ท่องเที่ยวอ่างทอง ชมพระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง วัดท่าอิฐ

By | September 14, 2014
วัดท่าอิฐ จังหวัดอ่างทอง

วัดท่าอิฐ จังหวัดอ่างทอง

ท่องเที่ยวอ่างทอง ชมพระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง วัดท่าอิฐ

หลังจากที่ผมได้เดินทางไปท่องเที่ยววัดขุนอินทประมูลมาแล้วก่อนหน้านี้ ก็ได้ทราบถึงประวัติการสร้างวัดขุนอินทประมูลโดยมีการระดมคนงานชาวบ้านอย่างมากมาย จึงมีการเผาอิฐ เผาปูน จำนวนมากและจุดที่ทำการขนอิฐ เผาปูนก็เล่ากันมาว่าคือบริเวณของวัดท่าอิฐในปัจจุบันนี้เอง

การเดินทางมาท่องเที่ยวที่วัดท่าอิฐ

การเดินทางไม่ยากครับ ใช้เส้นทางเดียวกับการเดินทางไปวัดขุนอินทประมูล ก่อนถึงวัดขุนอินทประมูล จะมองเห็นเจดีย์สีทองอร่ามมาแต่ไกลเลยครับ ให้ดูแผนที่ไปวัดขุนอินทประมูล ตามลิ้งค์นี้ครับ ===> เดินทางไปวัดขุนอินทประมูล

พระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง วัดท่าอิฐ

พระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง วัดท่าอิฐ

ประวัติวัดท่าอิฐ

วัดท่าอิฐสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2304 สันนิษฐานกันว่า บริเวณนี้แต่เดิมเป็นสถานที่ขนอิฐ และเผาอิฐเพื่อนำไปสร้างวัดขุนอินทประมูล และเมื่อได้สร้างวัดขึ้นมาในบริเวณนี้ จึงได้เรียกว่าวัดท่าอิฐ พระประธานในอุโบสถมีชื่อเรียกว่า “หลวงพ่อเพ็ชร” พระประธานในวิหารมีชื่อเรียกว่า “หลวงพ่อขาว” เป็นพระพุทธรูปที่สร้างในสมัยอยุธยาเป็นราชธานี มีอายุประมาณกว่า 200 ปีมาแล้ว ประดิษฐานอยู่ในวิหารมหาอุตม์ เมื่อเข้าไปในวัดจะมองเห็น พระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง โดดเด่นสีทองอร่าม มูลเหตุของการสร้างพระธาตุเจดีย์เนื่องจาก ราวพุทธศักราช 2535 พระครูสุคนธศีลคุณ (หลวงพ่อหอม) มีดำริจะสร้างเจดีย์ขึ้นในบริเวณวัด มีความกว้าง 40 เมตร สูง 73 เมตร รูปแบบศิลปะลังกา-อยุธยา และรัตนโกสินทร์ ลักษณะเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม มีองค์ระฆังและปล้องไฉน 32 ปล้อง เพื่อทดแทนเจดีย์หลังเดิม ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าอุโบสถที่ผุพังไปตามกาลเวลาและเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระศอของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระพุทธรูปปางต่างๆ ประดิษฐานในพระเจดีย์เป็นสมบัติของพระพุทธศาสนาและเพื่อระลึกถึงพระคุณของพระองค์ ที่สั่งสอนสัตว์โลกจนเพียบพร้อมไปด้วยศีล สมาธิ ปัญญา ผู้ปฏิบัติ ยิ่งๆ ขึ้นไปจนสามารถบรรลุคุณธรรมตามความสามารถของแต่ละบุคคล

ต่อมาราว พ.ศ. 2538 พระคุณสุคนธศีลคุณได้ทราบอาการพระประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและ เป็นช่วงที่กำลังเริ่มก่อสร้างเจดีย์ ด้วยความห่วงใยในพระองค์ท่าน หลวงพ่อหอมได้ตั้งสัจจาธิษฐานว่า ขอให้ในหลวงทรงหายจากอาการพระประชวร ถ้าเป็นไปดังสัจจาธิษฐาน จะสร้างเจดีย์ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระองค์ท่าน และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานชื่อเจดีย์ว่า “พระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง” สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีเสด็จมาเปิดเมื่อปี พ.ศ. 2543

เรียบเรียงบทความจาก http://thai.tourismthailand.org

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีเสด็จมาเปิดเมื่อปี พ.ศ. 2543

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีเสด็จเป็นประธานในพิธีเปิด พระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง เมื่อปี พ.ศ. 2543

พระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง

พระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง

พระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง มีจำนวนชั้น 9 ชั้น ชั้นบนสุดประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระศอ ของพระพุทธเจ้า เพื่อให้เป็นสถานที่สักการะของพุทธศาสนิกชนอย่างสูงสุด  จากบรรยากาศโดยรอบวัดค่อนข้างมีผู้คนแวะเวียนมาน้อย จึงมีบรรยากาศที่เงียบพอสมควร ผมแปลกใจพอสมควรทั้งๆที่มองเห็นพระเจดีย์ทองอร่ามมาแต่ไกล แต่ทำไมคนจึงเข้ามาท่องเที่ยววัดนี้น้อย

พระอุโบสถ อยู่ในระหว่างกำลังบูรณะใหม่ เพราะทรุดโทรมไปตามเวลา

พระอุโบสถ อยู่ในระหว่างกำลังบูรณะใหม่ เพราะทรุดโทรมไปตามเวลา

พระอุโบสถของวัดท่าอิฐ กำลังอยู่ในระหว่างการบูรณะใหม่ ( ณ ปี พ.ศ. 2557) ผมมองขึ้นไปด้านบนซุ้มมองเห็นว่ามีระบุปีที่สร้าง คือปี พ.ศ. 2500 ก็ถือว่ามีอายุที่เก่าแก่เกิน 50 ปีแล้วครับ

จุดธูปเทียนไหว้พระก่อนขึ้นสักการะพระบรมสารีริกธาตุ

จุดธูปเทียนไหว้พระก่อนขึ้นสักการะพระบรมสารีริกธาตุ

หลังจากไหว้ชั้นล่างของพระเจดีย์แล้ว ผมก็เตรียมตัวเดินขึ้นชั้นบนต่อไป

พระพุทธชินราชพร้อมพระอัครสาวกซ้าย-ขวา องค์ำจำลอง

พระพุทธชินราชพร้อมพระอัครสาวกซ้าย-ขวา องค์ำจำลอง

บริเวณชั้นที่ 2 ประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลอง

พระพุทธชินราชพร้อมพระอัครสาวก ซ้าย-ขวา องค์จำลอง ทางคณะศิษย์ได้สร้างถวายเพื่อเป็นมุทิตาสักการะในการฉลองสมณศักดิ์ แด่พระญาณรังษี (หลวงปู่จวบ สุภัทโท) รองเจ้าอาวาสวัดราชสิทธาราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ต่อจากนั้นพระญาณรังษีทูลเกล้าถวายเนื่องในวโรกาสมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนม์ พรรษาครบ 6 รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  รัชกาลที่ 9 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยมีพิธีเททองหล่อขึ้น ในวันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม พุทธศักราช 2543 (ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ปีมะโรง) ณ โรงหล่อพระธรรมรุ่งเรือง จังหวัดนครปฐม โดยมีพระญาณรังษีเป็นประธานในพิธีเททองหล่อ ได้มีการนำชนวนเก่า และแผ่นทองจารอักขระจากพระอริยสงฆ์ทั่วประเทศไทยกว่า 150 รูป มาร่วมหล่อในครั้งนั้น จากเหตุการณ์วันนั้นท้องฟ้าที่มืดครึ้มด้วยเมฆกลับกลายเป็นท้องฟ้าที่สว่าง โล่ง แล้วยังปรากฎแสงระยิบระยับเป็นประกายแจ่มใส บนท้องฟ้าเป็นอันมาก เป็นที่อัศจรรย์ใจแก่ผู้ร่วมงานและได้พบเห็น จึงถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดีต่อไปในอนาคต

 

พระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานอยู่บนชั้น ที่ 9 ชั้นสูงสุดของพระเจดีย์

พระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานอยู่บนชั้น ที่ 9 ชั้นสูงสุดของพระเจดีย์

หลังจากนั้นผมก็เดินขึ้นไปยังชั้นต่างๆของพระเจดีย์ จนมาถึงชั้นบนสุด จะพบกับพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าประดิษฐานให้พุทธศาสนิกสักการะบูชา

บรรยากาศจากด้านบนพระเจดีย์

บรรยากาศจากด้านบนพระเจดีย์

วัตถุมงคลของวัด มีให้บูชาที่ชั้นล่างของพระเจดีย์

วัตถุมงคลของวัด มีให้บูชาที่ชั้นล่างของพระเจดีย์

สำหรับการเดินทางเที่ยววัดวันนี้ ผมก็สิ้นสุดที่วัดท่าอิฐ อ่างทอง… สำหรับการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน อาจจะพบกับปัญหาต่างๆมากมาย ตามสภาวะของสังคมที่เปลี่ยนไป แต่การท่องเที่ยววัด ก็สามารถที่จะทำให้ผมได้สบายกายและสบายใจมากขึ้น และผมก็คิดว่าทุกคน ที่ได้เดินทางเข้าวัดก็คงได้รับถึงความรู้สึกที่สบายใจและผ่อนคลายมากขึ้นเช่นกัน

 

คลิปแนะนำวัดท่าอิฐ จังหวัดอ่างทอง


https://youtu.be/UQ-INYwhwHs


https://youtu.be/RASPrUXV7VU


https://youtu.be/QJjLJjqduKk