Category Archives: อานิสงส์ผลบุญ

มีเงินน้อย อยากจะได้อานิสงส์มากๆ จะทำบุญอย่างไร โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

https://youtu.be/sTSoZ_T48MU ขึ้นต้นหัวข้อ “มีเงินน้อย อยากจะได้อานิสงส์มากๆ จะทำบุญอย่างไร” คงเป็นคำถามที่หลายๆคนก็คงคาใจเช่นเดียวกับผม ถ้าจะกล่าวถึงคนไทย ก็ต้องบอกว่า มีนิสัยที่ชอบทำบุญมากประเทศหนึ่ง เพราะตามคำสอนทางพระพุทธศาสนา จะสอนเรื่องการให้ทานไว้ด้วย อีกทั้งเมื่อมีเทศกาลสำคัญๆ คนไทยก็มักจะเข้าวัดทำบุญกันมาก เมื่อเร็วๆนี้ มีการสำรวจจาก มาสเตอร์การ์ด ระบุว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ใจบุญมากที่สุดในเอเชียประจำปี 2015 จากการบริจาคโดยทำการสำรวจตัวอย่าง 500 คน จากกลุ่มคนที่มีอายุ 18 – 64 ปี ใน 14 ประเทศทั่วเอเชีย พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามจากประเทศไทยทำบุญมากที่สุดในเอเชีย ที่ 70.5% โดยมีประเทศเวียดนามตามมาเป็นอันดับที่ 2 ที่ 70.4%  และประเทศญี่ปุ่นอยู่ในอันดับรั้งท้ายที่ 16.2% จากการทำบุญนี้ จะเน้นในเรื่องการบริจาคเป็นหลัก ผมก็รู้สึกดีใจที่คนไทยนิยมบริจาคช่วยเหลือสังคม และผมจึงเกิดคำถามในใจขึ้นมาว่า นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมแล้ว ทางพระพุทธศาสนาได้กล่าวเรื่องผลของบุญไว้อย่างไร และถ้ามีทรัพย์น้อยๆ จะทำอย่างไรให้ได้อานิสงส์มาก คำถามนี้ ผมก็ลองค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ก็ไปเจอกับคำถามเดียวกัน ซึ่งเป็นคำถามธรรมต่อหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จากหนังสือ หัวข้อเรื่องที่ ๑๕ : สารพันปัญหาว่าด้วยเรื่องทานโดย ท่านเจ้าคุณพระราชพรหมยาน จากเนื้อหาที่ได้ค้นเจอ ผมเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อพุทธศาสนิกชนอย่างมาก ประกอบกับตัวผมเองนั้นก็มีศรัทธาต่อหลวงพ่อฤาษีลิงดำอยู่แล้ว จึงขอนำบทความในหนังสือนี้ มาเผยแพร่บนบล็อกส่วนตัวของผมด้วย โดยสรุปเนื้อหา หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านได้เมตตาตอบคำถาม โดยมีเนื้อหาในเรื่องของกำลังใจเป็นหลัก คือความไม่กังวลในการทำบุญ ให้ทำตามกำลังไม่เดือดร้อน และทำบุญในขอบเขตบุญที่เหมาะสม ผมคิดว่าน่าจะเกี่ยวกับเนื้อนาบุญเป็นส่วนประกอบด้วย… Read More »

เชิญร่วมทำบุญ สร้างพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่วัดป่าสว่างบุญ เจดีย์ 500 ยอด สระบุรี

https://youtu.be/35UtrnJciX0 เชิญร่วมทำบุญ สร้างพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่วัดป่าสว่างบุญ เจดีย์ 500 ยอด สระบุรี จากบทความเดิมที่ผมได้เดินทางไปเที่ยวที่วัดป่าสว่างบุญ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่พระเจดีย์ 500 ยอด สีทองอร่าม หรือ พระมหารัตนโลหะเจดีย์ศรีศาสนโพธิสัตว์สว่างบุญ  นอกจากพระมหาเจดีย์อันสวยงามดังกล่าวแล้ว ทางวัดป่าสว่างบุญ โดยหลวงพ่อสมชาย ปุญญมโน เจ้าอาวาส ก็ได้มีโครงการดำเนินการสร้างพระพุทธสี หไสยาสน์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดความสูงเท่าตึก 16 ชั้น ( 1 ชั้น ประมาณ 3 เมตร) ยาว 159 เมตร ซึ่งต้องใช้งบประมาณสูง โดยมีพระนามว่า “พระมหาจักรพรรดิพุทธสว่างบุญ” เพื่อจารึกเป็นประวัติศาสนาบนแผ่นดินไทยว่ามีความรุ่งเรืองทางด้านพระพุทธศานาอย่างสูงสุด อีกทั้งเป็นการสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่เพื่อบูชาคุณของพระพุทธเจ้าที่ทรงสั่งสอนพระธรรม ให้ชาวโลกได้ดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องและเป็นสุข โครงการก่อสร้างนี้ เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ของคนไทยทั้งประเทศที่จะได้มีโอกาสร่วมสร้างกุศลด้วยกัน ผมจึงได้ขอมาแจ้งบุญกุศลนี้ต่อท่านผู้อ่านทุกๆคน ที่สนใจ โดยหลวงพ่อสมชาย ได้ทำการจัดสร้างวัตถุมงคล “พระสมเด็จพ่อมหาจักรพรรดิ” เพื่อมอบให้เป็นที่ระลึกแก่ผู้ร่วมทำบุญกุศลนี้   ความเป็นมาของพระพุทธรูปปางไสยาสน์ พระพุทธรูปปางไสยาสน์นี้ หรือปางโปรดอสุรินทราหู เป็นพระพุทธรูปอยู่ในอิริยาบถ นอนตะแคงขวา พระบาททั้งสองข้างซ้อนทับเสมอกัน พระหัตถ์ซ้ายทาบไปตามพระวรกาย พระหัตถ์ขวาตั้งขึ้นรับพระเศียรและมีพระเขนย (หมอน) รองรับ บางแบบพระเขนยวางอยู่ใต้พระกัจฉะ (รักแร้) ลักษณะเดียวกับปางปรินิพพานและปางทรงพระสุบิน หรือเรียกโดยทั่วไปว่าพระปางไสยาสน์ พระพุทธรูปปางไสยาสน์นี้ เรียกกันอีกชื่อคือ “ปางโปรดอสุรินทราหู”  (พระราหู) ซึ่งมีเรื่องราวเมื่อครั้งสมัยพุทธกาลที่พระพุทธองค์แสดงปาฏิหาริย์ปราบ ทิฏฐิขององค์พระราหู  ผู้เป็นราชาครองอสูร… Read More »

ผู้ใดปรารถนาจะอุปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นพึงรักษาภิกษุป่วยไข้เถิด

ผู้ใดปรารถนาจะอุปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นพึงรักษาภิกษุป่วยไข้เถิด ถ้าจะกล่าวถึงพระพุทธศาสนา พุทธศาสนิกชนทั้งหลายส่วนมากจะนึกถึงพระพุทธองค์ ที่เป็นพระศาสดาเผยแพร่หลักธรรมให้แก่สัตว์โลกทั้งหลาย หลักธรรมคำสั่งสอนนั้นพระองค์นั้นล้วนเป็นความจริง แม้ไม่มีพระพุทธองค์ หลักธรรมก็ยังเป็นจริงอยู่เสมอ สำหรับผู้ที่มีความศรัทธาและเชื่อในหลักคำสอนของพระพุทธองค์ จึงมักดำเนินชีวิตและมีแนวทางที่สอดคล้องตามหลักคำสอน และค้นหาข้อมูล เพื่อให้ตนเองดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้องที่สุด คำสอนของพระพุทธองค์จะสอนในเรื่องให้กระทำความดี ละเว้นความชั่วและทำจิตใจให้บริสุทธิ์ แต่การดำเนินชีวิตในปัจจุบันบางครั้ง พุทธศาสนิกชน หลายๆคนก็ยังอาจเผลอที่ทำผิดศีลไปบ้าง อีกทั้งเวลาในการทำงานที่ต้องใช้มากขึ้น เวลาเดินทางมากขึ้น จึงไม่ค่อยที่จะมีเวลาในการปฏิบัติธรรมมากนัก  พุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่จึงได้ใช้เวลาในวันหยุดหรือใช้ปัจจัยที่ตนเองมีอยู่ในการทำบุญ เพราะสะดวกและง่ายในการทำความดี แต่การทำความดี ก็มีระดับของบุญกุศล จากหนังสือวิธีสร้างบุญบารมี ของสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาปริณายก ได้กล่าวว่าการสร้างความดีแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ระดับต่ำคือการให้ทาน ระดับกลางคือการรักษาศีล ระดับสูงคือการบำเพ็ญสมาธิ สำหรับปุถุชนอย่างเราๆ โดยทั่วไปจึงเน้นการทำบุญที่ง่าย คือการให้ทานเป็นหลัก หลายๆคนคงจะคิดว่าแล้วการให้ทานแบบใดจึงจะให้ผลที่ดี เป็นเนื้อนาบุญที่ดี และเป็นการทำบุญอย่างชาญฉลาด ดังนั้นวันนี้ผมจึงได้ค้นหาข้อมูลของพุทธพจน์ที่ว่า “ผู้ใดปรารถนาจะอุปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นพึงรักษาภิกษุป่วยไข้เถิด”  เพื่อมาแชร์ให้ทราบว่าที่มาเป็นเช่นไร มีความสำคัญอย่างไร และคำสอนนี้จะนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร พุทธพจน์นี้มาจากคำบาลีว่า  “โย ภิกขเว มํ อุปฏฐเหยย โส คิลานํ อุปฏฐเหยย”  เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าต่อพระภิกษุทั้งหลาย และให้เป็นระเบียบปฏิบัติกันมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ที่มาของคำสอน วันหนึ่งที่วัดพระเชตวันมหาวิหาร  พระพุทธองค์ได้ทรงเสด็จ โดยทั่วไปในบริเวณวัดและผ่านพระภิกษุทั้งหลาย พร้อมทั้งให้ธรรมะแก่พระภิกษุเหล่านั้น จากนั้นพระพุทธองค์ได้เสด็จผ่านกุฏิหลังหนึ่ง แล้วหยุดอยู่ที่นั่น และทรงตรัสถามพระอานนท์ว่า “ด้านในกุฏินั้นมีใครอยู่” พระอานนท์ได้กราบทูลว่า “ด้านในกุฏินั้น มีพระภิกษุติสสะ อยู่พระพุทธเจ้าข้า” พระพุทธองค์จึงเสด็จเข้าไปภายในกุฏิ… Read More »

อานิสงส์การซื้อบาตรถวายพระ และแนะนำวิธีซื้อบาตรพระ

ถ้าจะกล่าวถึงเครื่องใช้คู่กายพระสงฆ์แล้วก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของบาตรพระมาเป็นอันดับต้นๆ บาตรพระเป็นหนึ่งในอัฐบริขารทั้ง 8 อย่างของพระสงฆ์ที่มีระบุไว้ในพระวินัย ได้แก่ สบง (ผ้านุ่ง), จีวร (ผ้าห่ม), สังฆาฏิ (ผ้าพาดบ่า), ประคดเอว, บาตร, มีดโกนหรือมีดตัดเล็บ, เข็ม และกระบอกกรองน้ำ บาตร มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลและพระพุทธองค์ได้บัญญัติไว้มีอยู่ 2 ชนิดคือ “บาตรดินเผา” และ “บาตรเหล็ก”  และพระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้ใช้โลหะเงินและทองในการทำบาตร เพราะมีมูลค่าที่สูงเกินไปอาจจะเป็นอันตรายให้หมู่โจรมาจี้ปล้นได้ และไม่เหมาะกับพระสงฆ์ที่เป็นผู้มักน้อย ซึ่งอาจจะทำให้เกิดกิเลสขึ้นมาได้ สำหรับในปัจจุบันหลายๆวัดได้นิยมใช้บาตรแบบ “สแตนเลส” เพราะสามารถที่จะดูแลรักษาได้ง่าย ทำความสะอาดง่ายคงทน น้ำหนักเบา และราคาไม่แพงนัก โดยเฉพาะพระสงฆ์ที่บวชใหม่ อาจจะบวชตามประเพณี หรือบวชเรียนซึ่งมีระยะเวลาการบวชที่ไม่นาน จะนิยมใช้บาตรประเภทสแตนเลส อานิสงส์การซื้อบาตรและสิ่งของต่างๆถวายพระสงฆ์ เรื่องราวการถวายทานต่างๆมีปรากฏในคัมภีร์อปทาน ตอน ปิลินทวัจฉเถราปทาน หมายถึงเป็นเรื่องของพระปิลินทวัจฉะ ท่านเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าทรงยกย่องพระปิลินทวัจฉะว่า เป็นผู้เลิศกว่าพระภิกษุทั้งหลายในทางเป็นที่รักแห่งเทวดา ในอดีตชาติของพระปิลินทวัจฉะ มีเรื่องราวดังนี้ ในอดีตกาลผ่านมาแล้วแสนกัป ครั้งนั้นได้มีพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งอุบัติตรัสรู้เผยแผ่พระพุทธศาสนาอยู่ ในโลก ทรงพระนามว่า “พระปทุมุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้า” ทรงประกาศพระศาสนาตั้งหลักมั่นอยู่ที่พระนครหงสวดี พระปิลินทวัจฉะเกิดเป็นผู้มีทรัพย์ได้ถวายทานแก่พระภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขด้วยสิ่งของมากมายหลายอย่าง อานิสงส์แห่งการถวายทานด้วยสิ่งของต่างๆ ย่อมให้ผลต่างกันไป หลังจากสิ้นชีพจากโลกไป ก็ไม่เคยเวียนว่ายตายเกิดในทุกขภูมิ และในชาติสุดท้ายก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในที่สุด ตามเรื่องราวของคัมภีร์จะกล่าวถึงอานิสงส์การให้ทานต่างๆ 46 ประการของพระปิลินทวัจฉะ แต่จะขอกล่าวเพียงอานิสงส์การถวายบาตรพระ ซึ่งมีดังนี้ อานิสงส์ของการถวายเชิงรองบาตร ข้าพเจ้า(พระปิลินทวัจฉะ) ได้ถวายเชิงรองบาตรในพระสุคต และพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุด เป็นผู้ไม่มีภัยในเพราะวรรณะ 5… Read More »

ผลบุญอานิสงส์การสรงน้ำพระ

ใกล้เข้ามาแล้วกับประเพณีสงกรานต์หรือเทศกาลปีใหม่ของชาวไทย ซึ่งเป็นเทศกาลที่มีความสุขมากที่สุดเทศกาลหนึ่งของคนไทยและชาวต่างชาติ จนถึงขนาดว่ามีชาวต่างชาติหลายคนที่รอคอยวันเวลาของเทศกาลสงกรานต์ของประเทศไทยเพื่อมาร่วมสนุกกันมากมาย สำหรับชาวไทย มักจะเป็นช่วงเทศกาลที่พบปะพ่อแม่ ญาติมิตร โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานในต่างจังหวัดที่ไม่ใช่บ้านเกิดของตนเอง และได้ร่วมกิจกรรมมากมายในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ เช่น พิธีสรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ และร่วมทำบุญต่างๆมากมายตามแต่ละสถานที่ ที่ได้จัดกิจกรรมขึ้น สำหรับประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนานและนิยมกันมากที่สุดก็คือ พิธีสรงน้ำพระ ตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และวัดวาอารามต่าง พิธีการสรงน้ำพระเป็นการแสดงออกที่ดีในด้านการอ่อนน้อมถ่อมตน และเป็นการแสดงออกซึ่งการเคารพและนับถือ หลายๆคนคงแปลกใจว่า การสรงน้ำพระ นั้นได้บุญจริงหรือไม่หรือได้ผลบุญอย่างไร ผมจึงขอยกบทความที่เกี่ยวข้องกับพิธีสรงน้ำพระดังนี้ ในกาลครั้งนั้นองค์สมเด็จพุทธเจ้า เสด็จประทับอยู่ ณ เชตวันมหาวิหาร พร้อมภิกษุสงฆ์ทั้งสิ้น 500 รูป พระเจ้าปัสเสนทิโกศล พร้อมด้วยมหาอำมาตย์ทั้งหลาย ได้นำ เครื่องสักการะทั้งหลาย เข้าไปสู่พระเชตะวันมหาวิหาร ถวายอภิวาท แด่พระพุทธองค์ จากนั้นพระเจ้าปเสนทิโกศล ได้กราบทูลถามว่า “ภนฺเต ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อันบุคคลใดกระทำสักการะบูชาสรงเถราภิเษก แก่สงฆ์ ด้วยใจเลื่อมใสศรัทธา จะได้ผลอานิสงส์เป็นอย่างไรพระเจ้าข้า” พระพุทธองค์ จึงตรัสว่า “ดูกรมหาราช บุคคลใด มีความเชื่อในคุณพระรัตนตรัยทั้ง 3 ประการในเมื่อปรารถนาอันใด ก็จะสม ความมุ่งมาตรปรารถนา ทุกประการ การทำเถราภิเษกนี้ได้ทำกันสืบ ๆ มาในครั้งพุทธเจ้าก่อน ๆ” จากนั้นพระพุทธองค์จึงตรัสต่อว่า ในกาลครั้งนั้นเป็นสมัยครั้งศาสนาของพุทธเจ้าเมธังกร ยังมี พระยาพระองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่าวิชัยยะ ได้เสวยสมบัติ ในเมืองสารนครประกอบไปด้วยทศพิธราชธรรม 10 ประการ มีเถระองค์หนึ่งชื่อว่าอุสสา เป็นอันเตวาสิกแห่งพุทธเจ้าเมธังกร พระยาวิชัยยะ… Read More »

อานิสงส์บูชารอยพระพุทธบาท

รูปวัดพระพุทธบาท สระบุรี ที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทเบื้องซ้าย  ภาพ : www.pixpros.net  โดย martinho ก่อนจะกล่าวถึงอานิสงส์แห่งการบูชารอยพระพุทธบาท ขอเล่าถึงประวัติที่เกี่ยวของกับเรื่องรอยพระพุทธบาทที่เกิดขึ้นในสมัยพุทธกาล ทั้งนี้เนื้อหาพุทธประวัติที่เกี่ยวข้องกับรอยพระพุทธบาทนั้นมีมากมาย แต่จะขอยกตัวอย่างเนื้อหาที่เกิดขึ้นกับ นางพราหมณ์ผู้เป็นภรรยา และพราหมณ์ผู้เป็นสามี ซึ่งมีลูกสาวชื่อ นางคันทิยา  โดยมีเนื้อหาดังนี้ พราหมณ์ผู้เป็นสามีได้เสาะแสวงหาสามีที่เหมาะสมให้ลูกสาว แต่ก็ล่วงเลยวันเวลาไปนานมากจนกระทั่งได้มาพบกับพระพุทธเจ้า  พอพราหมณ์ได้พบกับพระพุทธเจ้าซึ่งมีลักษณะแห่งมหาบุรุษ  เนื่องด้วยพราหมณ์ไม่รู้ว่าบุรุษนั้นคือพระพุทธเจ้า จึงคิดไปเองว่า บุรุษผู้นี้เหมาะสมที่จะเป็นสามีของลูกสาวตน จึงรีบเข้ากล่าวยกลูกสาวให้ แล้วได้กราบทูลขอให้พระพุทธเจ้ารออยู่ก่อน จากนั้นพราหมณ์จึงรีบกลับบ้านเพือไปตามนางพราหมณีผู้เป็นภรรยาและลูกสาวเพื่อมาพบพระพุทธเจ้า แต่เมื่อกลับมาถึงจุดที่พระพุทธเจ้าเคยประทับยืนนั้น ก็ไม่พบพระองค์แล้ว เห็นแต่เพียงรอยพระบาท พรามณ์จึงชี้รอยพระบาทนั้นให้ภรรยาดูแล้วกล่าวว่า นี่คือรอยเท้าของบุรุษผู้นั้น นางพราหมณีจึงเพ่งมองดูรอยเท้านั้น แล้วกล่าวกับพราหมณ์ผู้เป็นสามีว่า รอยเท้านี้เป็นรอยเท้าของผู้สิ้นแล้วซึ่งกิเลส ไม่มีหนทางใดที่จะนำท่านกลับเข้ามาสู่ปัญหาทางโลก   คำกล่าวนี้ เป็นภาษิตที่ปรากฏอยู่ใน ขุททกนิกาย ธรรมบท ว่า รตฺตสฺส  หิ  อุกฺกุฏิกํ  ปทํ  ภเว    ทุฏฺฐสฺส  โหติ  สหสานุปีฬิตํ มุฬฺหสฺส  โหติ  อวกฑฺฒิตํ ปทํ    วิวฏจฺฉทสฺส  อิทมีทิสํ  ปทํ โดยมีคำแปลดังนี้ รตฺตสฺส  หิ  อุกฺกุฏิกํ  ปทํ ภเว         คนเจ้าราคะ         พึงมีรอยเท้ากระหย่ง ทุฏฺฐสฺส … Read More »