พาไปเที่ยววัดต้นสน ไหว้สมเด็จพระศรีเมืองทอง จังหวัดอ่างทอง
ก่อนหน้านี้ผมได้เคยเขียนบทความเกี่ยวกับการเดินทางไปเที่ยวัดต่างๆ ในจังหวัดอ่างทอง ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่าจังหวัดเล็กๆอย่างอ่างทอง จะมีแหล่งท่องเที่ยววัดวาอารามที่มากมาย และมีจุดเด่นสนใจหลายวัด โดยเฉพาะพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ที่ผมได้เดินทางไปมาแล้ว อาทิเช่น วัดม่วง (พระพุทธรูปปางมารวิชัยใหญ่ที่สุดในโลก) วัดขุนอินทประมูล (พระพุทธรูปปางไสยาสน์ องค์ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศไทย ในปัจจุบัน พ.ศ. 2557) วัดป่าโมกวรวิหาร (พระพุทธไสยาสน์สวยงามองค์หนึ่งของไทย) วัดสี่ร้อย (พระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ องค์ใหญ่) และที่อื่นๆอีกที่ผมยังไม่ได้เดินทางไป
ครั้งนี้เป็นโอกาสดีอีกครั้ง กับวันสบายๆในวันหยุดสุดสปดาห์ และผมก็เดินทางมาที่จังหวัดอ่างทองอีกครั้งหนึ่ง โดยมีจุดประสงค์จะกราบนมัสการพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ที่มีพระนามว่า “สมเด็จพระศรีเมืองทอง” ที่วัดต้นสน
ในเรื่องการเดินทางก็แสนง่ายดาย โดยวัดต้นสนอยู่ในเมืองอ่างทอง ให้ดูเส้นทางตามแผนที่ได้เลยครับ
แผนที่การเดินทางไปวัดต้นสน อ่างทอง
จุดสังเกตุง่ายๆ ถ้ามาตามเส้นทางถนนสายเอเชีย แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าอ่างทองจะเจอแยกไฟแดง 2 ครั้ง แล้วก็จะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วจะเจอกับไฟแดง จุดสังเกตุตรงนี้คือเห็นอ่างสีทองขนาดใหญ่แล้วให้เลี้ยวขวานะครับ จะเห็นป้ายบอกทางไปวัดต้นสน อีกไม่ไกลแล้วครับ
ผมเดินทางมาถึงช่วงเที่ยวพอดีครับ พอเข้ามาภายในพื้นที่วัด ก็ได้เห็นถึงเนื้อที่ ที่กว้างมากๆเลยครับ โดยแต่ละทิศติดกับสถานที่อื่นๆได้แก่
ทิศเหนือ ติดกับวิทยาลัยเทคนิคอ่างทอง
ทิศใต้และทิศตะวันตก ติดกับหมู่บ้าน
ทิศตะวันออกติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา
พื้นที่จอดรถมีมากมาย ถ้าบริเวณพระวิหาร สมเด็จพระศรีเมืองทอง เต็มแล้ว ก็ให้หาที่จอดบริเวณพระอุโบสถแทนนะครับ หรือเลยไปหน่อยก็มีลานกว้างเยอะแยะไปหมด
เมื่อเข้ามาผ่านซุ้มประตูวัด ฝั่งซ้ายมือจะประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่พระนามว่า “สมเด็จพระศรีเมืองเงิน” ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นพระวิหารสมเด็จพระศรีเมืองทอง
ความเป็นมาประวัติพอสังเขปวัดต้นสน
วัดต้นสนสันนิษฐานกันว่าเป็นวัดในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ประมาณ พ.ศ. 2310 แต่ไม่มีหลักฐานทางการบันทึกความเป็นมาไว้ ผู้คนสมัยก่อน ก็ได้เล่าสืบต่อกันมาว่า ที่วัดแห่งนี้เกือบจะกลายเป็นวัดร้าง และไม่มีปูชนียวัตถุใดๆ จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2488 พระราชสุวรรณโมลี อดีตเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง จึงได้ริรเิ่มการสร้างถาวรวัตถุขึ้นในพื้นที่ จากเดิมมีพื้นที่ 14 ไร่เศษ ต่อมาได้ทำการซื้อที่ดินเพิ่ม จนปัจจุบันมีเนื้อที่ 27 ไร่ 3 งาน 32 ตารางวา วัดต้นสนได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2485
สมเด็จพระศรีเมืองทอง
สมเด็จพระศรีเมืองทอง มีพระนามเต็มว่า “สมเด็จพระนะวะโลกุตตะระธัมมะบดี ศรีเมืองทอง” ริเริ่มการก่อสร้างโดย พระราชสุวรรณโมลี เมื่อปี พ.ศ. 2516 โดยมีพระครูอนุศาสน์โสภณเป็นพระเลขาคอยช่วยเหลือ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2523 การก่อสร้างได้มาถึงพระอุระ (อก) ท่าพระราชสุวรรณโมลีได้มรณภาพลงเสียก่อน ท่านพระครูอนุศาสน์โสภณ จึงได้รับช่วงจนแล้วเสร็จอย่างในปัจจุบันนี้
สมเด็จพระศรีเมืองทอง เป็นพระพุทธรูปองค์ขนาดใหญ่ หล่อด้วยทองเหลืองทั้งองค์ หน้าตักกว้าง 6 วา 3 ศอก 9 นิ้ว สูง 9 วา 2 ศอก 19 นิ้ว ปิดทองคำแท้ทั้งองค์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์สำคัญของวัดต้นสน
หลังจากกราบขอพรสมเด็จพระศรีเมืองทองแล้ว ผมก็เดินออกมาเพื่อไปยังพระอุโบสถในวัดต่อไป
ภายในพระอุโบสถจะประดิษฐานหลวงพ่อดำ ส่วนผนังพระอุโบสถจะมีจิตรกรรมสวยงามมากครับ
หลังจากกราบนมัสการและขอพรหลวงพ่อดำแล้ว ผมก็จะเดินไปบริเวณด้านหลังต่อ เพื่อไปดูสถานที่ให้อาหารปลา
เส้นทางที่ผมเดินผ่านก็จะมีวิหารสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายที่จำลองมา เช่น ศาลซำปอกง พระพุทธชินราช พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร (เจ้าแม่กวนอิม) พระพุทธโสธร ท้าวจตุคามรามเทพ เป็นต้น
จุดให้อาหารปลา จัดสถานท่ไว้ดีพอสมควรเลยครับ มีบริเวณที่นั่ง และสนามเด็กเล่น ผู้ปกครองได้พักผ่อน เด็กได้สนุกสนาน ถือว่าลงตัวดีครับ
นอกจากการให้อาหารปลาแล้ว ก็ยังมีบ่เต่า ที่เราจะสามารถให้อาหารเต่าได้อีกด้วยครับ
บริเวณใกล้ๆกับศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง จะมองเห็นพระเกตุแก้วจุฬามณีเจดีย์ ส่วนบริเวณทางขึ้นเป็นวิหารพระอินทร์ บนเจดีย์ผมไม่ได้เดินขึ้นไปนะครับ เพราะมองเห็นว่ามีการล็อคไว้
หลังจากที่เดินกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์จนครบแล้ว ผมก็แวะมาบริเวณทางลงให้อาหารปลาเพื่อแวะหาอะไรอร่อยๆกินสักนิด ก็ไปเจอกับโรตีรถเข็นอาบัง คนต่อคิวซื้อเยอะมากครับ ผมก็เลยต่อคิวซื้อบ้าง อร่อยดีเหมือนกันครับ ทำได้รวดเร็วรอไม่นาน อาบังแกก็จอดขายในวัดอยู่เป็นประจำ ยังไงถ้าไปกันแล้วก็แวะอุดหนุนกันด้วยครับ
หลังจากกินโรตีหมดแล้ว ผมก็นั่งพักในบริเวณวัด สักครู่หนึ่ง มีพื้นที่นั่งพักกระจายทั่วบริเวณวัดเลยครับเลือกสถานที่พักผ่อนได้ตามอัธยาศัย
สำหรับการเดินทางมาครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นวันสบายๆ ไม่ต้องเร่งรีบไปไหนมากมาย ได้ให้ความสงบกับชีวิต ไม่วุ่นวาย แถมมีบรรยากาศความศักดิ์สิทธิ์เต็มเปี่ยม อีกทั้งได้มีโอกาสทำนุบำรุงพระพุทธศานาให้อยู่คู่คนไทยไปยาวนานที่สุด
ส่วนในเรื่องของจุดเด่นของวัดต้นสน ก็คือ
1. สมเด็จพระศรีเมืองทอง ที่เป็นที่เคารพบูชาของชาวจังหวัดอ่างทองและผู้คนทั่วไป
2. หลวงพ่อดำ พระประธานในพระอุโบสถ
3. แพให้อาหารปลา มีปลาจำนวนมากมายหลายพันธุ์ อีกทั้งมีสนามเด็กเล็กให้เด็กๆได้สนุก ผู้ใหญ่ก็ได้พักผ่อน
4. บ่อเต่า สำหรับให้อาหารเต่า มีเต่าขนาดใหญ่จำนวนมาก
5. สำหรับผู้เชื่อเรื่องวิญญาณ หรือหาโชคลาภ ก็ลองไปกราบไหว้ขอลาภ กับเจ้าแม่ตะเคียนทอง เผื่อเจอเลขเด็ดนะครับ (โปรดใช้วิจารณญาณ)
6. อื่นๆ จะเป็นการจำลองสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย
หลังจากเดินเที่ยวชมบรรยากาศ จนครบแล้ว ผมก็เดินทางกลับ สำหรับวันนี้ก็ถือว่าคุ้มค่าการเดินทาง ภายในวัดเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย ทำให้ใจเราสงบขึ้นเยอะเลยครับ
– จบบันทึกการท่องเที่ยว วัดต้นสน อ่างทอง –
ภาพบรรยากาศในวัดต้นสน อ่างทอง
ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
ร่วมแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยววัดด้วยกัน ได้ที่ กลุ่มรวมพลคนชอบเที่ยววัด