Faiththaistory.com

พุทธอุทยานมหาราช หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา

พุทธอุทยานมหาราช หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ที่ กิโลเมตรที่ 44 ถนนสายเอเชีย เลขที่ 115 หมู่ที่ 4 ต.บ้านใหม่ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ผมได้มีโอกาสเดินทางผ่านมาที่นี่ โดยได้สังเกตเห็นองค์หลวงพ่อทวดมาแต่ไกล จึงได้แวะเข้าไปเที่ยวชมพื้นที่

จุดเด่นสำคัญก็คงหนีไม่พ้นหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ ซึ่งมีหน้าตักขนาด 24 เมตร สูง 51 เมตร เมื่อเข้ามาถึงบริเวณก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ร่มรื่นพอสมควร แต่พื้นที่โดยรอบยังมีการขุดสระ และกำลังสร้างวัดวชิรธรรมาราม จากข้อมูลโครงการมาจากแนวคิดเพื่อให้เป็นประโยชน์และความสุขต่อสาธารณะ

ความเป็นมาของโครงการพุทธอุทยานมหาราช

โครงการนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่รอยต่ออำเภอบางปะหันและอำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต่อเนื่องกับอำเภอป่าโมก อำเภอเมือง ของจังหวัดอ่างทอง ซึ่งเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์เส้นทางเดินทัพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จึงได้ตั้งชื่อโครงการเป็น “พุทธอุทยานมหาราช” เพื่อความเป็นสิริมงคลจากคงามตั้งใจของ นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ ประธานมูลนิธิพระเทวราชโพธิสัตว์ ร่วมกับคณะสงฆ์ได้มีแนวคิดที่จะดำเนินโครงการให้สำเร็จ จึงได้ทำการซื้อที่ดินจำนวน 200 ไร่ และได้หารือคณะสงห์ โดยมีสมเด็จพระวันรัต รักษาการเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต วัดบวรนิเวศและสมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดเทพศิรินทราวาส เลขาธิการคณะสงห์ธรรมยุต กรรมการมหาเถรสมาคม ตลอดจนพระเถระผู้ใหญ่หลายรูป และก็ได้เห็นชอบที่จะทำการสร้างวัดขึ้นใหม่ และโรงเรียนในพื้นที่เดียวกัน

ทางคณะสงฆ์ยังได้มีความตั้งใจว่าจะให้เป็นโครงกางการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ปัจจุบันนี้ได้ตั้งเป็นวัดแล้วชือ “วัดวชิรธรรมาราม” โดยมีเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต รักษาการเจ้าอาวาสรูปแรก

เรามาเริ่มเดินทางไปท่องเที่ยวสถานที่จริงกันเลยครับ

ป้ายหลักกิโลเมตรขนาดใหญ่ บริเวณทางเข้า

ป้ายหลักกิโลเมตรทางเข้า

สิ่งที่จะสังเกตได้ง่ายๆ เราจะเห็นป้ายหลักกิโลเมตรขนาดใหญ่สีเหลืองด้านซ้ายมือ ถ้าเดินทางมาจาก กรุงเทพฯ

บรรยากาศด้านในอุทยาน

เมื่อเข้ามาด้านในพื้นที่อุทยาน จะมีสถานที่จอดรถมากมายกว้างขวาง และมีสระน้ำสวยงามร่มรื่นดีครับ

ร้านค้าของที่ระลึกและอาหารต่างๆ บริเวณริมทางเดินเข้าอุทยาน

บรรยากาศร้านค้า ที่กำลังตั้งร้าน

ร้านสมุนไพร

ร้านขายขนมไทยโบราณ

วันที่ผมได้เดินทางไปท่องเที่ยว จะค่อนข้างเช้าประมาณ 7 โมงกว่าๆ ทำให้ร้านค้ายังตั้งกันไม่แล้วเสร็จ คาดว่าตอนสายๆ จะมีร้านค้ามากกว่านี้

สมเด็จหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่

เมื่อเดินผ่านร้านค้าต่างๆ ก็จะมาถึงเรือนไม้ไทยขนาดใหญ่ 2 หลัง มีองค์หลวงพ่อทวดระหว่างกลาง ได้บรรยากาศไทยๆ ดีครับ

โครงการได้จัดเตรียมร่มไว้ให้ใช้ด้วยครับ

สำหรับท่านที่แพ้แสงแดดก็ยืมร่มที่ทางโครงการได้จัดเตรียมไว้ให้แล้วได้เลยครับ

ภายในเรือนไทยจะเป็นร้านสไตล์โบราณ

ร้านกาแฟสไตล์โบราณในเรือนไทย

ภายในประดับด้วยรูปสมัยเก่า

เรือนไทยอีกฝั่งหนึ่ง

ด้านในตกแต่งด้วยของใช้สมัยเก่าๆมากมาย

ทางเข้าห้องน้ำ ก็ยังมีสไตล์ดีครับ

ภายในห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำสุขภัณฑ์ก็จะเป็นรูปแบบสมัยใหม่ แต่การตกแต่งจะเป็นสไตล์ย้อนยุค สวยงามดีมากครับ

การตกแต่งเรือนไทยทำได้สวยงาม

บรรยากาศ เพื่อเข้าไปนมัสการหลวงพ่อทวด

บริเวณพื้นที่เพื่อนมัสการหลวงพ่อทวด

พื้นที่นมัสการหลวงพ่อทวด

วัตถุมงคลให้เช่าบูชา เพื่อเป็นปัจจัยการสร้างพุทธอุทยาน

เนื่องจากทางโครงการได้ดำเนินการสร้างอุทยานแห้งนี้ด้วยมีเจตนาที่ดี นำความสุขสู่สังคมและเป็นประโยชน์ ทั้งจัดสร้างวัด โรงเรียน และชุมชน จึงต้องใช้ปัจจัยค่อนข้างมาก จึงได้มีการจัดทำเหรียญหลวงพ่อทวดรุ่น “อภิเมตตา  มหาโพธิสัตว์” เพื่อเป็นการรวบรวมปัจจัยในการสร้างโครงการนี้ให้แล้วเสร็จ

สิ่งที่น่ายินดีคือ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เป็นผู้ให้คำแนะนำออกแบบเหรียญรุ่นนี้ ทำให้มีความสวยงามมากเป็นพิเศษ ถ้าท่านใดสนใจเก็บเป็นที่ระลึก ก็เดินทางไปเที่ยวชมกันได้

อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เยี่ยมชมพุทธอุทยาน

อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ให้คำแนะนำ

อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ตรวจแบบ

ภาพต้นแบบ เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นอภิเมตตา มหาโพธิสัตว์

การจัดสร้างจะมีหลายเนื้อ ได้แก่ เนื้อทองคำ 96.5%, เนื้อเงินลงยาสีแดง, เนื้อเงินลงยาสีน้ำเงิน, เนื้อเงิน, เนื้อนวโลหะ, เนื้ออัลปาก้า, เนื้อทองระฆัง, เนื้อทองแดง

ที่จริงแล้วพระเครื่องทั้งหมดได้เปิดจอง และกำหนดรับเหรียญตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2557 เป็นต้นไป  ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ายอดการจองเต็มหรือเปล่า ถ้าท่านใกสนใจก็ลองไปที่พุทธอุทยานดูก็ได้ครับ เผื่อจะมีเหลือกันบ้าง

หลวงปู่ทวดพระเถระคู่แผ่นดินอยุธยา

หลายๆท่าน อาจจะคุ้นเคยที่หลวงพ่อทวดเป็นพระเมืองใต้ จำพรรษาที่วัดพะโค๊ะ และวัดช้างไห้ ตามลำดับ

ในตำนานประวัติท่านมีบันทึกในเอกสารโบราณในแผ่นดินกรุงศรีอยุธยาคือ “พระตำราบรมราชูทิศเพื่อกัลปนาหัวเมืองพัทลุง” ซึ่งจารึกไว้นานกว่า 400 ปี เป็นการยืนยันว่าหลวงพ่อทวดมีตัวตนจริง  ท่านได้บวชศึกษาเล่าเรียนที่พระนครศรีธรรมราชและมาศึกษาต่อที่พระนครศรีอยุธยา

ท่านได้ป็นผู้เรียบเรียงอักขระพระไตรปิฎก 84,000 พระธรรมขันธ์ จากเมล็ดทองคำ ที่ราชทูตจากลังกามาท้าประลองภูมิธรรม และท่านทราบด้วยญาณว่า อักขระถูกแบเก็บซ่อนไว้ 7 คำ คือ สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ อันเป็นหัวใจของพระอภิธรรม ทำให้ราชทูตยอมศิโรราบ ท่านเป็นที่เคารพนับถือจากผู้คนอย่างมากและจำพรรษาที่กรุงศรีอยุธยานานหลยสิบปี และจึงออกธุดงค์กลับเมืองใต้

จึงเสมือนว่าหลวงพ่อทวดเป็นพระเถระที่อยู่คู่กรุงศรีอยุธยามานานในอดีต ไม่ใช่เฉพาะเป็นพระเถระแดนใต้เท่านั้น

 

โดยรวมบรรยากาศและสถานที่

ผมประทับใจในบรรยากาศมากครับ เพราะได้เข้าถึงบรรยากาศแบบย้อยยุค ภูมิประเทศก็ร่มรื่น ไม่ร้อน มีลมพัดเย็นตลอดเวลา นอกจากเราจะได้ทำบุญระลึกถึงคุณพระสงฆืแล้ว ยังมีร้านค้าของชาวบ้าน และอาหารได้ชิมมากมาย ขอเชิญชวนมาแวะเที่ยวกันครับ

บรรยากาศที่พุทธอุทยานมหาราช

ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด

ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108

หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory

ร่วมแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยววัดด้วยกัน ได้ที่ กลุ่มรวมพลคนชอบเที่ยววัด

Exit mobile version