เหตุการณ์อัศจรรย์ ในงานยกฉัตรบรรจุพระธาตุเจดีย์หลวงปู่มั่น วัดภูริทัตตถิราวาส

https://youtu.be/wqwBB3o38Q0

วันนี้ผมขอนำเรื่องราวอัศจรรย์ เป็นประสบการณ์จากผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ชื่อว่า คุณ“Sahai Dhamma” ซึ่งผมอ่านแล้ว รู้สึกปิติอย่างมาก จึงขอบันทึกเรื่องราวนี้ไว้เป็นประวัติศาสตร์อีกครั้ง

เป็นเหตุการณ์ที่คุณ “Sahai Dhamma” ได้ไปอยู่ในพิธีงานยกฉัตร บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอัฐิธาตุของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ณ เจดีย์พิพิธภัณฑ์ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าภูริทัตตถิราวาส จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2560

คุณ Sahai Dhamma โพสเรื่องราวบน facebook

วัดป่าภูริทัตตถิราวาส หรือเดิมชื่อว่า วัดป่าบ้านหนองผือ เป็นวัดที่หลวงปู่มั่น ได้จำพรรษาเป็นเวลา 5 พรรษาสุดท้ายก่อนที่จะละสังขาร ที่วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร จึงถือเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในเส้นทางธรรมของหลวงปู่มั่น

เมื่อปีที่ผ่านมา คือ ปีพ.ศ. 2559 ผมเคยโพสบน Facebook เกี่ยวกับงานบุญสร้างพระเจดีย์และวัตถุมงคลที่ใช้บรรจุในพระเจดีย์แห่งนี้ไว้ด้วย ผมได้เดินทางไปทำบุญในการสร้างพระเจดีย์ ที่วัดธรรมมงคล กรุงเทพฯ และได้รับวัตถุมงคลพระผงหลวงปู่มั่นมาเป็นที่ระลึกจำนวนหนึ่ง โดยผมได้แบ่งแจกฟรีเป็นอภินันทการให้กับแฟนเพจไปจำนวน 17 ท่าน ไว้บูชาด้วย

วัตถุมงคลนี้ เป็นวัตถุมงคลที่ได้รับการอธิษฐานจิตอย่างต่อเนื่องจากหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร ซึ่งท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ที่ได้อุปัฏฐากหลวงปู่มั่นอย่างใกล้ชิดถึง 4 ปี ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ที่ยังทรงขันธ์อยู่ในปัจจุบัน ด้วยอายุถึง 97 ปี ใน ปีพ.ศ.2560

เมื่อกล่าวถึงหลวงพ่อวิริยังค์ ผมขออนุญาตนำเรื่องราวประสบการณ์ของผมเองเมื่อได้ทำบุญกับท่านครั้งแรกมาเล่าให้ฟัง

ผมเคยเดินทางไปทำบุญตักบาตรกับท่านที่ วัดศรีรัตนธรรมาราม จ.สมุทรปราการ ในงานสอนสมาธิแก่คณะสงฆ์

ครั้งนั้น มีญาติโยมเดินทางไปทำบุญตักบาตรกับท่านจำนวนมาก เพียงแค่ผมเห็นหลวงพ่อวิริยังค์ครั้งแรก ก็ทำเอาผมแทบจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เพราะปลื้มปิติในหลวงพ่อวิริยังค์ ด้วยความเคารพและศรัทธายิ่ง

แอดมินไปตักบาตรหลวงพ่อวิริยังค์ ที่วัดศรีรัตนธรรมาราม สมุทรปราการ

ท่านเป็นพระที่ชราภาพ อายุเกือบ 100 ปี แต่ท่านก็ยังคงเดินรับบิณฑบาตรจากเหล่าสาธุชนจนครบทุกคน โดยมีเพียงพระอุปัฏฐากคอยถือบาตรและคอยพยุงท่านเท่านั้น

เนื่องด้วยมีเหล่าสาธุชน เดินทางมาทำบุญตักบาตรกับท่านเป็นจำนวนมาก บางวันถึง 1 หมื่นคน ทำให้ใช้เวลานานเป็นชั่วโมง เมื่อเวลาสาย อากาศก็เริ่มร้อน แสงแดดก็จ้า แต่หลวงพ่อวิริยังค์ ท่านก็ยังคงเดินรับบิณฑบาต ที่สาธุชนตั้งใจเดินทางมาในครั้งนั้น จนครบ

ผมเห็นจีวรของท่านเปียกชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ แต่ท่านก็ไม่ได้แสดงอาการเหน็ดเหนื่อยให้เห็นแม้แต่น้อย จนผมน้ำตาไหลออกมาอีกครั้งด้วยความปิติอย่างไม่รู้ตัว

หลังจากทำพิธีตักบาตรจนครบแล้ว หลวงพ่อวิริยังค์ ก็ยังเทศนาธรรมต่ออีกด้วย เสียงของท่านดังชัดเจน ไม่น่าเชื่อว่าท่านจะอายุ เกือบ 100 ปี

หลวงพ่อวิริยังค์ เดิรับบิณฑบาตจากสาธุชน ที่วัดศรีรัตนธรรมาราม

หลวงพ่อวิรยังค์ ได้เข้ามาสู่วงศ์พระพุทธศาสนาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ด้วยเพราะเกิดเรื่องราวอัศจรรย์ทางจิต ทำให้ท่านตัดสินใจบวชโดยมีหลวงปู่กงมา จิรปุญโญ เป็นพระอาจารย์ จนกระทั่งต่อมาได้อุปัฏฐากหลวงปู่มั่น อย่างใกล้ชิด

ตลอดระยะเวลาในพระพุทธศาสนา ท่านได้มุ่งมั่น ดำรงอยู่ในพระธรรมวินัยมาโดยตลอด อีกทั้งยังเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะที่ประเทศแคนาดา เพราะเป็นประเทศที่มีหลายเชื้อชาติพำนักอยู่นั่นเอง

ผมเคยเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงพ่อวิริยังค์ เมื่อครั้งที่ผมไปทำบุญกับท่านครั้งแล้ว ไว้บนเว็บไซต์ ท่านสามารถอ่านเรื่องราวได้ที่ลิ้งค์นี้ครับ >> www.faiththaistory.com/merrit-lp-viriyang

ต่อไป ผมจะขอนำเรื่องราวอัศจรรย์ประสบการณ์จากผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ชื่อว่า “Sahai Dhamma”ได้โพสเรื่องราว ที่ไปร่วมพิธีงานยกฉัตร บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอัฐิธาตุของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ณ เจดีย์พิพิธภัณฑ์ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าภูริทัตตถิราวาส จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2560

เมื่อผมได้อ่านก็เกิดความปิติอย่างมาก จึงขอนำเรื่องราวนี้มาเผยแพร่ให้ท่านผู้ฟังได้รับฟังกันในวันนี้ ขออนุโมทนา กับคุณ Sahai Dhamma มา ณ โอกาสนี้ ครับ

รายละเอียดมีอยู่ว่า …

วันนี้เกิดปรากฏการณ์มหัศจรรย์ที่งานยกฉัตรเจดีย์และพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดป่าภูริทัตตถิราวาส หนองผือนาใน ซึ่งเป็นครั้งที่ปลื้มปิติที่สุดในชีวิต ขนลุกชันจนน้ำตาเอ่อคลอเบ้า

คุณ Sahai Dhamma ที่วัดป่าภูริทัตตถิราวาส

นับเป็นงานบุญครั้งประวัติศาสตร์ของพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ที่รวมความเป็นที่สุดมหามงคลแห่งยุคนี้เลยก็ว่าได้

ในหลวง รัชกาลที่ 10 ได้เสด็จมาทรงประกอบพิธียกฉัตรพระมหาเจดีย์พิพิธภัณฑ์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอัฐิธาตุหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ณ วัดภูริทัตตถิราวาส บ้านหนองผือ ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ในวันศุกร์ ที่ ๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๐ เวลา ๑๕.๕๕ น. โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อัมพโร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นประธานฝ่ายบรรพชิต

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อัมพโร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นประธานฝ่ายบรรพชิต

สมเด็จพระวันรัต(จุนท์ พรหมคุตโต) และหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร ซึ่งท่านเป็นพระอุปถัมภ์ในการก่อสร้างพระมหาเจดีย์พิพิธภัณฑ์องค์นี้ และพ่อแม่ครูอาจารย์ลูกศิษย์กรรมฐานสายหลวงปู่มั่นอีกมากมาย มาร่วมในงานพิธี

โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

ซึ่งเหตุการณ์ในขณะที่ ในหลวง รัชกาลที่ 10 ทรงพระราชพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอยู่นั้น จากท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งมีแสงแดดส่องจ้าอยู่นั้น กลับพลันมีเมฆลอยมาบดบัง ตามมาด้วยเสียงฟ้าร้องฟ้าคำรามดังขึ้นหนึ่งครั้ง เมฆลอยมาบดบังแสงแดด และมีลมพัดมาให้ร่มเย็นกันทั่วทั้งบริเวณ ต้นไม้โดยรอบเจดีย์สั่นพริ้วไหวพร้อมโปรยปรายดอกและใบเล็กๆ ทะยอยร่วงหล่นลงมาไม่ขาดสาย เป็นเช่นนี้อยู่ราว 10-15 นาที ดินฟ้าอากาศก็พลิกกลับมาเป็นปกติเช่นเดิม

หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโรกับสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อัมพโร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

ระหว่างนั้นผมนั่งภาวนาอยู่ ก็เกิดอาการขนลุกและน้ำตาแห่งความปิติก็เอ่อคลอเบ้าตาโดยไม่ทันรู้ตัว ลืมตาขึ้นมาดูเห็นคนอื่นๆ ก็มีอาการคล้ายๆกัน ปาฏิหาริย์นี้ชัดเจนมากๆ ท่านใดที่ได้มาร่วมงานคงจะสัมผัสได้กับตัวเองทุกคน ซึ่งไม่ต้องอธิบายอะไรก็เข้าใจกันได้เอง

ความประทับใจมากอีกครั้งหลังเสร็จพระราชพิธี ที่ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ท่านเสด็จออกมาทักทายอย่างใกล้ชิด และทรงแย้มพระสรวลให้ พสกนิกรชาวไทยใต้ร่มพระบารมีต่างเปล่งเสียง ทรงพระเจริญ ดังกึกก้องทั่วทั้งบริเวณ

ในหลวง รัชกาลที่ 10 เสด็จในพิธี

เกล้ากระผมขอน้อมอนุโมทนามหาบุญมหากุศลทั้งหมดทั้งมวลทั้งหลายที่เคยทำมาตั้งแต่อดีต จวบจนถึงขณะนี้ อุทิศแด่บิดามารดา พ่อแม่ครูอาจารย์ ญาติพี่น้อง มิตรสหายบริวาร ทั้งที่ยังมีชีวิต และที่ล่วงลับดับแล้ว รวมไปถึงสรรพสัตว์ทั้งมวล เจ้ากรรมนายเวร เจ้าที่เจ้าทาง นางฟ้าเทวดา สัมภเวสีผีไร้ญาติ รวมถึงทุกดวงวิญญาณทั้งสามแดนโลกธาตุ จงได้รับกุศลผลบุญนั้น เพื่อให้พ้นจากทุกข์ จนถึงเสวยวิมุติสุขด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นเทอญ น้อมกราบสาธุ สาธุ สาธุ

พระมหาเจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ประชาชนในพิธี

ทหารองครักษ์ในพิธี

เหตุการณ์อัศจรรย์จากท้องฟ้าแสงแดดจ้า พลันครึ้มลงมีลมพัดเย็น ดอกและใบไม้โปรยปรายนานกว่า 10 นาที ในช่วงทำพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

ภายในพระมหาเจดีย์

นี่ก็เป็นเรื่องราวดีๆ ที่คุณ Sahai Dhamma ได้โพสและแบ่งปันเรื่องราวไว้บนเฟสบุ๊ค รวมถึงภาพทุกภาพที่ผมนำมาลงไว้ ผมจึงขอขอบพระคุณและอนุโมทนา มา ณ โอกาสนี้

โอกาสต่อๆไป ผมจะนำเรื่องราวดีๆ มานำเสนออย่างต่อเนื่อง ฝากติดตามด้วยนะครับ… สวัสดีครับ