Category Archives: สระบุรี

พระพุทธรูปทองคำที่เคยถูกปูนพอกทับ วัดพะเยาว์ สระบุรี

คลิปจาก FaithThaiStory พาท่องเที่ยววัดที่สระบุรี กราบสักการะหลวงพ่อทองคำ วัดพะเยาว์ จ.สระบุรี เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ล้ำค่าอีกองค์หนึ่งที่สร้างจากเนื้อโละทองคำ คล้ายที่วัดไตรมิตรฯ กรุงเทพมหานคร และเคยถูกปูนพอกทับไว้เช่นกันอีกด้วย กล่าวกันว่า พระพุทธรูปองค์นี้สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยาด้วยการหล่อองค์พระด้วยโลหะทองคำ ซึ่งจากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญจากกรมศิลปากรกล่าวว่า น่าจะมีความบริสุทธิ์ของทองคำถึง 70% ต่อมาองค์พระได้ถูกลงรักพอกปูนทับเพื่อปิดบังความล้ำค่าไว้เป็นความลับยาวนานหลายร้อยปี ก่อนที่จะอัญเชิญหลวงพ่อทองคำมาที่วัดพะเยาว์ เดิมได้ประดิษฐานที่วัดร้างแห่งหนึ่งใน อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา(บางท่านสันนิษฐานว่าคือ วัดขุนตานาค) ต่อมาราวปี พ.ศ.2420 ชาวบ้าน ต.ศาลารีไทย อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ได้สร้างสำนักสงฆ์ขึ้นในหมู่บ้าน ชื่อ วัดอุทิศสโมสร แต่ยังขาดพระพุทธรูปขนาดใหญ่ไว้เป็นพระประธาน จึงอัญเชิญพระพุทธรูปที่ตากแดดตากฝนในวัดร้างองค์นี้ มายังวัดอุทิศสโมสรเพื่อเป็นพระประธาน จนกระทั่งราวปี พ.ศ.2478 ชาวบ้านได้ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ จึงอพยพไปที่อื่น ทำให้วัดอุทิศสโมสรถูกทิ้งร้างลง พร้อมกับพระพุทธรูปปูนปั้นองค์นี้ที่ขาดการดูแลไปเป็นเวลาหลายปี ต่อมาราวปี พ.ศ.2484 ทางวัดพะเยาว์ ต้องการพระพุทธรูปประธานมาประดิษฐานในอุโบสถ ชาวบ้านจึงได้อัญเชิญองค์พระจากวัดอุทิศสโมสร มาประดิษฐานนับแต่นั้นมา ในราวปี พ.ศ.2493 ชาวบ้านได้นิมนต์พระเทพวิมลโมลี(อดีตเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี) มาเป็นพระอุปัชฌาย์บวชให้ชาวบ้าน ท่านได้มองไปที่พระประธานแล้วกล่าวว่า เป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะดี แต่ตามองค์พระมีรอยปูนแตกร้าว ไม่สมควรปล่อยทิ้งไว้เช่นนี้ จึงให้ชาวบ้านช่วยกันกะเทาะปูนออก จึงพบว่าด้านในเป็นโลหะทองคำล้ำค่า จากนั้น อาจารย์ปรีดา วีรสวัสดิ์ ซึ่งเป็นอดีตอาจารย์โรงเรียนวัดไตรมิตร ได้เชิญเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรมาตรวจสอบ จึงประเมินว่า เป็นเนื้อทองคำถึง 70% ชาวบ้านจึงขนานนามว่า หลวงพ่อทองคำ นับแต่นั้นมา ปัจจุบัน หลวงพ่อทองคำ ประดิษฐานอยู่ในวิหารจัตุรมุข วัดพะเยาว์… Read More »

ภาพเขียนสีโบราณ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ เขาพระพุทธฉาย สระบุรี

วัดพระพุทธฉาย สระบุรี เป็นสถานที่มีบันทึกเรื่องราวตำนานมากอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี โดยเฉพาะเรื่องราวของพระพุทธฉายหรือเงาพระพุทธเจ้า ที่หลายๆท่านได้เดินทางไปสักการะ อีกทั้งบนยอดเขาลมหรือเขาพระพุทธฉายแห่งนี้ มีมณฑปประดิษฐานรอยประทับพระพุทธบาท จึงเป็นสถานที่ ที่ได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวตลอดมา นอกจากเรื่องราวตำนานของพระพุทธฉายแล้ว พื้นที่แห่งนี้ ยังเป็นโบราณสถานมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มายาวนาน เพราะมีการค้นพบภาพเขียนสีโบราณ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งน่าจะราว 3,000 ปีก่อน คำว่า ก่อนประวัติศาสตร์ หมายถึง ในยุคที่มนุษย์ยังไม่มีการบันทึกหรือการประดิษฐ์ตัวอักษร เราจึงค้นหาประวัติความเป็นมาจากภาพการเขียนรูป เครื่องมือเครื่องใช้ในอดีต บริเวณที่พบภาพเขียนอยู่บนเพิงผาเดียวกับรอยพระพุทธฉาย เป็นภาพเขียนสีแดง จึงเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวหนึ่ง ที่เราจะได้สัมผัสถึงเรื่องในอดีต ที่บริเวณนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์โบราณมายาวนาน สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ผมจึงขอถือโอกาสนี้ นำข้อมูลจากกรมศิลปากร มาอธิบายไว้เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อท่านที่สนใจต่อไป ดังนี้  ภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์เขาลม (เขาพระพุทธฉาย) แหล่งเขียนภาพสียุคก่อนประวัติศาสตร์บนเพิงผาเขาลม(เขาพระพุทธฉาย) วัดพระพุทธฉาย ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี มีลักษณะเป็นภาพเขียนสีแดง ปรากฏอยู่บนเพิงผาเดียวกับพระพุทธฉาย ลักษณะของเพิงผาคล้ายหลังคา หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ความยาวประมาณ 106 เมตร ความสูงจากเชิงเขาประมาณ 20 เมตร สันนิษฐานว่าเคยเป็นที่พักอาศัยหรือประกอบกิจกรรมของมนุษย์ในอดีต เทคนิคการเขียนภาพมีทั้งแบบการเขียนโครงร่างและระบายสีทึบภายในโครงร่าง ส่วนวัสดุทำพู่กัน สันนิษฐานว่าทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น การนำเปลือกไม้มาทุบจุ่มสีแล้ววาดลงผนังหิน เนื่องด้วยภาพเขียนสีผ่นกาลเวลามายาวนานหลายพันปี จึงมีสภาพที่ค่อนข้างเลือนลาง แต่ก็ยังพอสังเกตได้บ้าง ดังนั้นขอความร่วมมือ ไม่สัมผัสบริเวณภาพเขียนสีดังกล่าว เพื่อให้มีสภาพที่คงอยู่ได้นานที่สุดต่อไปครับ ภาพเขียนผนังเพิงผาสามารถจำแนกได้ 4 ประเภท คือ ภาพคน พบทั้งภาพคนถืออาวุธ แสดงถึงการล่าสัตว์ และภาพคนเรียงกันเป็นแถวคล้ายขบวนแห่… Read More »

จารึก จปร. บนแท่งหินจากภาพวาดของมูโอต์ และวิหารร้างบนเขาพระพุทธบาท สระบุรี

  คลิปจาก FaithThaiStory ตามรอยวิหารร้างและจารึกพระปรมาภิไธย จปร. ร.ศ.๑๑๕ บนแท่งหินซึ่งปรากฏภาพแท่นหินนี้จากภาพวาดของ อ็องรี มูโอต์ นักสำรวจชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาสำรวจในสมัยรัชกาลที่ ๔ (พ.ศ.๒๔๐๑ – ๒๔๐๔) จารึกนี้เป็นอนุสรณ์เมื่อครั้งที่ รัชกาลที่ ๕ เสด็จสักการะพระพุทธบาท สระบุรี ตรงกับวันที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๓๙ (ร.ศ.๑๑๕) สวัสดีครับ ท่านผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยทางวัฒนธรรมทุกท่าน การเดินทางครั้งนี้ เป็นการเดินทางร่วมค้นหาโบราณสถานบนเขาพระพุทธบาท โดยมีทีมร่วมเดินทางจากเพจภารกิจเที่ยววัด และ เพจตามรอยวัดเก่าลุ่มน้ำลพบุรี ผมได้รับข้อมูลว่า มีวิหารร้างบนเขาพระพุทธบาท แต่น้อยคนจะทราบว่ามีโบราณสถานด้านบนนี้ นอกจากวิหารร้าง ยังพบซากโบราณสถานอีกหลายจุด เช่น วิหารแกลบ หอระฆัง เจดีย์ รวมถึงพบจารึก จปร. บนแท่นหินสูงอีกด้วย และมีข้อมูลว่าแท่นหินนี้ ได้ถูกสเก็ตภาพไว้โดย อ็องรี มูโอต์ นักสำรวจชาวฝรั่งเศสในระหว่างการเดินทางไปยังเขาพระพุทธบาท แต่ก็ยังไม่มีใครทราบว่าก้อนหินนี้อยู่ตรงไหน  การเดินทางครั้งนี้จึงเป็นการค้นหาโบราณสถาน แท่นหินในประวัติศาสตร์และจารึก จปร. พระพุทธบาทที่นี่ ถือเป็นพระพุทธบาทที่มีความเก่าแก่ และเป็นรอยพระพุทธบาทที่ค้นพบเป็นรอยแรกในผืนแผ่นดินไทย ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมแห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อครั้งที่พระสงฆ์กรุงศรีอยุธยา เดินทางไปสักการะพระพุทธบาทยังลังกา และได้รับทราบข้อมูลว่าที่กรุงศรีอยุธยาก็มีรอยพระพุทธบาทตามพระคัมภีร์ และถูกค้นพบในเวลาต่อมาโดยนายพรานบุญ เป็นผู้ค้นพบคนแรก หลังจากที่กราบสักการะรอยพระพุทธบาท เป็นที่เรียร้อยแล้ว จึงได้เดินทางขึ้นไปบนเขาพระบาทเพื่อหาซากโบราณสถานทันที ก่อนไปถึงยอดเขา จะผ่านจุดที่เรียกว่าพระพุทธฉาย ซึ่งน่าจะเป็นการสร้างและเขียนขึ้นภายหลังให้สอดคล้องกับที่วัดพระพุทธฉาย สระบุรี เมื่อเดินขึ้นมาจนถึงหน้าถ้ำพระนอน จะมีทางบันไดลงไปตามทาง… Read More »

ตามรอยทะเลดึกดำบรรพ์ ซากฟอสซิลอายุหลายล้านปี วัดรัตนประกาศิต สระบุรี

https://youtu.be/Zte_ZiYt9wE ตามรอยทะเลดึกดำบรรพ์ ซากฟอสซิลอายุหลายล้านปี วัดรัตนประกาศิต สระบุรี… สวัสดีครับวันนี้ผมจะพาทุกท่านเปลี่ยนบรรยากาศเดินทางไปตามรอยโลกดึกดำบรรพ์กันสักหน่อย เพื่อไปชมซากฟอสซิลอายุหลายร้อยล้านปี ซึ่งปรากฏบนโขดหินปูนแถบจังหวัดสระบุรี … ซึ่งสอดคล้องตามข้อมูลทางวิชาการระบุว่าพื้นที่แถบสระบุรี ลพบุรี นครราชสีมา เคยเป็นทะเลดึกดำบรรพ์มาก่อน… ก่อนหน้านี้ผมเคยเดินทางไปที่วัดคีรีนาครัตนาราม ลพบุรี ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีการสำรวจจากรมทรัพยากรธรณี และพบซากฟอสซิลเช่นกัน… การเดินทางผมใช้ GPS นำทาง โดยตั้งจุดหมายไปที่ วัดรัตนประกาศิต เส้นทางจะผ่านอุโมงค์ต้นไม้ด้วยหล่ะครับ… บรรยากาศระหว่างเดินทางจะผ่านขุนเขาธณรมชาติดูร่มรื่นดีมาก ถูกใจคนชอบบรรยากาศธรรมชาติครับ ท่านที่เดินทางมาถึง ไม่ต้องเข้าไปถึงตัววัดก็ได้นะครับ เพราะจุดที่เราเดินชมซากฟอสซิลจะอยู่บริเวณทางเข้าวัด… ส่วนตัววัดจะถัดเข้าไปเล็กน้อย ซึ่งมีบรรยากาศเงียบมาก มีแต่เหล่าสุนัขเฝ้าวัด แถมเห่าไล่อีกต่างหาก เมื่อขับรถเข้ามา เราจะเห็นโขดหินปูนด้านขวามือ ซึ่งพบซากฟอสซิลกระจายอยู่ครับ แต่ต้องสังเกตุกันดีๆด้วย…เท่าที่ทราบข้อมูลพบว่ามีการสำรวจจากกรมทรัพยากรธรณีเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ สิ่งที่ผมเสียดายคือ น่าจะมีการติดป้ายประชาสัมพันธ์ถึงแหล่งฟอสซิลล้านปี เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไปได้ เพราะนักท่องเที่ยวหลายท่านไม่มีประสบการณ์ในการดูฟิสซิลรวมถึงตัวผมด้วย ทำให้เดินหาใช้เวลานาน ผมเดินวนเวียนหานานพอสมควร จึงมาเจอร่องรอยที่มีคนสำรวจได้วงไว้ ซึ่งจริงๆแล้วน่าจะมีอีกหลายจุด แต่ผมหาไม่เจอครับ ฮ่าๆ (ด้วยความอ่อนประสบการณ์) จากข้อมูลทางวิชาการพบว่ามีซากดึกดำบรรพ์พวกแอมโมนอยด์ (Ammonoids) ซึ่งเป็นสัตว์ทะเลจัดอยู่ในไฟลัมมอลลัสกา (Mollusca) ชั้น Cephalopoda กลุ่มเดียวกับหมึกทะเลปัจจุบัน เป็นสัตว์ทะเลที่สูญพันธุ์ไปหมดสิ้นแล้ว มีเปลือกค่อนข้างหนา ขอดเป็นวง และมีสิ่งประดับบนเปลือก เช่น ปุ่ม สันและหนาม เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน มีทั้งชนิดที่ลอยตามกระแสน้ำ ว่ายน้ำหรืออาศัยบนพื้นทะเล ส่วนใหญ่ลอยบนผิวน้ำทำให้สามารถพบได้ทั้งบริเวณทะเลตื้นและลึก พบตั้งแต่ปลายมหายุคพาลีโอโซอิก พบมากในมหายุคมีโซโซอิกและสูญพันธุ์เมื่อสิ้นยุคครีเทเชียส ************ ผมใช้เวลาเดินวนเวียนสักระยะในบรรยากาศที่เงียบเหงาสุดๆ เพราะมีผมและเหล่าสุนัขมองผมอย่าง งงๆ… Read More »

ตามรอยหลวงพ่อผินะ พระผู้ละสังขารในท่านั่งสมาธิ วัดสนมลาว สระบุรี

https://youtu.be/xga_bt_bxnU ตามรอยหลวงพ่อผินะ พระผู้ละสังขารในท่านั่งสมาธิ วัดสนมลาว (วัดไทยงาม) สระบุรี… สวัสดีครับท่านผู้ติดตามเรื่องราวการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยความศรัทธา ก่อนที่ผมจะเดินทางมายังวัดสนมลาวครั้งนี้ เนื่องจากผมได้ฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับหลวงพ่อผินะจากรายการ The Shock 13  ด้วยชื่อของหลวงพ่อผินะ เป็นชื่อที่แปลกซึ่งผมไม่คุ้นเคยมาก่อน อีกทั้งมีเรื่องราวเกี่ยวกับการละสังขารของท่านอยู่ในท่านั่งสมาธิ รวมถึงทราบว่าท่านเป็นพระที่เคยศึกษาธรรมกับหลวงปู่มั่นอีกด้วย ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ผมจึงได้วางแผนเดินทางไปยังวัดสนมลาวในวันรุ่งขึ้นทันที วัดสนมลาว ตั้งอยู่ที่ ต.โคกแย้ อ.หนองแค จ.สระบุรี ซึ่งไม่ห่างจากถนนเส้นหลัก (ถนนพหลโยธิน) เท่าไหร่นัก เดินทางสะดวกมากครับ ห่างจากแยกหินกองเพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น สามารถดูแผนที่ประกอบการเดินทางด้านล่างครับ ผมใช้เวลาเดินทางไม่นานนัก จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาใช้เวลาราวๆ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เมื่อเข้ามาสู่พื้นที่วัด จะเห็นทิวเขาลูกเตี้ยๆ รายล้อมเรียงว่าเขาโป่งแร้ง ได้บรรยากาศที่ดีมากครับ บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างเงียบ ส่วนมากจะมีเฉพาะลูกศิษย์ที่นับถือหรือทราบเรื่องราวของหลวงปู่ผินะ จึงจะเดินทางมา ปัจจุบันทางวัดได้อัญเชิญสังขารของหลวงปู่ผินะจากสุสานผินะ มาเก็บรักษาไว้บนศาลาเพื่อให้ศิษยานุศิษย์ได้กราบไหว้บูชา จากการสอบถามหลวงพี่อ๊อพ พระที่วัดสนมลาวได้บอกว่า สังขารหลวงปู่ผินะได้ใช้เรซินโอบครอบไว้ เพื่อรักษาสภาพ ดังภาพที่เห็นในปัจจุบันนี้ หลวงพี่อ๊อพ ได้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวัดสนมลาวว่า แต่เดิมวัดแห่งนี้เป็นวัดร้าง ต่อมาหลวงพ่อผินะได้ธุดงค์มาถึงและเห็นว่าเป็นสถานที่เหมาะแก่การอยู่ปฏิบัติธรรมและละสังขาร ท่านจึงได้ทำการบูรณะวัดขึ้นมา ผมได้สอบถามต่อว่า วัดแห่งนี้เหลือโบราณสถานให้ได้ชมหรือไม่ หลวงพี่อ๊อพบอกว่า ยังพอมีซากอิฐโบราณหลงเหลือบนภูเขาอยู่บ้าง แต่ไม่เหลือโครงสร้างให้เห็นแล้วในปัจจุบัน ในใจผมคิดว่าจะลองขึ้นไปดูสภาพโบราณสถานที่หลงเหลือ ซึ่งหลวงพ่ออ๊อดบอกว่าสามารถขึ้นไปได้ เพราะมีบันไดขึ้น… แต่ผมก็ต้องหยุดความตั้งใจนั้นเพราะ วันเดินทางดังกล่าวไปคนเดียว จิตใจจึงหวั่นๆไม่ค่อยกล้า เลยยุติความคิดครับ ฮ่าๆ หลวงพี่อ๊อพ ได้แนะนำถึงวัตถุมงคลที่มีให้บูชาในปัจจุบัน (ปี… Read More »

วัดถ้ำพระโพธิสัตว์ สระบุรี ภาพสลักโบราณทางพุทธศาสนาเก่าแก่ที่สุดในไทย

https://youtu.be/NVi7q_FJpss สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปตะลุยท่องเที่ยววัด ชมถ้ำโบราณ ตามรอยภาพสลักโบราณทางพระพุทธศาสนาอายุกว่าพันปีและเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ที่วัดถ้ำพระโพธิสัตว์ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี  ด้วยความมีชื่อเสียงของวัดแห่งนี้คือมีถ้ำธรรมชาติ ที่มีสลักภาพศิลปะเก่าแก่ในยุคทวารวดี สันนิษฐานอายุมากกว่าพันปีและถือเป็นภาพสลักทางพระพุทธศาสนาที่เก่าที่สุดในประเทศไทย จึงเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวไปชมกันอย่างมากมาย นอกจากนี้ที่วัดยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม มีความเงียบสงบ ร่มรื่น แวดล้อมไปด้วยขุนเขาที่สวยงาม และมีธารน้ำตกยิ่งทำให้ดูร่มเย็นยิ่งนัก การเดินทางในครั้งนี้ ใช้เวลาเดินทางไม่นานนัก จากจังหวัดลพบุรี มาถึงอ.แก่งคอยใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ซึ่งทางเข้าวัดจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง (ปูนตรานกอินทรีย์)  ระหว่าที่ขับรถเข้ามา ก็จะได้ชมบรรยากาศสองข้างทาง ที่ดูร่มรื่นสวยงามของธรรมชาติ ช่างเป็นวันพักผ่อนที่วิเศษจริงๆครับ วัดถ้ำพระโพธิสัตว์มีอีกชื่อว่า ถ้ำพระงามหรือถ้ำเขาน้ำพุ ประกอบด้วย คูหาน้อยใหญ่ 6 คูหา คูหาที่มีภาพสลักบนผนัง เป็นคูหาติดทางเข้าถ้ำพระโพธิสัตว์ คูหานี้มีเจดีย์ปิดทอง ประดิษฐานโบกปูน ปูด้วยกระเบื้อง เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นภายหลังในสมัยปัจจุบันนี้ ณ ผนังด้านเหนือของคูหานี้สูงจากพื้นถ้ำราวๆ 4 เมตร มีภาพสลักนูนต่ำศิลปกรรมสมัยทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 13-14) เมื่อผมมาถึงวัด ต้องบอกว่าได้รับรู้ถึงความสดชื่นจากธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์ดีมากๆเลยครับ ผมจอดรถบริเวณป้ายทางเข้าถ้ำ ธรรมชาติที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งในวัด นั่นก็คือธารน้ำตกที่สวยงาม…ซึ่งกลุ่มนักเดินทาง ได้ทำการบันทึกภาพและชมน้ำตกสักระยะหนึ่ง กะว่าจะอัพขึ้นโซเชียล แต่พบว่าสัญญาณสื่อสารทุกค่ายดับสนิท เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ ถ้ามากันเป็นคณะควรนัดหมายเวลากันให้ดี เพราะคุณจะใช้เครื่องมือสื่อสารไม่ได้ ทางขึ้นถ้ำจะมีต้นไม้ขนาดใหญ่ พันผ้าสี ตามความเชื่อของคนไทยที่มีมายาวนานเกี่ยวกับรุกขเทวดา ระหว่างดินไปสู่ถ้ำ ก็จะได้ชมบรรยากาศแสนร่มรื่น ที่หาได้ยากในปัจจุบันถ้าเราไม่ออกเดินทางคงไม่ได้พบเจอ ในวัดจะมีทางขึ้นถ้ำหลักๆ 3 ถ้ำคือ ถ้ำพระโพธิสัตว์ ถ้ำเลียงผา… Read More »