Category Archives: รอยพระพุทธบาท

ตำนานรอยพระพุทธบาท เขาวงพระจันทร์ ลพบุรี

  บนยอดเขาวงพระจันทร์ จะมีรอยพระพุทธบาทประดิษฐานไว้ ซึ่งผู้คนส่วนมากจะไม่ทราบประวัติของรอยพระพุทธบาทนี้ ผมจึงขอยกคำปรารภของ พระมงคลภาวนาวิกรม (หลวงพ่อฟัก ภัททจารี) เจ้าอาวาสวัดเขาวงพระจันทร์ ดังนี้ ยอดเขาวงพระจันทร์ มีรอยพระพุทธบาทอยู่บนยอดเขา สำหรับเป็นที่กราบไหว้สักการะ และระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าของชาวพุทธโดยทั่วไป แต่ส่วนมากยังไม่มีใครรู้ว่ารอยพระพุทธบาทนี้จริงหรือไม่ เพราะไม่มีประวัติหลักฐานที่แน่ชัด เนื่องจากสาเหตุนี้ อาตมาจะขอชี้แจงให้ได้รู้และเข้าใจ และทราบประวัติรอยพระพุทธบาทนี้มีความเป็นมาอย่างไร เมื่อปี พ.ศ. 2496 มีพระคุณเจ้ารูปหนึ่ง (โดยส่วนตัวผมคิดว่า ท่านหมายถึงหลวงปู่โอภาสี) ได้ขึ้นมาบนยอดเขานี้ และมีลูกศิษย์ติดตามมาหลายคน อาตมาเห็นท่านก็ได้เดินติดตามมาด้วย เมื่อถึงบนยอดเขา ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันเป็นกลุ่มๆ และก็ได้เข้ามากราบพระคุณเจ้ารูปนั้นจนเป็นกลุ่มที่ใหญ่ขึ้นและมีการสนทนาธรรมจนถึงเวลาประมาณสี่ทุ่ม ลูกศิษย์ของท่านจึงได้บอกกล่าวให้ญาติโยมไปพักผ่อน  อาตมาก็ได้ทำการลาเช่นกัน แต่ท่านกล่าวว่า “จะไปไหน ไม่ต้องไป วันนี้มีธุระที่จะคุยด้วย”  และท่านก็ได้เริ่มพูดว่า เขานางพระจันทร์นี่นะ สูง ยากที่จะมีคนธรรมดาขึ้นมาได้ ต้องเป็นคนที่มีมานะอดทนและมีความศรัทธาจริงๆ จึงจะขึ้นมาได้ และท่านก็ได้เริ่มกล่าวความเป็นมาของรอยพระพุทธบาทนี้ให้ฟังดังนี้ เมื่อสมัยพุทธกาลมีพ่อค้าคนหนึ่งชอบเดินทางค้าขายไปในต่างแดนโดยใช้เรือในการขนส่ง เพราะจะได้ขนของได้ทีละมากๆ ครั้งหนึ่งได้ออกเรือเดินทางแต่เกิดหลงทิศทางจนไปพบกับเกาะแห่งหนึ่ง จึงได้ขึ้นไปบนเกาะแห่งนั้น และได้พบว่ามีต้นไม้จันทน์หอมเต็มไปหมด และได้คิดว่า ไม้จันทน์หอมนี้มีราคาแพงสูงกว่าสินค้าของตนเอง เมื่อคิดเช่นนั้นจึงได้ขนสินค้าลงจากเรือทั้งหมด และได้ตัดไม้จันทน์หอมขึ้นเต็มลำเรือ เพื่อนำกลับไปขายยังบ้านของตน เป็นเหตุให้ภูติผีปีศาจบนเกาะแห่งนั้นพากันโกรธไม่พอใจที่มาตัดไม้จันทน์หอมบนเกาะ ตามอำเภอใจ จึงพากันสำแดงฤทธิ์เดชให้เกิดพายุลมฝนรุนแรง เพื่อจะทำให้เรือล่ม เมื่อได้พบเหตุการณ์เช่นนี้ ฝ่ายพ่อค้าก็ตกใจกลัวอย่างมาก และนึกขึ้นได้ว่า พี่ชายของตนเองบวชเป็นพระในพระพุทธศาสนา  จึงได้พนมมืออธิษฐานถึงพี่ชายว่า การเดินทางครั้งนี้ได้เกิดเหตุร้ายแรงอย่างมาก ขอบารมีหลวงพี่ช่วยทำให้กระผมรอดปลอดภัยจากเหตุร้ายนี้ด้วยเถิด และได้ให้สัจจะไว้ว่า ถ้ารอดจากเหตุการณ์เลวร้ายนี้ไปได้ จะขอถวายสิ่งของทุกสิ่งที่หลวงพี่ต้องการ พี่ชายได้ทราบเรื่อง และรู้เรื่องราวทั้งหมดว่าเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของน้องชายตน… Read More »

เที่ยวทำบุญ วัดพระพุทธบาท สระบุรี

วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ไม่ห่างไกลจากตัวเมืองสระบุรีมากนัก ตามพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยากล่าวว่า มีพระภิกษุไทยคณะหนึ่ง เดินทางไปยังลังกาทวีป เพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาท พระสงฆ์ลังกากล่าวว่า ประเทศไทยก็มีรอยพระพุทธบาทอยู่แล้วที่เขาสุวรรณบรรพต จึงได้นำความกราบทูลสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมให้ทรงทราบ และได้สืบหาจนพบรอยพระพุทธบาท เพื่อเป็นที่สักการบูชา เป็นศูนย์รวมแห่งพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ พระพุทธบาทสระบุรีเป็นพระอารามหลวง ที่พระมหากษัตริย์แทบทุกพระองค์ทรงทำนุบำรุงและเสด็จไปนมัสการตลอดมา ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงรัตนโกสินทร์ ประวัติความเป็นมา ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม แผ่นดินกรุงศรีอยุธยา ปรากฏว่า มีพระภิกษุสงฆ์ชาวไทยคณะหนึ่ง เดินทางไปยังลังกาทวีป ด้วยหวังจะสักการะบูชารอยพระพุทธบาท ณ เขาสุมนกูฏ การไปคราวนั้นเป็นเวลาที่พระสงฆ์ชาวลังกาทวีปกำลังทำการสอบประวัติ และหาที่ตั้งแห่งรอยพระพุทธบาททั้งปวง ซึ่งตามที่ปรากฏอยู่ในตำนานว่ามีเพียง 5 แห่ง ภายหลังสืบได้ความว่า ภูเขาที่ชื่อว่า สุวรรณบรรพต ตั้งอยู่ที่ประเทศไทย ดังนั้นแล้วเมื่อได้พบกับพระภิกษุสงฆ์ชาวไทยในครั้งนั้น ต่างพากันสอบถามว่ารอยพระพุทธบาท ที่มีอยู่ 5 แห่ง ในสถานที่ต่างๆ กันนั้น ปรากฏว่ามีที่เขาสุวรรณบรรพตแห่ง 1 ก็ภูเขาลูกนี้อยู่ในประเทศไทย แต่ภิกษุไทยไม่พยายามสืบไปนมัสการ กลับพากันไปถึงลังกาทวีป เมื่อพระภิกษุสงฆ์ไทยคณะนั้นได้รับคำบอกเล่าดังกล่าว เมื่อกลับมาสู่ประเทศไทย จึงนำความขึ้นถวายสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้มีท้องตราสั่งบรรดาหัวเมืองทั้งหลาย ให้เที่ยวตรวจตราค้นดูตามภูเขาต่างๆ ว่าจะมีรอยพระพุทธบาทอยู่ ณ ที่แห่งใด ครั้งนั้น เจ้าเมืองสระบุรี สืบได้ความจากนายพรานบุญว่า ครั้งหนึ่งได้ออกไปล่าสัตว์ในป่าใกล้เชิงเขา ยิงถูกกวางตัวหนึ่งได้รับบาดเจ็บหนีขึ้นไปบนไหล่เขา ซุกเข้าเชิงไม้หายไป แล้วสักพักก็เห็นกวางตัวดังกล่าว วิ่งออกจากเชิงไม้โดยไม่มีลักษณะอาการบาดเจ็บ นายพรานบุญนึกประหลาดใจ จึงตามขึ้นไปดูสถานที่บนไหล่เขาที่กวางได้หนีขึ้นไป ก็พบรอยปรากฏอยู่ในศิลา มีลักษณะเหมือนรูป รอยเท้าคน… Read More »

ตำนานพระพุทธฉาย วัดพระพุทธฉาย สระบุรี

วัดพระพุทธฉาย สระบุรี ตั้งอยู่เชิงเขาปถวี (ปฐวี) ตำบลหนองปลาไหล เข้าทางเดียวกับอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธฉาย หรือ เงาพระพุทธเจ้า อยู่บนแผ่นหินซึ่งตั้งอยู่บนชะง่อนผา มีการสร้างมณฑปครอบไว้ มีลักษณะเป็นเงาสีแดงคล้ายประภามณฑล หรือรัศมีโดยรอบพระพุทธรูป คล้ายสีดินเทศ มีความสูงประมาณ 5 เมตร ค้นพบสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ซึ่งค้นพบพร้อมกับรอยพระพุทธบาทที่สระบุรี ทุกปีจะมีงานนมัสการพระพุทธฉายพร้อมกับงานนมัสการรอยพระพุทธบาทที่จังหวัดสระบุรี มีบันไดจากบริเวณวัดด้านล่างขึ้นไปยังมณฑป และต่อไปยังหน้าผาซึ่งอยู่เหนือมณฑปขึ้นไป บริเวณเชิงผามีภาพเขียนลายเส้นยุคก่อนประวัติศาสตร์ ได้แก่ ภาพสัตว์ลายเส้นคล้ายตัวกวาง บริเวณข้างประตูเข้าพระพุทธฉาย พบภาพมือคน และภาพสัญลักษณ์ บริเวณจากถ้ำฤาษีไปทางพระพุทธฉายทางทิศตะวันตก พบภาพเขียนรูปไก่ ภาพพระพุทธรูป และภาพสัญลักษณ์ และบริเวณหน้าผา จปร. พบภาพลายเส้นขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อน คล้ายภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์ที่เคยถูกค้นพบที่ผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี เขียนด้วยยางไม้มีอายุเก่าแก่ประมาณ 3,000 ปี โดยเขียนสัญลักษณ์ใช้สื่อความหมายให้เข้าใจในหมู่เดียวกัน และอาจจะเป็นสื่อทางพิธีกรรม และความเชื่อของคนในยุคนั้น ในบริเวณใกล้เคียงมีมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทเบื้องขวา และมีต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่อัญเชิญมาจากลังกา เมื่อ พ.ศ. 2492 และเมื่อ พ.ศ. 2537 กรมศิลปากรได้ทำการซ่อมมณฑปบนภูเขาบริเวณวัดพระพุทธฉาย และเมื่อรื้อพื้นซีเมนต์พบรอยพระพุทธบาทเบื้องขวาอยู่ใต้ทรายปรากฏเห็นเป็นรูปรอยประทับในหิน ตำนานแห่งพระพุทธฉาย ในสมัยพุทธกาล เมื่อพระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่พระวิหารบุพพารามในนครสาวัตถี ได้ประทานอุปสมบทให้แก่พระบิณโฑละฯ ให้เป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา แล้วได้มอบให้พระโมคคัลลานะ พาไปปฏิบัติสมณธรรมจนกว่าจะได้สำเร็จมรรคผล พระโมคคัลลานะได้นำพาไปปฏิบัติสมณธรรมทั่วชมพูทวีปหรือประเทศอินเดียในปัจจุบัน หลายแห่งก็ไม่สามารถบรรลุมรรคผล จึงได้มาปฏิบัติสมณธรรมในปัจจันตชนบทโดยกำหนดเอาประเทศสุวรรณภูมิ หรือประเทศไทย ณ ภูเขาฆาฏกะ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของนายพรานฆาฏกะกับบริวาร จึงได้สำเร็จมรรคผลเป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา ในระหว่างที่มาปฏิบัติสมณธรรมอยู่นั้น… Read More »

แสวงบุญเขาคิชฌกูฏ จันทบุรี

แสวงบุญเขาคิชฌกูฏ ไหว้พระทำบุญเขาคิชฌกูฏ คำนี้ มักจะได้ยินจนคุ้นหูสำหรับคนไทยในทุกๆต้นปียาวไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคมโดยประมาณ จะเป็นช่วงที่คนไทยหลายคนไทยมุ่งมั่นที่จะเดินทางไปแสวงบุญที่เขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี เนื่องจากมีความลำบากที่จะต้องเดินทางไปนมัสการ และมีช่วงเวลาจำกัดโดยประมาณ 2 เดือน ทำให้ผู้คนเชื่อและศรัทธาว่า ถ้าได้เดินทางไปแสวงบุญและกราบพระพุทธบาทหลวงบนเขาคิชฌกูฏแล้วจะได้ผลบุญจากอานิสงส์การบูชารอยพระพุทธบาทอย่างมาก เขาคิชฌกูฏ ได้ตั้งชื่อตาม เขาคิชฌกูฏ ที่ในสมัยพุทธกาลซึ่งเป็นที่ตั้งพระคันธกุฎี (กุฏิ)ของพระพุทธเจ้า ตั้งอยู่ที่กรุงราชคฤห์ แคว้นมคธเป็นยอดเขาที่มีแนวเขาล้อมโดยรอบ และบนยอดเขามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวกับพระพุทธองค์ คือ รอยพระพุทธบาท และหินลูกบาตร ที่ตั้งข้างกับรอยพระพุทธบาท อยู่ในลักษณะคล้ายลอยอยู่ริมลานพระพุทธบาทฝั่งตรงข้ามหินลูกบาตรมีรอยพระหัตถ์ไปรับหินก้อนนี้ และในหินก้อนนี้ ตรงข้ามกันมีรอยพระพุทธหัตถ์เบื้องซ้าย มีรูปรอยเท้าใหญ่ (รอยเท้าพญามาร) ใต้พระบาทมีถ้ำตาฤาษี พระครูธรรมสรคุณ (หลวงพ่อเขียน) วัดกะทิง อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี  ท่านมีชื่อและโดดเด่นทางด้านจิตตภาวนา สามารถเดินเท้าขึ้นเขาคิชฌกูฏได้อย่างคล่องแคล่ว ชำนาญ นอกจากนี้ท่านยังเป็นผู้บุกเบิกตำนานการจัดงานนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง บนเขาคิชฌกูฏ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ท่านได้กล่าวสอนไว้ว่า “พระบาทของพระพุทธองค์ แม้ประดิษฐานอยู่แห่งหนตำบลใดก็ตาม ถ้าเรามีความเชื่อมั่นศรัทธา เคารพกราบไหว้ด้วยใจเคารพและศรัทธาจริงแล้ว ผลแห่งการอธิษฐานย่อมเกิดผลสำเร็จแก่ผู้นั้นทุกคนและเป็รสิริมงคลแก่ผู้นั้นตลอดไป”  ความศรัทธาและเคารพในพระพุทธองค์นั้น เป็นผลบุญที่สุดจะประมาณ เพราะพระองค์เป้นที่เคารพของหมู่มวลมนุษย์ เทวดา พรหม ทั่วทุกภพจักรวาล   เราต้องตั้งจิตอธิษฐานให้ดี ปรารถนาสิ่งใดที่ดีที่ชอบขอได้ตามความพอใจ กลับไปจะมีแต่ความปลอดภัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายและเทพยดาที่รักษารอยพระพุทธบาทแห่งนี้ จะอำนวยอวยพรให้ท่านได้รับแต่ความสุขสมบูรณ์พูลผล ร่มเย็นเป็นสุขตลอดไป ยอด “เขาคิชฌกูฏ” ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ต.พลวง กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี “เขาคิชฌกูฏ” เป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาทที่อยู่สูงที่สุดในประเทศไทย สูงกว่า 1,050… Read More »