Faiththaistory.com

ภารกิจเที่ยววัด สำรวจวัดร้างอยุธยา Episode 1


https://youtu.be/jKBZJ8t2VMI

สวัสดีครับเพื่อนๆ กลับมาอีกครั้งกับบทความภารกิจการท่องเที่ยววัดในรูปแบบของผม…บ่อยครั้งที่ผมมักจะเดินทางท่องเที่ยวไปยังวัดต่างๆเพียงคนเดียว แต่ครั้งนี้พิเศษกว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมาเพราะมีเพื่อนร่วมเดินทางอีกหลายคน

ครั้งนี้เป็นการรวมตัวที่พิเศษสุดครั้งแรกของผม เป็นการรวมตัวที่เกิดจากความชอบ ความสนใจในเรื่องคล้ายๆกัน ของกลุ่มนักเดินทางที่มีใจอนุรักษ์โบราณสถานและโบราณวัตถุ จึงมีมติว่าจะเดินทางไปยังวัดร้างในอยุธยา… โดยเริ่มจากมีการขอเป็นเพื่อนผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คของ Facebook และเริ่มมีการพูดคุยแบ่งปันเรื่องราวกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งได้นัดและชักชวนกันออกเดินทางท่องเที่ยวในโปรแกรมวันนี้ จึงขอตั้งชื่อภารกิจครั้งนี้ว่า “สำรวจวัดร้างอยุธยา Episode 1” เนื่องจากว่า ต้องมีการนัดแนะในการเดินทางตอนต่อๆไปอย่างแน่นอน

ทีมนักเดินทางและนัดพบ

ทีมนักเดินทางมีทั้งสิ้น 5 คน ซึ่งแต่ละคนก็มีพื้นฐานที่แตกต่างกัน แต่ก็มีความชอบคล้ายๆกัน มีความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์มากบ้างน้อยบ้าง ก็ไม่มีปัญหา ขอให้ใจรักเหมือนกันก็ไปกันรอดครับ และสิ่งที่สำคัญของนักเดินทางและท่องเที่ยวคือจรรยาบรรณอุดมการณ์ที่ดี โดยเฉพาะการเดินทางไปยังวัดร้าง อาจจะมีการพบวัตถุโบราณต่างๆ ซึ่งเป็นสมบัติของชาติและส่วนตัวผมเองนั้นถือว่าเป็นของสงฆ์ทั้งสิ้น ผมจึงไม่เสี่ยงที่จะนำกลับมาเป็นทรัพย์สินส่วนตัวโดยเด็ดขาด… และกลุ่มนักเดินทางในวันนี้ก็คิดเช่นเดียวกัน

ทีมเดินทาง 5 คน ถ่ายรูปกันที่วัดใบสอ (ร้าง) อยุธยา

ขอแนะนำทีมนักเดินทางก่อนเลยนะครับ โดยขอเริ่มจากด้านซ้ายก่อนดังนี้

  1. นนท์ (ซ้ายสุด) อาชีพปัจจุบัน เป็นพนักงานฝ่ายวิศวกรรม บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดสิงห์บุรี มีความสนใจและรักการท่องเที่ยวตามโบราณสถานต่างๆ ปัจจุบันเป็นแอดมินเพจ “ตามรอยวัดเก่า ลุ่มน้ำลพบุรี”

2. เต้ ผู้อาสาในการขับรถตลอดโปรแกรมในทริปนี้

3. เมท (หน้าเต้) อดีตนักร้องกรมประชาสัมพันธ์  ต้องบอกว่าถ้าไม่มีเมท คงไปกันไม่ได้แน่นอน ต้องยอมรับว่าเชี่ยวชาญการเดินทางจริงๆ

4. ตั้ม (ผู้เขียนเองครับ) อาชีพปัจจุบันเป็นพนักงานฝ่ายวางแผนการผลิตบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา … มีความสนใจและรักการเดินทางท่องเที่ยวไปยังวัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป

ปัจจุบันเป็นแอดมินเพจ “ภารกิจเที่ยววัด FaithThaistory” และกลุ่ม “รวมพลคนชอบเที่ยววัด”  เป็นเว็บมาสเตอร์ของ www.faiththaistory.com

5. ต้น (ขวาสุด) อาชีพปัจจุบันเป็นพนักงานฝ่ายบุคคลบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีใจรักการท่องเที่ยววัดเช่นกัน

ครั้งนี้ เป็นการพบกันครั้งแรกของผมกับ นนท์, เมท และเต้ จากการนัดหมายกันล่วงหน้า 1 สัปดาห์ … ซึ่งตรงกับวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เป็นช่วงปลายฝน และฝนก็มีแนวโน้มจะตกลงมาได้ทุกเมื่อ…ผมก็ภาวนาว่าอย่าได้ตกลงมาในวันเดินทางเลย…

จุดนัดหมายของเรานัดกันเวลา 07.00 น. ที่วัดหน้าพระเมรุ โดยจะจอดรถไว้ที่นี่ และเดินทางไปกันคันเดียว… เรานัดพบกันตรงเวลาเป๊ะเลยครับ ก็ได้เริ่มวางแผนการเดินทางกันทันที

จุดที่จะเดินทางในเบื้องต้น

สามารถดาวน์โหลดแผนที่ได้ที่ >> www.faiththaistory.com/map_ayutthaya

เราวางแผนการเดินทางในโซนคลองสระบัวเป็นหลัก … จากนั้นเราก็ลุยกันที่วัดแร้งกันก่อน ตามโปรแกรมครั้งนี้ต้องขอบอกว่ามีมากกว่า 10 วัด อย่างแน่นอน ซึ่งบทความนี้ผมจะเขียนขึ้นเบื้องต้น เพื่อนำเข้าสู่บทความแต่ละวัดในภายหลัง ทั้งนี้ด้วยเหตุผลบางประการผมจะไม่แจ้งพิกัด บางวัดผมก็จะไม่เขียนบทความหรือลงรายละเอียดใดๆ จะเผยแพร่ส่วนที่พอจะเผยแพร่ได้เท่านั้น เพราะต่างคนต่างจิตใจ เดี๋ยวจะเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพไปอีก…

โปรแกรมการเดินทางสำรวจครั้งนี้มีดังนี้

  1. วัดแร้ง (ร้าง)
  2. วัดใบสอ (ร้าง)
  3. วัดผีเสื้อ (ร้าง)
  4. วัดครุฑธาราม
  5. วัดโพธิ์ลังกา (สาบสูญ)
  6. วัดมงกุฏ (ร้าง)
  7. วัดสี่เหลี่ยม (ร้าง)
  8. วัดช่องลม (ร้าง)
  9. วัดกงจักร (ร้าง)
  10. วัดป่าพลู (ร้าง)
  11. วัดพระยาพาน (ร้าง)
  12. วัดมหาทลาย (ร้าง)
  13. วัดศาลาปูน
  14. วัดตามุก (ร้าง)
  15. วัดโคกพระนอน (ร้าง)

ทั้งนี้ยังไม่รวมวัดย่อยๆ ที่เราเดินทางแวะผ่าน อีกมากมาย… ทั้งนี้ผมจะค่อยๆเขียนบทความการเดินทางในวัดต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น และจะติดลิ้งค์ไว้ให้ภายหลังเมื่อบทความเขียนเสร็จ เพราะต้องใช้เวลารวบรวมข้อมูลและภาพถ่ายนานพอสมควร… ยังไงก็ขอให้ติดตามอ่านกันด้วยนะครับ

รวมบรรยากาศการเดินทางสำรวจวัดร้าง

บทความนี้จะเขียนไว้เพียงเรื่องราวการเดินทางโดยรวมและความประทับใจเป็นหลักนะครับ เพราะเดินทางไปหลายวัดเหลือเกิน ถ้าจะเขียนไว้ในบทความนี้ทีเดียวก็คงไม่ไหว เพราะมันเยอะจัด

สิ่งสำคัญในการเดินทางคือการแต่งกาย จะต้องมิดชิดนะครับ… ผมเดินทางมาครั้งนี้รู้ซึ้งเลยครับ ถ้าเตรียมตัวไม่ดีหรือประมาท อาจจะต้องเจ็บตัวหรือเสียทรัพย์สินโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วผมจะเล่าให้ฟังต่อไปครับ

เตรียมลุย แต่งกายมิดชิดป้องกันสัตว์เลื้อยคลาน

เนื่องจากการเดินทางครั้งนี้ เป็นช่วงฤดูฝน ทำให้บางจุดมีน้ำขัง อีกทั้งยังเป็นป่ารกที่อาจจะมีสัตว์เลื้อยคลานทำอันตรายได้ จึงต้องเตรียมรองเท้าบู้ท ซึ่งร้องเท้าทั้งหมดนี้ ได้ยืมจากชาวบ้านในละแวกนั้นครับ… ดีใจมากๆ ที่ชาวบ้านให้ความไว้วางใจพาเดินทางเข้าสำรวจและช่วยเหลือเป็นอย่างดี

บ้านชาวบ้านแถววัดผีเสื้อ

ต้องบอกว่าไปแต่ละจุด จะได้รับการช่วยเหลือจากชาวบ้านเป็นอย่างดี …

เรือนอาคารร้างด้านหน้าทางเข้าโคกวัดแร้ง

โคกวัดแร้ง

โคกวัดแร้ง เป็นจุดที่เดินทางมาถึงเป็นวัดแรก … บรรยากาศต้องบอกว่า น่ากลัวพิลึก ทางเข้ามีบ้านอาคารร้างที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ ส่วนบนโคกวัดเดิมนั้น เคยมีการปลูกสร้างบ้านเรือน แต่ก็ต้องถอนการปลูกสร้างออกไป ด้วยสาเหตุบางประการ จะเห็นเพียงเสาปูนที่ยังตั้งอยู่ไม่กี่เสา… ทำให้บรเวณนี้รกร้างพอสมควร … ด้านบนจะมีการสร้างศาลท้าวศรีสุดาจันทร์ไว้ด้วยครับ…

ศาลท้าวศรีสุดาจันทร์ ที่โคกวัดแร้ง

จากนั้นก็เดินทางไปต่อที่วัดใบสอ ซึ่งพี่ชาวบ้านให้การดูแลคอยถางป่าให้

บริเวณวัดใบสอ

พระเจดีย์วัดใบสอ

ต้องบอกว่าถ้าไม่ได้พี่เจ้าของบ้านทางเข้าวัดใบสอ ก็คงจะเข้ามาไม่ได้ เพราะมีสุนัขพันธุ์ร็อตไวเรอร์เลี้ยงไว้ถึง 2 ตัว… คอยเห่าไล่พวกผม ดูแล้วน่ากลัวมาก… พี่เขาก็ช่วยนำไปขังกรงและพาเดินทางเข้ามายังพื้นที่วัดใบสอแห่งนี้

ผนังกำแพงโบสถ์ที่ยังหลงเหลือที่วัดใบสอ

ลุงพาเข้ามาวัดผีเสื้อ

เศษซากพระเจดีย์ วัดผีเสื้อ

ลุยป่าในบริเวณวัดผีเสื้อ

เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน ทำให้การเดินทางอาจจะไม่ราบรื่นเท่าไรนัก แต่ก็ยังดีที่ฝนไม่เทลงมาอีกในวันเดินทาง จากนั้นเราก็ไปลุยกันต่อที่วัดครุฑ ซึ่งเป็นวัดที่มีพระจำพรรษาปกติครับ มีความสวยงามของพระอุโบสถ

วัดครุฑธาราม

วัดสี่เหลี่ยม

วัดมงกุฏ

ต้องบอกว่าไปแต่ละสถานที่ได้ต้องศึกษาข้อมูลแบบสุดๆไปเลยหล่ะครับ และต้องกล้าที่จะเข้าไปสอบถามชาวบ้านด้วย มิฉะนั้นแล้วยากนักที่จะเข้าไปถึงจุดของวัดร้างต่างๆนี้

เจดีย์วัดมงกุฏ มองเห็นทะลุโผล่เหนือต้นไม้ ต้องเดินมุดเข้าไปครับ ณ จุดนี้ผมต้องเสียรองเท้าไป 1 คู่ เพราะขาดกระจายเลยหล่ะครับ ประมาณว่าเดินลุยมากไปนิด และคงถึงอายุขัยของมันแล้วหล่ะ…

ดูแผนที่ ณ พื้นที่วัดโพธิลังกา

วัดโพธิ์ลังกา เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลที่ไม่เห็นซากของโบราณสถานแล้วครับ แต่ยังมองเห็นซากอิฐโบราณกระจายโดยทั่วไป… พื้นที่ตรงนี้ต้องขออนุญาตเจ้าของที่ดินเข้ามาด้วยนะครับ

แวะพักดื่มกาแฟ

เมื่อเดินทางเหนื่อยมาพอสมควร ก็แวะพักดื่มกาแฟกันสักเล็กน้อย ที่ร้านชาพะยอม… จากนั้นก็ลุยไปต่อที่วัดช่องลม เลยครับ อยู่แถวๆโซนวัดภูเขาทอง

ณ วัดช่องลม

ณ วัดช่องลม …กว่าจะหาทางเข้าไปได้ ก็ไล่สอบถามผู้ใหญ่บ้านกันเลยทีเดียวครับ … จุดนี้สวยงามมากครับ เดินไปก็จะถึงริมแม่น้ำเจ้าพระยา และมีเศษซากพระพุทธรูปอยู่ด้วย

ณ วัดกงจักร โซนวัดภูเขาทอง

วัดป่าพลู

ณ วัดป่าพลู จะอยู่โซนวัดภูเขาทองเช่นกัน แต่ก็ไม่เห็นซากโบราณสถานแล้ว … มียายชาวบ้านเดินออกมาคุยสนทนากันอย่างมีไมตรี … พื้นที่ก็ยังพบเศษกระเบื้องเชิงชายกระจายอยู่บ้าง ทีมพวกเราจึงได้ทำการจัดเก็บและนำไปมอบให้ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา จำนวนทั้งสิ้น 25 ชิ้น

เรื่องวัตถุโบราณต่างๆ ที่สำรวจพบ …กลุ่มเราเน้นอุดมการณ์ที่ดีคือจะไม่หยิบนำกลับบ้านเด็ดขาด เพราะเป็นทรัพย์สมบัติของชาติ และโดยส่วนตัวผมคือกลัวบาปครับ เพราะทุกอย่างที่เห็นล้วนเป็นของสงฆ์ทั้งสิ้น ถ้าหยิบกลับมาจะบาปหนักแน่นอน…

มอบกระเบื้องเชิงชายให้กับ ผอ.พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา

วัดศาลาปูน

วัดศาลาปูน ไม่ได้เป็นวัดร้างนะครับ แต่เดินทางผ่านมาก็เลยแวะเข้าไปเที่ยว ซึ่งกำลังทำการบูรณะพระอุโบสถอยู่ … ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผังสวยงามมาก

หลังจากนั้นทีมเราก็แวะทานข้าวก่อนครับ เพราะล่วงเลยเวลาเที่ยงมาจวนจะบ่าย 2 แล้วหล่ะ ร้านที่เราไปแวะจะเป็นร้านอาหารตามสั่งหน้าวัดหน้าพระเมรุ อาหารอร่อยครับ

อาหารตามสั่งที่เราแวะพักทานกัน

ร้านนี้อร่อยมากครับ ใครชอบราคาไม่แพง นั่งกินสบายๆไม่เรื่องมาก ก็เชิญมาแวะทานกันดูได้

หลังจากทานอาหารกันเรียบร้อย เราก็ไปลุยกันต่อที่วัดพระยาพาน … จุดนี้อยู่กลางทุ่งนาเลยครับ ต้องเดินลัดเลาะกันไปตามคันนา ให้ระวังเรื่องสัตว์เลื้อยคลานและอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคให้มากด้วยนะครับ เพราะถ้าพลาดเดินตกร่องน้ำแล้วจะงานเข้า เหมือนกับผมนี่แหละครับ ทำให้สูญเสียกล้องถ่ายรูปไปเลยทันที เพราะความสะเพร่าของตัวเองแท้ๆ

เส้นทางเดินไปยังวัดพระยาพาน

วัดพระยาพานจะอยู่บนโคกกลางทุ่งนานะครับ มองเห็นมาแต่ไกล… ทีมเราก็แวะขอจอดรถในบ้านเจ้าของที่ดินด้านหน้าริมถนน…

ในป่าวัดพระยาพาน

ต้องบอกว่าใช้เวลาที่วัดพระยาพานนานที่สุดเลยหล่ะครับ เพราะเดินทางเข้าไปไกลพอสมควร แถมน้ำเยอะซะด้วย… แนะนำว่าถ้าจะเดินทางไปกัน ต้องไปช่างหน้าแล้งน่าจะเหมาะสมกว่า…แต่ทีมผมใจร้อนครับ รอหน้าแล้งไม่ไหว…

ซากพระพุทธรูป ที่วัดพระยาพาน

จากนั้นก็ล่วงเลยเวลามาก็ราวๆ 4 โมงเย็น ทีมเราก็เร่งฝีเท้าเพื่อไปยังจุดหมายอื่นๆต่อ นั่นก็คือวัดเต่า

วัดตามุก (ร้าง) อยุธยา

วัดตามุกก็ตั้งอยู่บนโคก กลางทุ่งนาเช่นกัน …ทีมพวกผมเข้าไปกันแล้วก็ไม่เห็นซากอะไรมากมายนะครับ เห็นแต่เพียงอิฐเก่ากระจายโดยทั่วไป

วัดมหาทลาย

จากนั้น เราก็รีบเดินทางไปต่อในบริเวณสนามกีฬาพระนครศรีอยุธยา ไปยังวัดมหาทลาย

ทางเข้าวัดโคกพระนอน

และวัดสุดท้ายที่เราแวะชมก็คือวัดโคกพระนอน ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับสนามกีฬาพระนครศรีอยุธยา ณ จุดนี้ก็ไม่เห็นซากโบราณสถานที่ชัดเจนนัก แต่พบว่ามีการบูรณะไปบางส่วนแล้ว และพบเศษซากพระพุทธรูปบนโคกดินสูง

หลังจากทีมเดินทางมาถึงวัดโคกพระนอนกันแล้ว ก็มีมติเห็นชอบที่จะกลับไปพักผ่อน เพราะแต่ละคนก็เมื่อยล้ากันแบบสุดๆ มีเพียงเมทเท่านั้น ที่มีพลังคึกอย่างมาก ดูไม่ค่อยจะเหน็ดเหนื่อยเท่าไหร่นัก … สุดๆจริงๆ สมแล้วที่เรียนด้านโบราณคดี

จากนั้นเราก็กลับไปยังวัดหน้าพระเมรุ เพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึกในการเดินทาง ในภาระกิจสุดพิเศษ “สำรวจวัดร้าง กรุงเก่าอยุธยา” ตอนที่ 1 Episode 1… ซึ่งผมมั่นใจว่า จะต้องมีการนัดเดินทางอีกหลายครั้งอย่างแน่นอน เพราะวัดที่เราจะสำรวจมีอีกเยอะเลยหล่ะครับ… แต่ตอนนี้ขอพักสักนิดเพื่อปั่นบทความที่ค้างไว้อีกมากมาย ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่ๆ ตามข้อมูลวัดที่กล่าวมาไว้แล้วทั้งหมด  …เรื่องราวอาจจะไม่เป็นวิชาการเพราะผมก็ไม่ใช่นักวิชาการ เพียงแต่รักการท่องเที่ยวแบบนี้เท่านั้น…

การเดินทางวันนี้ ผมได้พบกับทีมนักเดินทางเป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็น นนท์ เมท และเต้ ต่างก็มีน้ำใจและมิตรภาพที่ดีต่อกัน รู้สึกประทับใจอย่างมาก… และเราจะมีอุดมการณ์ที่ดีเช่นนี้ตลอดไปครับ…

ขอฝากให้ติดตามกันต่อไปด้วยนะครับ… แล้วพบกันใหม่… ขอบคุณครับ…

ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ก่อนกลับไปพักผ่อน

 

ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด

ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108

หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory

ร่วมแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยววัดด้วยกัน ได้ที่ กลุ่มรวมพลคนชอบเที่ยววัด

เว็บไซต์หลัก www.faiththaistory.com

Exit mobile version