เที่ยววัดบางพลีใหญ่กลาง ไหว้พระนอนยาวที่สุดในประเทศไทย

By | May 25, 2015

<
https://youtu.be/rj2zZPrhHdQ

เที่ยววัดบางพลีใหญ่กลาง ไหว้พระนอนยาวที่สุดในประเทศไทย

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาไปเที่ยววัดที่เป็นที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพเท่าไรนัก โดยเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอนที่มีความยาวที่สุดของประเทศไทย ด้วยความยาว 53 เมตร นั่นก็คือวัดบางพลีใหญ่กลาง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดบางพลีใหญ่ใน แต่หลายๆคนจะคุ้นเคยกับวัดบางพลีใหญ่ในมากกว่า เพราะองค์หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของประเทศไทย  จึงทำให้ผู้คนเดินทางไปยังวัดบางพลีใหญ่กลางน้อยกว่ามาก

หลายๆท่านอาจจะไม่ทราบว่าที่วัดบางพลีใหญ่กลางประดิษฐานพระนอนขนาดยาวที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งมีความสวยงามของถาวรวัตถุอีกมากมาย ทั้งๆที่วัดตั้งห่างไม่ไกลจากวัดบางพลีใหญ่ในเลย เพียง 1-2 กิโลเมตรเท่านั้น

นอกจากความสวยงามของพระนอนแล้ว ก็ยังมีความแปลก Unseen คือ ภายในพระนอนสามารถที่จะเดินเข้าไปเพื่อชมภาพวาดจิตรกรรม รวมถึงมีหัวใจพระนอนให้ปิดทองกันด้วย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมเคยเห็นเลยครับ ส่วนตัวพระอุโบสถก็มีความสวยงาม วิจิตรงดงามมาก

บ่อยครั้งที่ผมได้เดินทางไปสมุทรปราการ แต่ผมก็ไม่เคยได้แวะเวียนไปที่วัดบางพลีใหญ่กลางเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรก เพราะผมได้ทราบเรื่องราวจากเพื่อนๆ ถึงความแปลกของวัดนี้ ผมจึงได้หาโอกาสเดินทางไปเพื่อชมสถานที่และทำบุญไปในตัว

การเดินทางไปวัดบางพลีใหญ่กลาง

ต้องบอกว่าสะดวกอย่างมาก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะผมเดินทางไปเที่ยววัดบางพลีใหญ่ในบ่อยครั้ง จึงคุ้นเคยเส้นทางเป็นอย่างดี วัดบางพลีใหญ่กลาง ตั้งอยู่บริเวณคลองสำโรงฝั่งเหนือ ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งจะห่างจากวัดบางพลีใหญ่ในเพียง 1 – 2 กิโลเมตรเท่านั้น โดยให้ขับรถผ่านซอยข้างวัดบางพลีใหญ่ในเข้าไป และจะมีป้ายบอกวัดพระนอน ตลอดเส้นทาง ซึ่งวัดจะตั้งติดกับโรงเรียนบางพลีราษฎร์บํารุง ให้ดูแผนที่การเดินทางตามรูปด้านล่างเลยครับ

แผนที่วัดบางพลีใหญ่กลาง

แผนที่วัดบางพลีใหญ่กลาง

ประวัติพอสังเขป วัดบางพลีใหญ่กลาง (จาก http://th.wikipedia.org )

วัดบางพลีใหญ่กลาง ตั้งอยู่บริเวณคลองสำโรงฝั่งเหนือ ตำบลบางพลีใหญ่ ห่างจากวัดบางพลีใหญ่เล็กน้อย สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2367 ชาวบ้านละแวกบางพลี เรียกว่า วัดกลาง คงเป็นเพราะตั้งอยู่ท่ามกลางระหว่างวัดบางพลีใหญ่ในกับวัดคงคาราม (วัดยายหนู) ซึ่งเป็นวัดร้างไปแล้ว เดิมที่ตั้งวัดเป็นที่ดินของนายช้างหมื่นราษฎร์ โดยนาย น้อย หมื่นราษฎร์ พี่ชายเป็นผู้สร้างขึ้นและได้ขนานนามวัดว่า “วัดน้อยปทุมคงคา”เพราะได้ขุดสระปลูกบัวหลวงไว้ด้วย ต่อมาเปลี่ยนนามวัดใหม่ว่า “วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม” และครั้งสุดท้ายเปลี่ยนเป็น “วัดบางพลีใหญ่กลาง” โดยมิปรากฏแน่ชัดว่าเปลี่ยนใน สมัยเจ้าอาวาสรูปใด

วัดบางพลีใหญ่กลางได้รับพระราชทาน วิสุคามสีมาเมื่อ วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2478 เขตวิสุคามสีมา กว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร ในด้านการศึกษาทางวัดจัดให้มีการเรียนพระปริยัติธรรมตลอดมา นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนการศึกษาของชาติโดยให้ความร่วมมือกับทางราชการ ให้ที่วัดสร้างโรงเรียนทั้งระดับประถมศึกษา(โรงเรียนวัดบางพลีใหญ่กลาง) และมัธยมศึกษา(โรงเรียนบางพลีราษฎร์บำรุง) ด้วยเจ้าอาวาสตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันทั้งหมด 8 รูป

บริเวณลานจอดรถวัดบางพลีใหญ่กลาง

บริเวณลานจอดรถวัดบางพลีใหญ่กลาง

เมื่อผมขับรถจนมาถึงโรงเรียนบางพลีราษฎร์บำรุง ก็จะมองเห็นซุ้มประตูวัดเลยครับ จากนั้นก็เตรียมหาที่จอดรถ สำหรับบริเวณที่จอดรถด้านหน้าหลังจากซุ้มประตูวัดนั้น จะมีพื้นที่น้อยมาก ถ้าหาที่จอดรถกันไม่ได้ให้ขับไปด้านหน้าทางเข้าวิหารไปแถวศาลากลางน้ำแทนนะครับ บริเวณนั้นที่จอดกว้างพอสมควร

ศาลากลางน้ำวัดบางพลีใหญ่กลาง

ศาลากลางน้ำวัดบางพลีใหญ่กลาง

บริเวณสระน้ำของวัด จะมีพ่อค้าแม่ค้านำปลามาจำหน่ายเพื่อที่จะปล่อยกัน แต่เท่าที่ดูสภาพน้ำแล้ว ผมไม่กล้าปล่อยเลยครับ เพราะเป็นน้ำนิ่งๆ สีเขียว มองไม่เห็นอะไรเลยครับนอกจากสีเขียว ผมนี่ยืนอึ้งไปขณะหนึ่งเลยทีเดียว

สภาพน้ำในสระน้ำ

สภาพน้ำในสระน้ำ

อย่างที่รูปด้านบนนั่นแหละครับ ขออธิบายด้วยภาพแทนแล้วกัน ยังไงก็ลองพิจารณาก่อนการนำสัตว์น้ำไปปล่อยกันด้วยนะครับ

เมื่อผมยืนพักในร่มไม้สักระยะ ก็จะมีนกพิราบบินมาเต็มเลยครับ สงสัยมีอาหารแถวนี้เพียบแน่นอน จากนั้นผมก็เดินไปต่อเพื่อจะเข้าไปยังวิหารพระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอน

พญาศรีสุทโธนาคราช

พญาศรีสุทโธนาคราช

ก่อนที่จะถึงวิหารพระพุทธไสยาสน์ จะผ่านศาลของพญาศรีสุทโธนาคราช ซึ่งตามความเชื่อทางพระพุทธศาสนา เชื่อว่าพญานาคเป็นสัตว์กึ่งเทพ มีฤทธิ์เดช โดยมีท้าววิรูปักขะ ซึ่งเป็นเทพบนสวรรค์ชั้นที่ 1 หรือ ชั้นจาตุมหาราชิกา หนึ่งในท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ดูแลอยู่ทางทิศตะวันตกของภูเขาสิเนรุ เป็นผู้ปกครองเหล่านาคทั้งหลาย

ลองอ่านเรื่องท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ที่ลิ้งค์นี้ครับ ===> www.faiththaistory.com/wat-thasung-2

ท้าวเวสสุวรรณ หน้ามหาวิหารพระนอน

ท้าวเวสสุวรรณ หน้ามหาวิหารพระนอน

ด้านหน้ามหาวิหารพระนอนจะมีรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณ 2 องค์ ซึ่งตามความเชื่อทางพระพุทธศาสนา เชื่อว่าท่านทำหน้าที่ปกปักษ์รักษาพระพุทธศาสนา และเป็นราชาแห่งเทพบนสวรรค์ชั้นที่ 1 หรือ ชั้นจาตุมหาราชิกา

พระพุทธรูปปางประทานพร หน้ามหาวิหารพระนอน

พระพุทธรูปปางประทานพร หน้ามหาวิหารพระนอน

มหาวิหารพระนอนหลังนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2529 ด้วยความยาว 60 เมตร กว้าง 23 เมตร สูง 25 เมตร

สมเด็จพระศากยมุณีศรีสุเมธบพิตร

สมเด็จพระศากยมุณีศรีสุเมธบพิตร

สมเด็จพระศากยมุณีศรีสุเมธบพิตร

สมเด็จพระศากยมุณีศรีสุเมธบพิตร

ภายในพระมหาวิหารพระนอน จะประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์นามว่า “สมเด็จพระศากยมุณีศรีสุเมธบพิตร” ซึ่งองค์พระมีขนาดความยาวถึง 53 เมตร ซึ่งถือว่ามีความยาวมากที่สุดในประเทศไทย ในปัจจุบัน ( พ.ศ. 2558)

แต่เดิมองค์พระจะสร้างและประดิษฐานกลางแจ้ง  สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2521 มีขนาดความยาวตั้งแต่ยอดเกศถึงพระบาท 26 วา 1 ศอก 9 นิ้ว หรือประมาณ 53 เมตร กว้าง 7.5 เมตร สูง 18 เมตร โดยพระครูพิสารวุฒิกิจ  สำหรับแรงบันดาลใจในการสร้างพระนอนท่านเล่าว่า “จากประสบการณ์ที่อยู่ในสมณะเพศได้เดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ จึงเกิดความคิดที่จะทำอะไรสักอย่างหนึ่งเพื่อเป็นการสร้างกุศล และให้ประชาชนมาทำบุญที่วัดมากๆเหมือนกับวัดอื่นๆ ที่เคยพบเห็น”

พระพุทธไสยาสน์หรือพระนอนองค์นี้ ภายในจะมีห้องปฏิบัติกรรมฐาน มีภาพเขียนบนฝาผนังเป็นเรื่องราวเทวดานรก รวมถึงเรื่องราวตามพุทธประวัติ มีอวัยวะภายใน โดยเฉพาะหัวใจจะบรรจุด้วยเพชรนิล จินดา น้ำพันจันทร์ และทองคำ ซึ่งจะสื่อความหมายถึงความแข็งแกร่งและศักดิ์สิทธิ์ เพื่อประชาชนมาปิดทองที่หัวใจพระนอนเปรียบเสมือนปิดทองหัวใจพระพุทธเจ้า และเป็นคติธรรมเหใือธรรมะสู่กลางใจเหล่าประชาชน

จุดบริเวณทางเข้าสู่องค์พระนอน

จุดบริเวณทางเข้าสู่องค์พระนอน

ที่ป้ายเขียนไว้ว่า เปิดให้เข้าองค์พระตั้งแต่เวลา 09.00 – 15.00 น.

ภาพเขียนต่างๆ ในองค์พระนอน

ภาพเขียนต่างๆ ในองค์พระนอน

ภายในองค์พระ

ภายในองค์พระ

ภาพเขียนทางเข้านรก ในองค์พระนอน

ภาพเขียนทางเข้านรก ในองค์พระนอน

ภายเขียนภายในองค์พระนอน จะเป็นภาพวาดมากมาย เกี่ยวกับรูปพระสงฆ์องค์ต่างๆ เรื่องราวพุทธประวัติ เรื่องราวนรก เป็นต้น

ภาพวาดในพุทธประวัติ

ภาพวาดในพุทธประวัติ พระพุทธเจ้าโปรดท้าวผกาพรหม

ภาพวาดพิธียกเกศพระนอน

ภาพวาดพิธียกเกศพระนอน

ภาพวาดพิธียกเกศพระนอน เป็นภาพประวัติศาสตร์ในเหตุการณ์เมื่อ วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2529 เวลา 10.09 น. ในพิธีมีการทำบุญเลี้ยงพระ 2,529 รูป และบวชชี 2,529 คน และในระหว่างพิธีมีหยาดฝนโปรดปรายลงมา

หัวใจพระนอน

หัวใจพระนอน

หัวใจพระนอน

หัวใจพระนอน

และบนชั้นที่ 4 บนสุดขององค์พระนอนจะมีหัวใจพระนอนในองค์พระ ซึ่งถือเป็นความแปลก Unseen ของเมืองสมุทรปราการเลยหล่ะครับ เป็นครั้งแรกที่ผมเคยเห็นว่าพระพุทธรูปมีการสร้างหัวใจพระขึ้นมาด้วย

เราสามารถที่จะทำการปิดทองบูชากันได้ครับ หลังจากที่ผมได้กราบไหว้บูชาหัวใจพระนอนเรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินลงมาเพื่อไปชมสถานที่อื่นๆ ต่อในบริเวณหลังวิหารพระนอน

ห้องพระอินทร์หลังมหาวิหารพระนอน

ห้องพระอินทร์หลังมหาวิหารพระนอน

จุดแรกหลังมหาวิหารพระนอน จะพบกับห้องพระอินทร์ ซึ่งภายในประดิษฐานพระอินทร์และพระพิฆเนศ

ภายในห้องพระอินทร์

ภายในห้องพระอินทร์

พระอินทร์ ตามความเชื่อทางพระพุทธศาสนา เป็นราชาแห่งเทพสวรรค์ชั้นที่ 2 หรือสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ โดยพระองค์ปกครองเหล่าเทวดาทั้งหลายบนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา และดาวดึงส์

อีกทั้งตามคติความเชื่อทางพระพุทธศานาเชื่อว่าพระองค์ได้บรรลุธรรมขั้นต้นหรือเป็นพระโสดาบันแล้วอีกด้วย

พระอุโบสถ

พระอุโบสถ

พระอุโบสถของวัดบางพลีใหญ่กลางมีความสวยงามมากเลยครับ สีทองอร่ามทั้งหลัง ดูวิจิตรงดงามอย่างมาก และโดยรอบเป็นระเบียงคด

บริเวณพระอุโบสถ

บริเวณพระอุโบสถ

หลวงพ่อสูรย์หรือหลวงพ่อสุริยะ

หลวงพ่อสูรย์หรือหลวงพ่อสุริยะ

ภายในพระอุโบสถ จะประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย นามว่า “หลวงพ่อสูรย์หรือหลวงพ่อสุริยะ”

ภายในพระอุโบสถมีความสวยงามของภาพจิตรกรรมฝาผนัง อีกทั้งมีสีสันที่สดมาก ดูเด่น กว่าวัดทั่วๆไป ผมนั่งอยู่ในพระอุโบสถสักครู่หนึ่ง และก็ได้ทำบุญสร้างพระเจดีย์ใหญ่ที่วัด ซึ่งขณะนี้กำลังก่อสร้างแต่ยังไม่แล้วเสร็จครับ

ภาพพระเจดีย์ใหญ่ที่กำลังก่อสร้าง มองมาจากพระอุโบสถ

ภาพพระเจดีย์ใหญ่ที่กำลังก่อสร้าง มองมาจากพระอุโบสถ

นอกจากในพระอุโบสถที่เราจะเข้าไปทำการกราบไหว้พระพุทธรูปแล้ว ภายในใต้ฐานพระอุโบสถ เราก็สามารถลอดเข้าไปได้ โดยมีความเชื่อว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์

ลอดใต้พระอุโบสถ

ลอดใต้พระอุโบสถ

เมื่อออกมาจากบริเวณพระอุโบสถแล้ว ผมก็เดินต่อไปด้านหลังของวัด ก็เจอกับวิหารพระพุทธรูปปางปรินิพพาน

พระพุทธรูปปางปรินิพพาน

พระพุทธรูปปางปรินิพพาน

พระพุทธรูปปางปรินิพพาน

พระพุทธรูปปางปรินิพพาน

จากนั้นผมก็เดินไปต่อยังบริเวณที่กำลังก่อสร้างพระเจดีย์ใหญ่ ของวัดบางพลีใหญ่กลาง

พระเจดีย์ใหญ่ อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง

พระเจดีย์ใหญ่ อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง

สำหรับวัดบางพลีใหญ่กลาง โดยรวมแล้วเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่ามาท่องเที่ยวมากอีกแห่งหนึ่งเลยนะครับ มีสถานที่สวยงามร่มรื่น พื้นที่กว้างขวาง แต่ก็ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักเท่ากับวัดบางพลีใหญ่ใน เพราะเป็นวัดที่ประดิษฐานหลวงพ่อโต ที่เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นพระคู่บ้านคู่เมืององค์สำคัญองค์หนึ่งของประเทศไทย

แต่ถ้าท่านมีโอกาสเดินทางกันมาถึงบางพลีใหญ่กันแล้ว ก็น่าจะแวะเข้ามานะครับ ผมเชื่อว่า หลายๆท่านจะต้องประทับใจเหมือนผมอย่างแน่นอน

แล้วพบกันใหม่ในการตะลุยท่องเที่ยววัด กับภาระกิจเที่ยววัดของผม ในตอนต่อๆไปนะครับ… ขอบพระคุณครับ…

ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด

ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108

หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory

ร่วมแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยววัดด้วยกัน ได้ที่ กลุ่มรวมพลคนชอบเที่ยววัด

เว็บไซต์หลัก www.faiththaistory.com