่อว่าในสมัยก่อน สระแห่งนี้ เป็นสถานที่ให้น้ำไก่ของพระรถเสนเมื่อครั้งเป็นเด็กวัยรุ่นออกมาตีไก่กับชาวบ้านเพื่อ พนันเอาข้าวห่อไปเลี้ยงแม่และป้า ชาวบ้านจึงเรียกว่า “สระพระรถ” ริมสระด้านทิศตะวันออกหรือทางขวาของสระ มีรูปปั้น “พระรถอุ้มไก่”ที่หล่อด้วยโลหะ และชาวบ้านตำบลนี้ยังจัดให้มีการฉลองเป็นเทศกาลงานประจำพื้นบ้านในทุกๆปี…
ชาวบ้านบางคนจึงเชื่อว่าเป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ เวลามาพนันชนไก่ จึงเอาน้ำในสระนี้ไปให้น้ำไก่เพื่อเป็นเคล็ด
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเล่าตำนานจากผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า เมื่อครั้งที่สระน้ำโบราณนี้ ยังเป็นป่าดง ในช่วงดึก ของคืนแปดค่ำและ สิบห้าค่ำ จะได้ยินเสียงควบม้า ไปตามทางเกวียนข้างสระ และอาจจะเห็นแสงไฟดวงใหญ่ ลอยขึ้นจากสระ แล้วหายลับไป เหมือนผีพุ่งไต้อีกด้วย จึงเล่าขานว่าถิ่นนี้เป็นเมืองลับแล….
แม้ว่าสถานที่แห่งนี้ ไม่พบหลักฐานการบันทึกทางประวัติศาสตร์ แต่ก็มีเรื่องราวตำนานเล่าขานที่น่าสนใจ ทำให้เห็นถึงวัฒนธรรมความเชื่อท้องถิ่นที่มีมายาวนาน อีกทั้งแถบนี้ มีความเชื่อมโยงของเมืองโบราณอีกหลายแห่ง เป็นความสวยงามทางวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การศึกษา
ขอขอบพระคุณการติดตามแล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไปครับ…
ช่องทางการติดตามเรื่องราว
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจภารกิจเที่ยววัด ได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel FaithThaiStory ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
แบ่งปันเรื่องราวการท่องเที่ยววัดที่กลุ่ม รวมพลคนชอบเที่ยววัด
เว็บไซต์หลัก ที่ www.faiththaistory.com