เที่ยว ทำบุญ นมัสการรอยพระพุทธบาท วัดพระบาทน้ำพุ

By | May 2, 2014


https://youtu.be/4ZhAIDC9-NY

เที่ยว ทำบุญ นมัสการรอยพระพุทธบาท วัดพระบาทน้ำพุ เนื่องจากวันที่ 1 พฤษภาคม เป็นวันแรงงานแห่งชาติ และผมก็เป็นพนักงานบริษัทก็ได้มีโอกาสหยุดงาน จึงได้มีโอกาสเดินทางไปที่จังหวัดลพบุรี โดยมีเป้าหมายไปที่ วัดพระพุทธบาทน้ำพุ หลายๆคนคงจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุที่ได้อุปการะผู้ป่วยติดเชื่อเอชไอวี หรือเชื่อเอดส์ โดยมีเจ้าคุณอลงกต เจ้าอาวาส วัดพระบาทน้ำพุ เป็นผู้ที่มีความเมตตากรุณาต่อผู้ป่วยทั้งหลาย จนมีข่าวโด่งดังมากมายถึงความเมตตาของท่าน ปัจจุบันพื้นที่วัดก็มีการพัฒนาไปมากมาย และผมก็ถือโอกาสนี้พาไปเที่ยวชม และทำบุญกันนะครับ

ก่อนที่จะเดินทางไปที่วัดพระบาทน้ำพุ ผมก็ได้ทราบข้อมูลว่า น้อยคนนักที่จะรู้ว่าที่วัดแห่งนี้นอกจากจะเป็นสถานที่อุปการะผู้ป่วย แต่ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพุทธทั้งหลายให้ความเคารพศรัทธา นั่นก็คือ “รอยพระพุทธบาท” จากหนังสือตามรอยพระพุทธบาท ของพระชัยวัฒน์ อชิโต ก็ได้กล่าวถึงรอยพระพุทธบาทไว้เช่นกัน

ดังนั้นแล้ว นอกจากการเดินทางมาท่องเที่ยวและทำบุญที่วัดพระบาทน้ำพุแล้ว เรายังจะได้ไปนมัสการรอยพระพุทธบาทด้วยนะครับ

วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งอยู่เชิงเขาน้ำพุ หมู่ที่ 3 ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี การเดินทางก็ง่ายมากครับ ถ้ามาจากกรุงเทพก็วิ่งตามถนนพหลโยธิน หรือทางหลวงหมายเลข 1 ไปเรื่อยๆเลยนะครับ ให้ดูตามแผนที่เลยครับ

แผนที่เดินทางไปวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี

แผนที่เดินทางไปวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี

เส้นทางการเดินทางจะไปทาง อ.พระพุทธบาทเลยนะครับ มีป้ายบอกทางชัดเจน

เส้นทางการเดินทางจะไปทาง อ.พระพุทธบาทเลยนะครับ มีป้ายบอกทางชัดเจน

ถ้าเห็นทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธิน ก็เป็นว่ามาถูกทางแล้วครับ

ถ้าเห็นทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธิน ก็เป็นว่ามาถูกทางแล้วครับ

จุดหลักที่สำคัญคือจะผ่านวงเวียนพระนารายณ์ แล้วก็ให้ขับไปทางอำเภอโคกสำโรงนะครับ จะเป็นเส้นทางหลวงหมายเลข 1 เหมือนเดิม

บริเวณวงเวียนพระนารายณ์

บริเวณวงเวียนพระนารายณ์

เมื่อถึงวงเวียนพระนารายณ์ ก็ให้วนไปทางขวาไปทางอำเภอโคกสำโรง ขับไปสักพักจะถึงแยกเอราวัณ เป็นสี่แยกไฟแดง แล้วให้ขับตรงไป เราจะเห็นป้ายบอกทางไปวัดพระบาทน้ำพุตลอดทาง และจะมีป้ายบอกให้กลับรถ เนื่องจากวัดพระบาทน้ำพุอยู่คนละฝั่งถนน บริเวณทางกลับรถจะเป็นวิทยาลัยเทคโนโลยีละโว้

บริเวณทางกลับรถ จะอยู่บริเวณเทคโนโลยีละโว้

บริเวณทางกลับรถ จะอยู่บริเวณเทคโนโลยีละโว้

ขับไปอีกเล็กน้อยไม่ถึง 1 กิโลเมตรก็จะมีป้ายบอกทางให้เลี้ยวซ้ายไปวัดพระบาทน้ำพุครับ

ปากทางเข้าจะเป็นซุ้มประตูวัดหนองบัวขาว

ปากทางเข้าจะเป็นซุ้มประตูวัดหนองบัวขาว

ทางเข้าวัดเป็นซุ้มประตูของวัดหนองบัวขาว แล้วขับไปอีกราวๆ 6 กิโลเมตร ก็จะถึงวัดพระบาทน้ำพุแล้วครับ

ป้ายทางเข้าวัดพระบาทน้ำพุ

ป้ายทางเข้าวัดพระบาทน้ำพุ

ก่อนถึงซุ้มประตูวัดพระบาทน้ำพุ จะผ่านวัดถ้ำพิบูลธรรมคีรี อยู่ทางขวามือครับ

ก่อนถึงซุ้มประตูวัดพระบาทน้ำพุ จะผ่านวัดถ้ำพิบูลธรรมคีรี อยู่ทางขวามือครับ

ซุ้มประตูวัดพระบาทน้ำพุ

ซุ้มประตูวัดพระบาทน้ำพุ

ระหว่างทางที่ขับรถเข้ามาจนถึงวัดพระบาทน้ำพุ ผมรู้สึกถึงความร่มรื่นของธรรมชาติตลอดเส้นทาง เพราะพื้นที่โดยรอบเป็นภูเขา ประกอบกับช่วงที่ผมเดินทางมาก็เป็นช่วงที่มีฝนตกอยู่ระยะหนึ่ง ทำให้ดูแล้วไม่แห้งแล้งเลย มีสีเขียวของต้นไม้ให้เห็นมากมายดูแล้วสบายตาดีจริงๆ และยิ่งมาถึงในบริเวณวัด ก็ยิ่งมีความสวยงาม จัดพื้นที่ได้ลงตัว สวยงาม เนื่องจากมีผู้ดูแลเอาใจใส่ ทำให้วัดดูแล้วสะอาดตามาก โดยตัวผมเองไม่คิดว่าที่นี่จะร่มรื่นขนาดนี้ ถ้าพูดตามภาษาวัยรุ่น มันช่างรู้สึกฟินดีจริงๆครับ

ป้ายแจ้งสถานที่ในวัดพระบาทน้ำพุ

ป้ายแจ้งสถานที่ในวัดพระบาทน้ำพุ

พื้นที่ในวัดจัดไว้ได้ลงตัวสวยงามมาก ผมได้ลืมเรื่องราวของผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีไปเลย… เนื่องจากข้อมูลผู้ติดเชื้อเอชไอวี หลายๆคนคงทราบเรื่องดีอยู่แล้วนะผมก็เลยขอพาชมในส่วนอื่นๆ ที่สวยงามของวัดพระบาทน้ำพุแล้วกัน เพราะผมคิดว่าคงมีหลายๆคนที่ไม่เคยเห็นภาพสวยงามแบบนี้ไปชมกันต่อเลยครับ

เมื่อจอดรถแล้วก็จะผ่านจุดแรกคือ ศาลาธรรมสังเวช คือสถานที่ ที่ทำฝึกให้เราเข้าใจถึงความตายเป็นสิ่งที่แน่นอน ไม่มีใครรอดพ้น ด้านในมีศพผู้ป่วยอุทิศไว้ให้ทางวัด แต่ผมไม่ขอถ่ายให้ชมกันนะครับ ฮ่าๆ

ศาลาธรรมสังเวช วัดพระบาทน้ำพุ

ศาลาธรรมสังเวช วัดพระบาทน้ำพุ

ด้านบนเป็นรูปทางเข้าศาลาธรรมสังเวช  ที่มองเห็นคนยืนอยู่นั่นก็คือศพ ที่ผู้ตายบริจาคไว้ให้วัด ใครกล้าเข้าก็เข้าไปนะครับ ผมก็เข้าไปเหมือนกัน ไปดูให้ปลง อย่าไปกลัวอะไรเพราะเขาได้อุทิศกายเขาให้เป็นการศึกษาอยู่แล้วครับ

พระพุทธประธานในศาลาธรรมสังเวช

พระพุทธประธานในศาลาธรรมสังเวช

ด้านหลังพระประธานในศาลาธรรมสังเวช ก็เป็นกระดูกของผู้ป่วยเอดส์เต็มไปหมดเลย ผมเข้ามาก็รู้สึกวังเวงดี ถ้ามากลางคืนก็ตัวใครตัวมันนะครับผม

ประวัติ ทศชาติชาดกให้อ่านระหว่างทางเดิน

ประวัติ ทศชาติชาดกให้อ่านระหว่างทางเดิน

บรรยากาศในวัดพระบาทน้ำพุ #1

บรรยากาศในวัดพระบาทน้ำพุ #1

เราจะพบสุนัขมากมายในวัด ผมคิดว่าน่าจะมาจากมีคนมาปล่อย ทางวัดก็ได้ทำการอนุเคราะห์ ความคิดเห็นส่วนตัวว่าไม่ควรนำมาปล่อยให้เป็นภาระของวัด เดี๋ยวจะบาปโดยไม่รู้ตัว ถ้าเราเดินผ่านสุนัขในวัดก็ไม่ต้องกลัวมันจะกัดนะครับ ผมรู้สึกว่ามันมีมิตรภาพให้เรา

บรรยากาศในวัดพระบาทน้ำพุ #2

บรรยากาศในวัดพระบาทน้ำพุ #2

บรรยากาศในวัดพระบาทน้ำพุ #3

บรรยากาศในวัดพระบาทน้ำพุ #3

บรรยากาศในวัดพระบาทน้ำพุ #4

บรรยากาศในวัดพระบาทน้ำพุ #4

บรรยากาศในวัดพระบาทน้ำพุ #5

บรรยากาศในวัดพระบาทน้ำพุ #5

บรรยากาศในวัดพระบาทน้ำพุ #6

บรรยากาศในวัดพระบาทน้ำพุ #6

สถานที่รับบริจาคสิ่งของ เพื่ออุปการะผู้ป่วยครับ

สถานที่รับบริจาคสิ่งของ เพื่ออุปการะผู้ป่วยครับ

จัดสถานที่ให้ความรู้ นั่งอ่านหนังสือไว้ด้วยครับ ร่มรื่นดีจริงๆ

จัดสถานที่ให้ความรู้ นั่งอ่านหนังสือไว้ด้วยครับ ร่มรื่นดีจริงๆ

บริเวณที่นั่งพักผ่อนในบริเวณวัดครับ

บริเวณที่นั่งพักผ่อนในบริเวณวัดครับ

บันไดทางขึ้นพระอุโบสถ วัดพระบาทน้ำพุ

บันไดทางขึ้นพระอุโบสถ วัดพระบาทน้ำพุ

จุดหลักอีกจุดหนึ่งของวัดพระบาทน้ำพุคือพระอุโบสถ ผมเดินมาถึงจุดนี้ก็ได้พบกับความสวยงามของบันไดทางขึ้นไปพระอุโบสถ ซึ่งมีรูปปั้นเทวดาทั้ง 2 ข้างทาง เห็นแล้วได้ความรู้สึกที่ดีถึงศิลปะที่จัดสร้างไว้ ดูแล้วก็ไม่ได้สูงเท่าไหร่นัก น่าจะไม่เกิน 200 ขั้น เชิญชวนให้ขึ้นไปกันนะครับ เพื่อไปกราบพระประธานในพระอุโบสถด้านบน และชมทิวทัศน์อันสวยงามด้วยครับ

วิหารพุทธสาวก

วิหารพุทธสาวก

เมื่อเดินมาถึงด้านบน ก็จะถึงวิหารพุทธสาวกก่อนครับ

ด้านในวิหารพุทธสาวก

ด้านในวิหารพุทธสาวก

บรรยากาศด้านบนเมื่อมองลงไปด้านล่าง

บรรยากาศด้านบนเมื่อมองลงไปด้านล่าง

พระอุโบสถ วัดพระบาทน้ำพุ

พระอุโบสถ วัดพระบาทน้ำพุ

ถัดจากวิหารพุทธสาวก ก็จะเป็นที่ตั้งของพระอุโบสถ วัดพระบาทน้ำพุครับ

พระประธานด้านในพระอุโบสถ

พระประธานด้านในพระอุโบสถ

บรรยากาศด้านบน จะมีรูปปั้นเทวดารายล้อมไปทั่วบริเวณ

บรรยากาศด้านบน จะมีรูปปั้นเทวดารายล้อมไปทั่วบริเวณ

หลังจากที่เราได้กราบนมัสการพระประธานในพระอุโบสถแล้ว ผมจะพาเดินทางไปกราบพระปฐมพุทธประดิษฐานบารมี ซึ่งจะเดินขึ้นไปด้านบนอีกเล็กน้อย ผมรู้สึกถึงบรรยากาศอันร่มรื่นของบริเวณวัดมากๆ พื้นที่มีสีเขียวชอุ่มของต้นไม้ ตลอดทางจะมีรูปปั้นเทวดาวนเวียนมากมายเลยครับ

ทางเดินขึ้นไปกราบนมัสการพระปฐมพุทธประดิษฐานบารมี

ทางเดินขึ้นไปกราบนมัสการพระปฐมพุทธประดิษฐานบารมี

พระปฐมพุทธประดิษฐานบารมี

พระปฐมพุทธประดิษฐานบารมี

ด้านบนที่ประดิษฐานของ พระปฐมพุทธประดิษฐานบารมี

ด้านบนที่ประดิษฐานของ พระปฐมพุทธประดิษฐานบารมี

โดยรอบวิหารด้านบนนี้ จะเป็นทางเดินที่มีรูปปั้นของเทวดาตลอดเส้นทางเลยครับ สวยงามมากๆ

ภายในวิหาร พระปฐมพุทธประดิษฐานบารมี

ภายในวิหาร พระปฐมพุทธประดิษฐานบารมี

ทางเดินโดยรอบวิหาร จะวนเวียนถึงกันหมดเลยครับ

ทางเดินโดยรอบวิหาร จะวนเวียนถึงกันหมดเลยครับ

หลังจากที่ผมได้เดินขึ้นไปกราบนมัสการพระปฐมพุทธประดิษฐานบารมีแล้ว ผมก็จะเดินย้อนกลับมาทางพระอุโบสถเพื่อเดินทางไปกราบนมัสการรอยพระพุทธบาทต่อครับ

ทางเดินย้อนกลับมาเพื่อไปกราบนมัสการรอยพระพุทธบาท

ทางเดินย้อนกลับมาเพื่อไปกราบนมัสการรอยพระพุทธบาท

การเดินทางมานมัสการกราบรอยพระพุทธบาทนั้น เราสามารถนำรถขึ้นมาได้ แต่เนื่องจากผมได้เดินดูบรรยากาศในบริเวณวัด ก็เลยไม่ได้นำรถขึ้นมาด้วย เพื่อจะได้ซึมซับบรรยากาศให้ได้มากที่สุด แต่ถ้าได้เดินกันก็อย่าลืมพกน้ำดื่มมาด้วย เพราะได้เหงื่อพอสมควร ถ้าไม่ได้นำมาก็ให้ซื้อบริเวณด้านล่างได้เลยครับ เพราะมีร้านสะดวกซื้อ 108 Shop บริการอยู่

ทางเดินไปมณฑปที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท

ทางเดินไปมณฑปที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท

ผมใช้เวลาเดินมาเล็กน้อย ก็จะมองเห็นมณฑปที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทไว้ครับ

มณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาท วัดพระบาทน้ำพุ

มณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาท วัดพระบาทน้ำพุ

รอยพระพุทธบาท วัดพระบาทน้ำพุ #1

รอยพระพุทธบาท วัดพระบาทน้ำพุ #1

รอยพระพุทธบาท วัดพระบาทน้ำพุ #2

รอยพระพุทธบาท วัดพระบาทน้ำพุ #2

 

เรื่องราวความเป็นมาของรอยพระพุทธบาท วัดพระบาทน้ำพุ

เมื่อได้กล่าวถึงวัดพระบาทน้ำพุ ผมคิดว่าน้อยคนนักที่จะรู้ว่ามีรอยพระพุทธบาทให้เรากราบนมัสการ เพราะผู้คนก็จะนึกไปถึงเรื่องผู้ป่วยเอดส์เป็นส่วนใหญ่ และผมก็เคยคิดเช่นนั้นมาก่อน จนกระทั่งผมได้มาอ่านหนังสือตามรอยพระพุทธบาท ของพระชัยวัฒน์ อชิโต ก็ได้ทราบว่าที่วัดพระบาทน้ำพุมีรอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่ สำหรับประวัติของรอยพระพุทธบาทนี้ไม่มีใครทราบอย่างแน่ชัด ซึ่งได้รับการบอกกล่าวจากคุณเฉลิมพล พลมุข ไว้ดังนี้

เนื่องจากวัดอยู่บนพื้นที่มีภูเขาล้อมรอบ เป็นลักษณะครึ่งวงกลม มีน้ำพุและรอยพระพุทธบาท จึงได้เรียกว่า “วัดพระบาทน้ำพุ” ซึ่งเดิมแล้วไม่มีคนรู้จัก หรือน้อยคนนักที่จะรู้จัก เนื่องจากทางขึ้นเป็นป่ารก ขึ้นไปได้ยาก แม้ชาวบ้านในบริเวณนี้ก็ไม่มีใครทราบ

ประมาณปี พ.ศ. 2535 คุณเฉลิมพล (ผู้พบรอยพระพุทธบาท) ได้เดินขึ้นข้ามเนินดิน และได้สังเกตุรอยลึกเข้าไปในเนินหิน มีใบไม้ ใบหญ้า ปกคลุมมากมาย และเมื่อได้ทำความสะอาดปัดกวาด ก็ได้มองเห็นรอยพระพุทธบาทชัดเจน มีขนาดกว้าง 9 นิ้ว ยาว 18 นิ้ว เป็นรอยพระพุทธบาทที่นิ้วพระบาททั้ง 5 เรียงยาวเท่ากัน และทั้ง 5 นิ้วมีลายก้นหอย ตรงกลางฝ่าพระบาทมีธรรมจักร โดยปลายพระบาทหันไปทางทิศตะวันออก

จากที่คุณเฉลิมพลได้คุ้นเคยและมีโอกาสไปกราบไหว้รอยพระพุทธบาทอยู่หลายแห่ง จึงแน่ใจว่า รอยที่เห็นนี้เป็นรอยพระพุทธบาทเก่าแก่ดั้งเดิม

ในแต่ละปี จะมีผู้เดินทางมาวัดพระบาทน้ำพุมากมายหลายแสนคน เพื่อมาทำการบริจาคปัจจัยและสิ่งของเพื่ออุปการะผู้ป่วย  จนไม่รู้เลยว่าที่วัดแห่งนี้มีรอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่ เมื่อได้เดินทางมาถึงวัดแล้ว ยังไงก็อย่าลืมไปกราบนมัสการรอยพระพุทธบาทเพื่อเป็นสิริมงคลต่อชีวิตด้วยนะครับ และช่วยบอกต่อไปยังเพื่อนๆ ญาติมิตรของเราด้วยว่ามีสิ่งสำคัญคือรอยพระพุทธบาท ที่เราไม่ควรพลาดจะไปกราบนมัสการ ปัจจุบันนี้รอยพระพุทธบาทได้ประดิษฐานไว้ในมณฑปที่ทางวัดได้สร้างครอบไว้ และมีทางขึ้นที่สะดวกมากขึ้น จึงทำให้ง่ายต่อผู้คนได้เดินทางมากราบไหว้ครับ

อ่านอานิสงส์การบูชารอยพระพุทธบาท ที่นี่

ข้อมูลอ้างอิง : www.manager.co.th

ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด

ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108

หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory

แบ่งปันเรื่องราวการท่องเที่ยววัดที่กลุ่ม รวมพลคนชอบเที่ยววัด

เว็บไซต์หลัก ที่ www.faiththaistory.com