การเดินทางไป เขาคิชฌกูฏ จันทบุรี

การเดินทางไป เขาคิชฌกูฏ จันทบุรี มีความสะดวกมาก ใครจะเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวก็จะมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น และสามารถแวะท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆในเมืองจันทบุรีได้มากยิ่งขึ้น  จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (Motorway)  ผ่านอำเภอบ้านบึง มุ่งสู่อำเภอแกลง เมื่อพบกับสามแยก อำเภอแกลงให้เลี้ยวซ้าย ใช้ทางหลวงหมายเลข 3 จนถึง จันทบุรี รวมระยะทางประมาณ 230 กิโลเมตร

ก่อนเข้าเมืองจะถึงสี่แยกเขาไร่ยา  ถ้าเลี้ยวขวาจะเข้าสู่ตัวอำเภอเมือง จันทบุรี  ตรงไปจะไปจังหวัดตราด เลี้ยวซ้ายจะไปเขาคิชฌกูฏ ซึ่งมีระยะทางอีกประมาณ 17 กิโลเมตรเท่านั้น  จุดนี้มีป้ายชัดเจนไม่ต้องกลัวหลงทาง และที่สำคัญช่วงเทศกาลจะมีป้ายทางไปเขาคิชฌกูฏตลอดเส้นทาง

ขอแนะนำเลยนะครับว่า การขึ้นเขาคิชฌกูฏ ให้ใช้บริการรถกระบะขึ้นเขาจะดีที่สุด เพราะระยะทางไกลมาก ถ้าไม่ฟิตหรือมีเวลามากพอ ผมบอกเลยว่าลำบากสุดๆ

บริเวณแยกเขาไร่ยา จะมีป้ายบอกทางชัดเจน

ส่วนท่านที่เดินทางมาเหนื่อยๆ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารการกินนะครับ เพราะมีร้านค้าก่อนขึ้นสู่เขาคิชฌกูฏมากมายให้เติมพลังก่อนการเดินทาง

ภาพบรรยากาศร้านค้ามากมายก่อนการขึ้นเขาคิชฌกูฏ

ก่อนการขึ้นเขาคิชฌกูฏ ก็อย่าลืมแวะซื้อพลอยเพื่อทำการบูชารอยพระพุทธบาทหลวงกันนะครับ ราคาก็อยู่ที่ 3 ซอง 20 บาท และสิ่งที่นิยมใช้บูชาก็คือดอกดาวเรือง และธูปเทียน เส้นทางสู่ยอดเขาจะมีนักท่องเที่ยวและแสวงบุญ โปรยดอกดาวเรืองตลอดเส้นทาง ดูเหลืองอร่ามสวยงามดีครับยังไงก็เตรียมขึ้นไปด้วยนะครับ มีจำหน่ายทั่วไปเลยครับไม่ต้องกลัวขาดแคลน

คำอธิษฐานบูชาและคำแนะนำการบูชา ซึ่งจะได้รับจากร้านค้าที่จำหน่ายเครื่องบูชาดอกดาวเรืองและธูปเทียน

การขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทหลวง จะต้องขึ้นเขาที่มีความสูงมาก จึงมีรถกระบะคอยให้บริการอยู่ 2 ระยะ ค่าบริการจะอยู่ที่ระยะละ 50 บาท รวมค่าบริการทั้งขึ้นและลง จะตกอยู่ที่ราคา 200 บาทต่อท่าน  ยังไงก็ลองนั่งรถบริการดูนะครับ จะได้ลิ่มรสชาติความตื่นเต้นเพราะรถต้องใช้ความเร็วในการขึ้นเขาและลงเขา แนะนำให้ คนแก่ชราและเด็กเล็กนั่งหน้ารถนะครับ ห้ามมานั่งหลังกระบะเด็ดขาดเดี๋ยวจะเกิดอันตรายขึ้นได้

หลังจากที่นั่งรถบริการจนถึงจุดบริการสูงสุดแล้ว ซึ่งรถจะขึ้นต่อไปไม่ได้ต้องเดินขึ้นเท่านั้น สำหรับคนชราที่เดินไม่ไหว ก็จะมีบริการหาบขึ้นนะครับ ส่วนค่าบริการลองสอบถามดูกันได้ ก่อนการขึ้นเขาก็ให้ทำการอธิษฐานบูชาให้การขึ้นเขามีความปลอดภัยด้วยนะครับ

ตลอดเส้นทางขึ้นสู่เขาคิชฌกูฏ จะพบกับสีเหลืองอร่ามของดอกดาวเรือง ที่ผู้เดินทางโปรยไว้ และสิ่งที่หลายๆคนจะพบเห็นคือมักมีนักท่องเที่ยวนำธูปปักตามโขดหิน ซึ่งอาจจะเป็นความเชื่อว่าถ้าสามารถปักธูปไว้ได้จะมีความโชคดี

ตลอดเส้นทางจะพบเห็นผู้คนปักธูปไว้ตามโขดหิน ส่วนมากเราจะเคยเห็นการปักธูปจะเป็นลักษณะเหมือนค้ำยันก้อนหิน แต่ที่เขาคิชฌกูฏ เราจะได้เห็นการปักธูปที่แปลกตาไปอีกแบบ แต่ตัวผมก็ไม่ได้ลองทำ ท่านใดอยากลองทำ ก็ได้นะครับ

ระหว่างเส้นทางก็อย่าลืมที่จะใช้เหรียญเคาะระฆัง ตามความเชื่อที่ว่าเสียงระฆังจะดังไปถึงบนสวรรค์ให้เทวดารับรู้ว่าเราได้เดินทางมาทำบุญครั้งยิ่งใหญ่แล้ว…

นักเดินทางจะใช้เหรียญบาทเคาะระฆังจนสุดเส้นทาง

ตลอดเส้นทางจะมีจุดทำบุญและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จัดสถานที่ได้สวยงามและร่มรื่นดีมากๆครับ

ระหว่างทางจะมีจุดนั่งพักเป็นระยะๆ เหนื่อยก็พัก พักเหนื่อยแล้วก็เดินต่อไปได้สบายๆครับ

จุดนี้ถูกเรียกขานว่าเป็นประตูสวรรค์ อีกเพียง 140 ก้าว ก็จะถึงรอยพระพุทธบาทหลวง ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่นักแสวงบุญเดินทางมาเพื่อสักการะบูชา  ทางขึ้นจะค่อนข้างชันให้ใส่เกียร์ 1 ตลอดเส้นทางเลยครับ…

จุดสำคัญสูงสุด ของนักเดินทางก็คือจุดนี้ครับ จะเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทหลวง รอยใหญ่นั้นคือรอยพระพุทธบาทจริง ส่วนรอยเล็ก เป็นรอยพระพุทธบาทจำลอง

สถานที่ใกล้เคียงกันตรงข้ามกับรอยพระพุทธบาทหลวง จะพบกับรอยพระพุทธหัตถ์เบื้องซ้าย  อย่าลืมปิดทองและนมัสการกันนะครับ

หลังจากนมัสการรอยพระพุทธบาทหลวงกันแล้ว  ก็อย่าลืมขึ้นเขาไปต่อกันนะครับ โดยสุดสูงสุดจะเรียกว่าผ้าแดง จะมีการเขียนชื่อจารึกบุญกันไว้บนผ้าแดง ซึ่งจะมีระยะทางอีกประมาณ 1 กิโลเมตรจากรอยพระพุทธบาทหลวง  แต่ทางขึ้นจะชันกว่ามากครับ  ยังไงถ้าจะเดินขึ้นไปต่อ ต้องฟิตระดับหนึ่งเลยทีเดียว