ท่องเที่ยวแปดริ้ว ฉะเชิงเทรา อุทยานพระพิฆเนศองค์ยืนปางสัมฤทธิ์ องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

By | September 15, 2014

ท่องเที่ยวแปดริ้ว ฉะเชิงเทรา  อุทยานพระพิฆเนศองค์ยืนปางสัมฤทธิ์  องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

https://youtu.be/zcQ7STh–rk

ท่องเที่ยวแปดริ้ว ฉะเชิงเทรา อุทยานพระพิฆเนศองค์ยืนปางสัมฤทธิ์ องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

ถ้าจะกล่าวถึงเทพเจ้าที่ได้รับความเคารพนับถือกันมากในประเทศไทย ก็จะมีอยู่หลายองค์ แต่มีอยู่องค์หนึ่งที่ได้รับการเคารพเป็นสากลและแพร่หลายไปในหมู่ผู้คนก็คือพระพิฆเนศ โดยจะได้รับความนับถือจากผู้คนในประเทศต่างๆ อาทิเช่น อินเดีย เนปาล ภูฏาน ทิเบต มองโกลเลีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี พม่า กัมพูชา อินโดนีเซีย ไทย เป็นต้น สิ่งที่ทำให้เกิดแรงศรัทธามากมายขนาดนี้ก็คือ กล่าวกันไว้ว่า พระพิฆเนศเป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จทุกประการ ที่จะคอยบันดาลความสำเร็จให้แก่ผู้คนที่เคารพนับถือและปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรมอันดี ประกอบวิชาชีพสุจริต

บ่อยครั้งจึงจะเห็นได้ว่า เมื่อมีงานมงคลเกิดขึ้น เช่น เปิดกิจการร้านค้า หรือการบวงสรวงทำพิธีมงคลต่างๆ จะมีการกล่าวบูชาองค์พระพิฆเนศ เพื่อให้เป็นสิริมงคลและกิจการรุ่งเรือง

พระพิฆเนศองค์ยืนเนื้อสำริด ปางสัมฤทธิ์ สำเร็จ สมปรารถนา องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

พระพิฆเนศองค์ยืนเนื้อสำริด ปางสัมฤทธิ์ สำเร็จ สมปรารถนา องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

ครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสอันดีอีกครั้งหนึ่งที่ผมได้เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งนักท่องเที่ยวและนักแสวงบุญแสวงโชคลาภความสำเร็จทั้งหลายมักจะเดินทางมากราบไหว้ขอพรนอกจากหลวงพ่อพุทธโสธรแล้ว ก็ยังมีเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์คือพระพิฆเนศขนาดใหญ่อยู่ 2 องค์ คือ พระพิฆเนศปางเสวยสุขขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งผมเคยได้เขียนบทความไว้แล้ว และอีกองค์หนึ่งคือ พระพิฆเนศปางสัมฤทธิ์ สำเร็จ สมปรารถนา ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นพระพิฆเนศองค์ยืน เนื้อสำริด ที่สง่างาม น่าเกรงขามอย่างยิ่ง และวันนี้ผมก็จะพาท่านเดินทางไปเที่ยวชมกัน

 

การเดินทางไป เทวสถาน อุทยานพระพิฆเนศ ฉะเชิงเทรา

ให้ใช้เส้นทางเดินทางไป อำเภอบางคล้า

ให้ใช้เส้นทางเดินทางไป อำเภอบางคล้า

เทวสถานแห่งนี้ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง ตำบลคลองเขื่อน อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา การเดินทาง ให้เดินทางมาตามเส้นทางไปอำเภอบางคล้า ผ่านตลาดน้ำบางคล้า ผ่านวัดปากน้ำ (โจ้โล้)พระอุโบสถสีทอง แล้วตรงไปตามเส้นทางไม่ต้องเลี้ยวโค้งไปตามถนนนะครับ ผ่านวัดปากน้ำโจ้โล้ ที่ตั้งด้านซ้ายโบสถ์สีทองชัดเจน แล้วจะเห็นถนนเส้นเล็กๆ เส้นหนึ่ง ก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย จะมีป้ายบอกเป็นระยะๆ ขับมาเรื่อยๆ จะข้ามแม่น้ำบางปะกงก็เป็นอันว่ามาถูกทางและจะมองเห็นองค์พระพิฆเนศองค์ยืนฝั่งซ้ายมือ เห็นมาแต่ไกลเลยครับ และก็จะมีป้ายบอกทางชัดเจน ถ้าถึงแม่น้ำบางปะกง ก็เป็นอันว่าไม่หลงทางแล้วหล่ะครับ

เข้าสู่เทวสถาน อุทยานพระพิฆเนศ

เข้าสู่เทวสถาน อุทยานพระพิฆเนศ

ถ้าจะถามว่า การเดินทางมาครั้งนี้ง่าย ก็ถือว่าไม่ยากครับ เพราะมีการติดตั้งป้ายเส้นทางตลอดเส้นทาง ผมว่าท่านที่จะมา ไม่หลงทางแน่นอนครับ

ลานจอดรถด้านหน้าเทวรูปพระพิฆเนศ

ลานจอดรถด้านหน้าเทวรูปพระพิฆเนศ

บริเวณลาดจอดรถค่อนข้างกว้างขวาง อีกทั้งถนนที่เข้ามาค่อนข้างกว้างใหญ่ ถัดขึ้นไปก็มีจุดจอดรถบัส เป็นการสร้างพื้นที่สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวได้ปริมาณมากๆเลยหล่ะครับ ส่วนด้านซ้ายมือของรูป (แต่ผมไม่ได้ถ่ายรูปมา) จะเป็นร้านค้า ประเภทสินค้าเกษตรของคนพื้นที่ จะมีผลไม้ต่างๆ รวมถึงอาหารการกินและเครื่องดื่ม ยังไงก็อย่าลืมอุดหนุนกันด้วย เพื่อเศรษฐกิจที่ดีสู่ท้องถิ่น

 

พระพิฆเนศองค์ยืนเนื้อสำริด ปางสัมฤทธิ์ สำเร็จ สมปรารถนา องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

พระพิฆเนศองค์ยืนเนื้อสำริด ปางสัมฤทธิ์ สำเร็จ สมปรารถนา องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

พระพิฆเนศองค์ยืนเนื้อสำริด ปางสัมฤทธิ์ สำเร็จ สมปรารถนา องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

พระพิฆเนศองค์ยืนเนื้อสำริด ปางสัมฤทธิ์ สำเร็จ สมปรารถนา องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

ประวัติการสร้างพระพิฆเนศองค์ยืนเนื้อสำริด ปางสัมฤทธิ์ สำเร็จ สมปรารถนา องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

องค์พระพิฆเนศเป็นเนื้อสำริด มีความสูง 39 เมตร มี 4 กร แต่ละกรจะถือผลไม้ ประกอบด้วย มะม่วง กล้วย อ้อย และขนุน ซึ่งเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของเมืองแปดริ้ว ฉะเชิงเทรา เริ่งก่อสร้างองค์พระพิฆเนศตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 ซึ่งใช้วิธีการหล่อชิ้นส่วนองค์พระพิฆเนศ จำนวนทั้งสิ้น 854 ชิ้นส่วน ก่อนที่จะนำมาประกอบเป็นรูปร่าง ซึ่งในแต่ละครั้งที่มีการหล่อชิ้นส่วนองค์พระพิฆเนศ จะมีพระเกจินั่งปรกอธิษฐานจิต และในแต่วาระการหล่อ ก็มีการอัญเชิญเทพเจ้าอย่างถูกต้องตามหลักพิธีกรรม โดยมีพระราชครูวามเทพมุนี เป็นหัวหน้าคณะพราหมณ์ และได้วางศิลาฤกษ์ในวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

พื้นที่ทั้งหมดของเทวสถานแห่งนี้มีทั้งสิ้น 25 ไร่ แบ่งเป็นสัดเป็นส่วนเพื่อรองรับผู้มีจิตศรัทธา ไม่ว่าจะเป็นสถานที่จอดรถ สวนหย่อม ร้านค้า และส่วนบูชาวัตถุมงคล

สถานที่แห่งนี้ ได้รับการตั้งให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำของจังหวัดฉะเชิงเทราในปัจจุบัน

อุทยานพระพิฆเนศ องค์ยืน 3

อุทยานพระพิฆเนศ องค์ยืน 6

การบูชาพระพิฆเนศ

การบูชาพระพิฆเนศ ให้ทำการจุดธูป 9 ดอก จุดเทียนหรือตะเกียงน้ำมัน ต่อหน้าเทวรูป และพนมมือกล่าวคำบูชาว่า “โอม ศรี คเณศานะ นะมะฮา” และให้ทำการแผ่เมตตาและขอพรตามประสงค์ ส่วนเรื่องเครื่องสักการะ ถ้าจะเตรียมมา จะได้แก่ น้ำสะอาด น้ำมะพร้าว และถ้ามีเครื่องสังเวย ห้ามใช้เนื้อสัตว์ ให้ทำการถวายด้วยผลไม้สุก เช่น กล้วย มะม่วง มะพร้าว อ้อย ส่วนขนมก็จะเป็นประเภท ขนมถ้วยฟู ทองหยิบ ทองหยอด ลูกชุบ ธัญญาหารต่างๆ รวมถึงสมุนไพร ส่วนดอกไม้ให้ใช้ดอกไม้สีสด เช่น ดอกชบา ดอกดาวเรือง ดอกเบญจมาศ ยกเว้นดอกเยอบีร่าเป็นดอกไม้ต้องห้าม

บริเวณด้านหน้าองค์พระพิฆเนศ จะมีรูปปั้นหนู ซึ่งตามความเชื่อโบราณเชื่อกันว่า หนูเป็นสัตว์บริวารของพระพิฆเนศ จึงมักจะกล่าวกันว่าให้ผู้ที่ศรัทธาเข้าไปกระซิบขอพรต่อพระพิฆเนศที่หูของหนู โดยการปิดหูของหนูอีกข้างหนึ่งไว้ โดยเชื่อกันว่าหนูบริวารจะคอยไปกล่าวเตือนให้พระพิฆเนศประทานความสำเร็จให้กับผู้ศรัทธาคนนั้น

ดอกเยอบีร่า ดอกไม้ต้องห้าม ไม่ให้นำมาบูชาพระพิฆเนศ

ดอกเยอบีร่า ดอกไม้ต้องห้าม ไม่ให้นำมาบูชาพระพิฆเนศ

ดอกเยอบีร่า เป็นดอกไม้สีสดที่ห้ามนำมาบูชาพระพิฆเนศ เนื่องมาจากความเชื่อกันว่าเป็นดอกไม้ที่เกิดมาจากการแปลงร่างของอสูร ซึ่งมีปรากฏในตำนานนิกายที่มีการนับถือพระวิษณุ แต่ก็เป็นความเชื่อที่เล่าต่อๆกันมา จะถูกผิดอย่างไร ก็ขอเลือกตามแนวทางที่สบายใจกันที่สุดแล้วกันนะครับ

เทวรูปพระศิวะและพระแม่อุมาเทวี

เทวรูปพระศิวะและพระแม่อุมาเทวี

ภายในเทวสถาน อุทยานพระพิฆเนศ จะมีเทวรูปอยู่ 2 องค์ คือพระศิวะและพระแม่อุมาเทวี ซึ่งตามตำนานกล่าวว่า เทพทั้งสอง เป็นพระบิดาและพระมารดาของพระพิฆเนศนั่นเอง

>>>อ่านตำนานพระพิฆเนศที่นี่ <<<

พระพิฆเนศปางประจำวันเสาร์

พระพิฆเนศปางประจำวันเสาร์

นอกจากเทวรูปองค์ยืนขนาดใหญ่แล้ว ในพื้นที่เทวสถาน ก็ยังมีรูปปั้นพระพิฆเนศปางประจำวันเกิดต่างๆ ครบทุกองค์ แต่รูปด้านบนผมเอามาลงไว้เพียงรูปเดียว เป็นปางประจำวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันเกิดของผมเอง  แต่ผมจะเอารูปมาลงไว้ในบทความต่อๆไป เกี่ยวกับปางประจำวันเกิดอีกครั้งนะครับ

กล่าวส่งท้าย

ในเรื่องความเชื่อ ถ้าจะกล่าวตามหลักพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าให้ใช้สติและปัญญาในการเชื่อ ตามคำสอนเรื่องกาลามสูตร แต่ในสังคมก็ยังต้องมีที่พึ่งทางใจ เพื่อให้เกิดความสบายใจ สามารถดำรงชีวิต เลี้ยงชีพต่อไปได้ จึงได้มีการนับถือเทพเจ้า หรือเทวดาต่างๆ   ในเรื่องเกี่ยวกับเทวดานั้นก็มีระบุไว้ในคำสอนของพระพุทธศาสนาว่ามีอยู่จริง และเทวดาทั้งหลายก็เป็นผู้ที่ปฏิบัติดีงามจึงได้เกิดมาเป็นเทวดา  สำหรับความเชื่อของผมเองถือว่าการกราบไหว้บูชาก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิดอะไร ถือว่าเป็นการบูชาความดีงามของเทวดาองค์หนึ่ง เพื่อให้เรายึดถือปฏิบัติ ดำรงตนให้ทำความดี โดยยึดถือเทวดา (พระพิฆเนศ) เป็นแบบอย่าง โดยไม่ทิ้งหลักคำสอนทางพระพุทธศานา ไม่ใช่กราบไหว้อย่างเดียวแล้วไม่ทำดี หรือทำมาหากิน นั่นก็คงจะไม่มีเทวดาองค์ไหนประทานพรความสำเร็จให้อย่างแน่นอนครับ

หลวงพ่อราชพรหมยาน (ฤาษีลิงดำ) ได้กล่าวถึงพระพิฆเนศว่าเป็นเทวดาองค์หนึ่ง ท่านกล่าวไว้อย่างไร อ่านได้ที่นี่ ===> ตำนานพระพิฆเนศ

อุทยานพระพิฆเนศ จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นสถานที่สร้างองค์พระพิฆเณศ หรือพระพิฆเณศวร เนื้อสำริด องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ท่ามกลางธรรมชาติทางการเกษตรของชาวบ้านในละแวกนั้น เป็น สัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดินไทย เนื่องจากประติมากรรมพระพิฆเนศร์องค์นี้มีองค์ประกอบที่โดดเด่น คือ พระหัตถ์ 4 ถือพืชพรรณธัญญาหาร ดังนี้

1.กล้วย 2.ยอดอ้อย 3.ขนุน 4.มะม่วง และที่พระบาทมีหนูกอดลูกมะพร้าว ซึ่งมีความหมาย คือ ความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน

พระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ตอนหนึ่งความว่า
“…ชนใดหวังข้ามอุปสรรค พึงพำนักพิฆเนศนาถา
สำเร็จเสร็จสมดังจินดา พระองค์พาข้ามพิฆนะจัญไร…”

จึงมีความเชื่อกันว่า พระพิฆเนศเป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จที่จะดลบันดาลความสุขมาให้ผู้ศรัทธา

สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จทุกประการนะครับ

พระพิฆเนศปางประจำวันเกิดต่างๆ

https://youtu.be/KgnJnCWhgeo

ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด

ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108

หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory

ร่วมแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยววัดด้วยกัน ได้ที่ กลุ่มรวมพลคนชอบเที่ยววัด